ชัยภูมิ –ก่อนข้ามถนนมาโรงเรียนทุกวัน เด็กนักเรียน คณะครูโรงเรียนบ้านช่อระกา ฝากวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยทำทางม้าลายติดตั้งป้ายไฟสัญญาณจราจรเตือนช่วยชะลอความเร็วหลังเกิดทางเชื่อมขยายถนนเป็น 4 เลน ไม่มีทางม้าลาย-จุดป้ายสัญญาณไฟจราจรเตือนให้เด็กข้ามถนนมาโรงเรียนสุดเสี่ยงอันตราย ถูกรถเฉี่ยวขับมาด้วยความเร็วระหว่างข้ามถนนมาเรียนแล้วหลายครั้ง!!
(11 ก.พ.65) ที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องขอให้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่บริเวณถนนหน้าโรงเรียนบ้านช่อระกา หมู่ 9 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในช่วงตอนเช้าของทุกวันที่จะต้องมีเด็กนักเรียนใช้เดินข้ามถนนมาโรงเรียน ซึ่งจะพบเห็นมีผู้ปกครองนำลูกหลานของตัวเองเดินมาส่งหน้าโรงเรียน และมีเด็กโตจำนวนหนึ่งมาโรงเรียนโดยไม่มีผู้ปกครองมาส่งเพราะเป็นโรงเรียนใกล้หมู่บ้าน
และต้องพากันเดินข้ามถนนหน้าโรงเรียนที่ได้มีการขยายถนนมาถึงหน้าโรงเรียนในปัจจุบันเป็นขนาด 4 ช่องจราจร(เลน) ผ่านที่ทางเข้าหน้าโรงเรียนด้วยความระมัดระวัง และต่างกลัวว่ารถที่วิ่งมาทางตรงด้วยความเร็ว จะมาเฉี่ยวชนเด็กเสี่ยงอันตรายมาตลอดในช่วงนี้ ซึ่งเป็นถนนทางหลวงจังหวัด ถนนสายหลักสาย 2051 ชัยภูมิ -ตาดโตน
ซึ่งทุกเช้า หรือตอนเย็นของทุกวันที่เด็กมาเรียนหนังสือ คณะครูของโรงเรียนบ้านช่อระกา จะคอยผลัดเปลี่ยนกันมานำพาเด็กนักเรียนเดินข้ามถนนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากถนนหน้าโรงเรียนเป็นเส้นทางลงและขึ้นเนิน ซึ่งเป็นถนนทางเชื่อมถนนขนาด 4 ช่องจราจร และไม่มีจุดเตือนเป็นทางม้าลาย หรือมีป้ายเตือนให้ชะลอความเร็ว และไฟสัญญาณจราจรเตือน เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบว่ามีโรงเรียนข้างหน้า ซึ่งมีเด็กนักเรียนกว่า 200 ชีวิต ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ม.3 ของโรงเรียนบ้านช่อระกา ดังกล่าว
ส่วนหนึ่งต้องใช้ชีวิตเสี่ยงอันตรายแทบทุกวันในขณะนี้ ที่อาจจะถูกรถเฉี่ยวชนในตอนเช้ามาโรงเรียน และเลิกเรียนกลับบ้านในตอนเย็นได้ ตั้งแต่มีการเข้ามาดำเนินการก่อสร้างถนนขยายเป็น 4 เลนช่องทางจราจรสายนี้มานานหลายเดือน ซึ่งเป็นถนนกว้างขึ้นขนาด 4 ช่องการจราจรใช้ความเร็วได้มากขึ้น ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเชื่อมระหว่างตัวจังหวัด ขึ้นไปทางทิศเหนือมุ่งสู่มหาวิทยาลัยประจำจังหวัดราชภัฎชัยภูมิ ไปทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน และเชื่อมไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญไปมอหินชาว-ผาหัวนาค ภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา พื้นที่รอยต่อ ต.ท่าหินหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
และในแต่ละวันมีผู้ใช้รถผ่านเส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีทั้งป้ายเตือน ไฟสัญญาณจราจร หรือทางม้าลาย ที่บอกให้ข้างหน้ามีโรงเรียนมีเด็กและคนที่จะรอข้ามถนนในจุดนี้เป็นจำนวนมากในทุกวัน เพื่อที่ผู้ขับรถผ่านจะได้ช่วยชะลอความเร็วของรถลง และทุกวันนี้ชีวิตของเด็กนักเรียน ต้องพึ่งให้คณะครู มาคอยอำนวยการจราจร และคอยนำพาเด็กนักเรียนข้ามถนน ที่ผ่านมาเคยเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนในจุดนี้มาแล้วก็บ่อยครั้ง
โดยทั้งตัวแทนผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านช่อระกา บอกว่า ต้องเดินข้ามถนนมาโรงเรียนทุกวันที่มาเรียนหนังสือ ทุกครั้งกลัวว่ารถที่แล่นผ่านใช้ความเร็วได้มากขึ้นเพราะเป็นช่วงถนน 4 เลน ขับวิ่งมาด้วยความเร็วได้มากขึ้นจะเฉี่ยวชนเอาและต้องรอเพื่อนนักเรียนด้วยกันมารอคิวข้ามถนนครั้งละหลายคนเป็นกลุ่มใหญ่ก่อนจึงข้ามถนนมาโรงเรียนได้ในแต่ละครั้ง
รวมถึงนายจิรวัฒน์ รัตนอาภรณ์ ครูโรงเรียนบ้านช่อระกา เล่าว่า คุณครูต้องมาอำนวยความสะดวกให้เด็กข้ามถนนทุกวันในตอนเช้าและหลังเลิกเรียน และคอยโบกรถให้ชะลอความเร็ว ให้เด็กนักเรียนได้ข้ามถนน บางครั้งคนขับรถก็ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ เพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน เกรงจะเกิดอันตรายต่อลูกศิษย์เด็กนักเรียนที่นี่ในขณะนี้เป็นอย่างมาก จึงอยากวอนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาติดตั้งป้ายเตือน และมีทางม้าลายที่เป็นจุดเด่นเตือน และมีสัญญาณไฟจราจร มาช่วยเตือนป้องกันเสริมในช่วงข้ามถนนบริเวณหน้าโรงเรียนในจุดนี้ เพื่อที่เด็กนักเรียน จะได้ข้ามถนนด้วยวามปลอดภัยมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันด้วย
