ชัยภูมิ – ถูกรวบตัวได้อีกทันควัน ซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่สอง หลังเพิ่งพ้นโทษออกมาจากการขโมยเต่าภายในศาลฯไปขายจนต้องติดคุกมาแล้วครั้งแรก คราวนี้หวังใช้มีดงัดตู้รับบริจาคภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลชั่วคราว เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิสิ่งศักดิ์คู่เมืองชัยภูมิมาแต่โบราณจนปัจจุบัน ก่อนที่จะมีคนไปพบยังทำทีตีเนียนเดินหอบเงินสดมากกว่าครึ่งแสน ห่อใส่เสื้อตัวเองเดินออกมาหน้าตาเฉย ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันจับตัวไว้ได้ ส่ง ตร.ดำเนินคดีตามระเบียบซ้ำอีก!
( 26 ม.ค.65 ) เหตุหัวขโมยไม่กลัวบาปรายนี้ ใช้มีดแอบเข้าไปงัดตู้รับบริจาค ภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลชั่วคราว ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล (รูปเหมือนหล่อจำลอง) เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชัยภูมิมานานแต่โบราณจนปัจจุบัน และจะมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้สักการะขอพรกันเคยไม่ขาด ตั้งอยู่หน้าหนองปลาเฒ่า ชุมชนบ้านหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ
ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 17.45 น.ของวันที่ 25 ม.ค.65 ที่ผ่านมา มีกล้องวงจรปิดจับภาพขณะคนร้ายรายนี้เข้ามาก่อเหตุไว้ได้ ในช่วงใกล้ค่ำที่ยังมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ สักการะเจ้าพ่อพญาแล เริ่มเบาบางลง คงเหลือผู้ที่เข้าไปกราบไหว้ภายในศาลฯ ไม่กี่คนประมาณ 4-5 คน
ขณะที่ชาวบ้านที่เหลืออยู่ในศาลฯ ได้กราบสักการะเจ้าพ่อพญาแลอยู่นั้น หญิงรายหนึ่งที่อยู่ในศาลเดินไปพบว่ามีชายคนหนึ่งกำลังงัดตู้บริจาคที่ตั้งอยู่ด้านหลังรูปหล่อจำลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล และร้องเรียกให้คนช่วยกันจับตัว ก่อนที่ชายคนดังกล่าวที่ใส่กางเกงขาสั้นลายพราง ใส่เสื้อยืดสีขาวยังทำทีเดินออกมาใช้เสื้อตัวเองอุ้มเอาเงินที่ได้มาจากการงัดตู้บริจาคใส่ไว้ในด้านหน้าท้องเสื้อยืดของตนเอง
หญิงวัยกลางคนที่เห็นชายคนนี้งัดตู้บริจาค จึงรีบร้องตะโกน ให้คนเข้ามาช่วยจับชายที่กำลังอุ้มเงินขโมยจากตู้บริจาคไว้ในเสื้อยืด โดยได้ช่วยกันกดตัวคนร้ายนอนลงกับพื้นบริเวณในศาลฯ และมีธนบัตรจำนวนมากกระจัดกระจายออกมาเกลื่อนพื้น ต่อหน้าประชาชนที่กำลังมาไหว้เจ้าพ่อพญาแลในช่วงนี้พอดี และโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ มาตรวจสอบที่เกิดภายในศาลเจ้าพ่อพญาแลชั่วคราว ชุมชนหนองปลาเฒ่า ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ก่อนควบคุมตัวชายก่อเหตุไปสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
ซึ่งวันนี้ (26ม.ค.65) ทีมข่าวลงพื้นที่ ศาลเจ้าพ่อพญาแลชั่วคราว พบกับ นางศิริพร เมตราชาติ 58 ปี ผู้ดูแลศาลเจ้าพ่อพญาแล ได้เล่าให้ฟังว่า คนก่อเหตุเป็นชายคนเร่ร่อน ได้มาอาศัยหลับนอนในพื้นที่ศาลเจ้าพ่อพญาแลชั่วคราว ที่อยู่ระหว่างย้ายมารอในการก่อสร้างศาลแห่งใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ และคอยช่วยงานในศาลฯ ตนก็ให้เงินไปซื้อข้าวกินบ้าง
แต่วานนี้วันเกิดเหตุไม่ทราบว่าเขาคิดอย่างไร เวลาเกิดเหตุชายเร่ร่อนคนนั้นได้เดินมาอุ้มตู้รับบริจาคเงิน เข้าไปด้านหลังรูปเหมือนหล่อเจ้าพญาแล ทั้งที่ไม่มีใครบอก ด้วยความสงสัยได้ยินเสียงผิดสังเกตจึงเดินเข้าไปดูจึงเห็นกำลังใช้มีดปลายแหลมงัดตู้รับริจาคเงินและกำลังเก็บกวาดเอาเงินในตู้ ตนเองจึงตะโกนเรียกให้คนช่วยจับไว้ ก่อนโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมควบคุมตัวชายคนก่อเหตุไปสอบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ นับเงินในตู้บริจาคในตู้ที่คนก่อเหตุครั้งนี้เกือบได้ไป มีทั้งธนบัตร 1,000 จำนวน 22 ฉบับ ธนบัตร 500 จำนวน 9 ฉบับ ธนบัตร100บาทจำนวน 25 0ฉบับ ธนบัตร 50 บาท จำนวน 14 ฉบับ ธนบัตร 20 บาท จำนวน 193 ฉบับและเหรียญ จำนวน 30 บาท รวมกว่า 56,090 บาท
ขณะที่ พ.ต.ท. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของคดีได้นำตัวนายปรีชา จิตประทุม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่12 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ผู้ก่อเหตุ ใช้มีดงัดตู้รับบริจาคที่ตั้งอยู่หน้ารูปเหมือนหล่อเจ้าพ่อพระยาแล ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อพระยาแล มาสอบปากคำเพิ่มเติม นายปรีชา ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ทำไปเพราะความเมา อยากได้เงินไปซื้อเหล้ามาดื่ม ซึ่งเคยถูกติดคุกมาแล้วครั้งหนึ่งในคดีขโมยเต่าเจ้าพ่อพญาแลไปขายต่อให้กับชาวบ้านที่มากราบไหว้เจ้าพ่อพญาแล ต้องการปล่อยเต่าเพื่อทำบุญ ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นความคิดชั่ววูบพราะความเมาขึ้นจึงก่อเหตุครั้งนี้ขึ้นอีกครั้งนี้เท่านั้น
ก่อนที่ทาง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ เบื้องต้นได้ตั้งข้อหากับผู้ต้องหารายนี้ในข้อหาลักทรัพย์ในสถานที่บูชา สาธารณะ โดยทำอันตรายกับสิ่งกีดกั้น ก่อนนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดชัยภูมิเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
