ชัยภูมิ – ชาวบ้านในพื้นที่ต่างเริ่มพากันหวาดผวาโค้งมรณะ ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาคร่าชีวิตคนมาต่อเนื่องแล้วมากกว่า 5 ศพ เพราะจุดนี้เป็นจุดโค้งอันตรายที่ไม่มีเสาไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายแจ้งเตือนเส้นทางโค้งอันตรายที่เพียงพอในเวลากลางคืน จนมักเกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตมาแล้วบ่อยครั้ง วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยแก้ปัญหา!!!!!
เมื่อช่วงกลางดึก วันที่ 26 พ.ย.61 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ติงคะเสริด สว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดอุบัติเหตุมีรถกระบะชนกับรถจยย.บริเวณทางโค้ง บนถนนสาย 2389ร ะหว่างรอยต่ออำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ไปอำเภอหนองเรือ จ.ขอนแก่น ช่วงกม.ที่ 11 บ้านโนนส้มกบ หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแก้ง อำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย จึงเร่งประสานไปยังหน่วยกู้ภัยและเวรโรงพยาบาลแก้งคร้อ ร่วมออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน 1 ฒข 5207 กทม.จอดเสียหลักอยู่กลางถนน สภาพด้านหน้าซ้ายพังยับ โดยมีซากรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโนวา หมายเลขทะเบียน กยน704 นครสวรรค์ สีเทาดำ ติดคาอยู่ในสภาพพังยับเยินเช่นกัน
และใกล้กันยังพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพแขนขาผิดรูปสวมเสื้อยีนส์แขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว ซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายดวงมณี แดงโชติ อายุ 60 ปี และห่างกันออกไปด้านท้ายรถกระบะ พบร่างผู้เสียชีวิตเพศหญิงสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อต กางเกงสีดำสภาพศพกะโหลกเปิด เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ จนท.ไม่พบเอกสารหลักฐานประจำตัวแต่อย่างใด ซึ่งทั้งสองน่าจะเป็นสามีภรรยามาด้วยกัน
จากการสอบถามนางสุภาภรณ์ ศรีบุญ อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 6 ตำบลกุดข้าวน้อย อำเภอภูเวียง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์กระบะและเป็นคนขับรถคันดังกล่าวมา เล่าว่า ขณะที่ตนเองขับรถยนต์มาพร้อมกับลูกชายวัย 5 ขวบและ 8 ขวบ มาจากเยี่ยมพ่อแม่ที่อำเภอภูเวียง เพื่อที่จะกลับไปทำงานที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและค่อนข้างมืดมาก ขณะนั้นตนเห็นมีรถจยย.คู่กรณีขับวิ่งสวนมา แต่จู่ๆ รถจยย.คันดังกล่าวได้หักข้ามเลนมาตัดหน้ารถของตนในระยะกระชั้นชิด ตนจึงเหยียบเบรกแต่ไม่ทันแล้ว รถยนต์ของตนเองจึงพุ่งชนกับรถจยย.เข้าอย่างจัง จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ตัวเธอเองและลูกชายทั้ง 2 คนปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ยังอยู่ในอาการตกใจ ยืนรอจนท.มาช่วยตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง เล่าว่า บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งและเป็นทางแยกเข้าหมู่บ้าน มีปัญหาการเกิดอุบัติเหตุในจุดนี้บ่อยครั้งมาก เพราะไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเพิ่มไฟและป้ายเตือนที่เห็นชัดเจนให้มากกว่านี้ด้วย ซึ่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุเป็นประจำ มีคนบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก และมีคนเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ราย
ด้าน ร.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ติงคะเสริด สว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ จะทำการติดต่อญาติผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เพื่อเจรจาตกลงค่าเสียหายกับคู่กรณีซึ่งมีประกันภัยชั้น1 และในส่วนของคดีความ ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
