ชัยภูมิ – ยันไม่ได้ข่มขืน อ้างอยู่ดี ๆ ถูกสาวบอกเลิก หลังดื่ม-เสพยาช่วงปีใหม่มา นัดฝ่ายสาวมาหาจึงลงมือฆ่ารัดคอเปลือยท่อนล่างดับคารถ ก่อนที่จะขับรถพาศพไปทั่วหมู่บ้าน หวังหาที่ฆ่าตัวตายตามแต่ไม่สำเร็จเชือกผูกคอขาด และเกิดอาการเครียดจัดจึงขับรถไปบอกหมอที่โรงพยาบาลให้ช่วยและแจ้งตำรวจมาจับกุมตัวเอง!
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 2 ม.ค.65 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้า พร้อม พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า หลังได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ว่ามีผู้ป่วยเป็นชาย 1 รายเข้ามาขอการรักษาตัวเนื่องจากมีอาการนอนไม่หลับ และบอกต่อหน้าเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า ได้ฆ่าผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน อยู่ภายในรถที่จอดอยู่ภายในโรงพยาบาล จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน
ภายในโรงพยาบาล บริเวณลานจอดรถ ตรวจสอบพบรถยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น jazz สีขาว หมายเลขทะเบียน ขธ 6795 หมวดจังหวัดระยอง ที่คนร้ายขับเข้ามาจอดอยู่ ตรวจสอบภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย นอนอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารข้างคนขับ สวมชุดผ้าลูกไม้สีฟ้า พบกางเกงชั้นในหลุดไปกองอยู่บริเวณเท้า และเสื้อคลุมสีขาวปิดหน้า ตรวจสอบแล้วมีรอยเลือดออกบริเวณใบหน้า และมีร่องรอยช้ำบริเวณคอ ทราบชื่อต่อมาคือ นางเอ นามสมมุติ อายุ 49 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 120 ม.6 ต.ชีลอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เบื้องต้นทราบว่ามีอาชีพเป็นพนักงานแม่บ้านอยู่ที่จังหวัดระยอง และเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปีใหม่
และภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอำเภอบ้านเขว้า พบกับผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่าหญิงสาวที่นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ทราบชื่อต่อมาคือนายพิชัย อายุ 48 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 7 ม.20 ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ให้การยอมรับสารภาพต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าหญิงสาวในรถดังกล่าวเอง
ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่า หลังติดคุกมานานกว่า 8 ปี จากคดียาเสพติด ก่อนจะพ้นโทษช่วงวันที่ 10 ตุลาคม 2564 หรือเมื่อประมาณเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้กลับมาอาศัยอยู่ที่บ้านในพื้นที่อำเภอบ้านเขว้า จากนั้นได้รู้จักกับหญิงสาวผู้ตาย ผ่านทางเฟซบุ๊กและได้พูดคุยกันมาแบบไม่เคยเจอหน้ากัน มาได้ประมาณ 1 เดือน กระทั่งเมื่อช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 64 ที่ผ่านมา ทางผู้ต้องหาได้โอนเงินไปให้ฝ่ายหญิงผู้ตายบ่อยครั้งจำนวนเกือบ 20,000 บาท ซึ่งสาวผู้ตายทำงานอยู่ที่จังหวัดระยองและได้เดินทางกลับมาบ้านที่จังหวัดชัยภูมิเมื่อช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 64 จึงได้นัดเจอกับสาวและผู้ต้องหาเป็นครั้งแรก จนกระทั่ง ภายในวันที่ 1 มกราคม 65 ทางหญิงสาวได้เดินทางมาหาผู้ต้องหา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 65 แต่ได้เกิดผิดใจกัน ระหว่างที่นั่งรถยนต์คันเกิดเหตุเพื่อพูดคุยกันภายในรถไปด้วยกัน
แต่เนื่องจากฝ่ายหญิง บอกว่า อยู่ดีๆจะขอเลิกยุ่งเลิกติดต่อกัน ซึ่งนายพิชัย(ผู้ต้องหา) อ้างว่าด้วยความที่ตนเองได้ดื่มสุราและเสพยาบ้ามาก่อนแล้ว บวกกับรับไม่ได้ที่ฝ่ายหญิงกล่าวเช่นนั้น จึงตัดสินใจลงมือฆ่าระหว่างจอดรถคุยกันที่บริเวณเส้นทางระหว่างหมู่บ้านราษร์ยางชุม – บ้านป่ายาง เขตพื้นที่ ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
โดยผู้ต้องหา รับสารภาพว่าใช้มือบีบคอ ผู้ตายและใช้สายเข็มขัดนิรภัยรัดเข้าที่คอของผู้ตาย ขณะที่ผู้ตายนั่งอยู่ในเบาะรถฝั่งคนขับจนแน่นิ่งไป จากนั้นได้ย้ายผู้ตายมานั่งที่เบาะข้างคนขับ ผู้ต้องหาจึงขับรถวนไปวนมา อยู่ในละแวกหมู่บ้าน ในเขตตำบลลุ่มลำชี อำเภอบ้านเขว้า อยู่นานพักใหญ่และยังบอกอีกว่าตนเองได้ตัดสินใจที่จะปิดชีพตัวเองเพื่อฆ่าตัวตายตามโดยการผูกคอตาย แต่ไม่สำเร็จเพราะเชือกขาด
ก่อนถึงช่วงเวลาประมาณเกือบ 24.00 น. ที่ผ่านมา จึงขับรถมาที่ตัวอำเภอบ้านเขว้า โดยอ้างว่าจะมามอบตัวที่สถานีตำรวจ แต่ได้ตัดสินใจเข้าไปที่โรงพยาบาลอำเภอบ้านเขว้าก่อนเพราะรู้สึก ปวดหัว นอนไม่หลับเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้เล่าเหตุการณ์เรื่องราวให้กับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ฟัง ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับกุมตัวเองในครั้งนี้
ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 10.30 น.วันที่ 2 ม.ค.65 ด้าน พ.ต.อ.อานุภาพ ผิวอ่อน ผกก.สภ.บ้านเขว้า หลังได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับ พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเขว้า หลังได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วจึงได้นำตัวเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุบริเวณเส้นทางระหว่างหมู่บ้านราษร์ยางชุม – บ้านป่ายาง ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ และจุดจอดรถฆ่ารัดคอสาวเสียชีวิตคารถเก๋งในครั้งนี้
และล่าสุดผลการส่งร่างผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่ รพ.ชัยภูมิ แล้วซึ่งไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืนแต่อย่างใด ซึ่งผู้ต้องหาเอง ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการข่มขืนแต่อย่างใด และยอมรับสารภาพว่าใช้สายเข็มขัดนิรภัยรถรัดคอสาวจนเป็นเหตุให้สาวเสียชีวิตเพราะความโกรธที่ถูกสาวบอกเลิกในครั้งนี้เท่านั้น และอยากฝากขอโทษญาติสาวที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็รักสาวคนนี้มากและพยายามทำงานหาเงินมาช่วยส่งให้สาวรายนี้ตามที่สาวจะขอมาก็ส่งเงินให้มาตลอด ก่อนมาถูกบอกเลิกจึงเกิดอารมณ์โกรธคุมสติตัวเองไม่ได้จึงก่อเหตุครั้งนี้ขึ้น ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวส่งฝากขังที่เรือนจำชัยภูมิ ระหว่างรอรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามกฎหมายต่อไป
