ชัยภูมิ – ลูกค้า ผู้บริโภคที่นิยมชื่นชอบ บริโภคปลาร้าที่เป็นอาหารอยู่คู่กับชาวอีสานมาช้านานแต่โบราณต่างยังเข้าใจว่าก่อนซื้อหานำไปบริโภค เป็นคนละยี่ห้อกันกับปลาร้าแซ่บหลาย”พระบิดา” ประชาชนในพื้นที่และผู้บริโภค ได้เข้าใจเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตมาวางขายที่มีที่ไปที่มาการผลิตได้มากขึ้น ยันหากพบชื่อยี่ห้อปลาร้าส่งมาจากสำนักลัทธิประหลาด หรือไม่มีมาตรฐานรับรอง ยันไม่มีพ่อค้าแม่ขายคนใดนำมาวางขายเด็ดขาด!
( 13 พ.ค.65) ทีมข่าวลงสำรวจย่านตลาดสดกลางใจเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายใหญ่สุดที่ขายปลาร้าทุกชนิดในเมืองชัยภูมิ บรรดาแม่ค้าขายปลาร้ายังคงนำปลาร้าของตนเองมาวางขายเป็นปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชาวชัยภูมิและผู้บริโภคจะรู้ว่าเป็นคนละยี่ห้อกัน กับปลาร้ายี่ห้อแซ่บหลาย ที่ผลิตออกมาจากสำนักลัทธิประหลาด”พระบิดา”
แม้หลังมีข่าวหมอปลา ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าบุกค้นสำนักปฏิบัติธรรมลัทธิประหลาด เมื่อวันที่ 8 พ.ค.65 ที่ผ่านมา และพบมีการบุกรุพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เกิดขึ้นที่หมู่บ้านกุดแคน หมู่ 2 ต. ดงกลาง อ. คอนสาร จ. ชัยภูมิ และได้ควบคุมตัวฤาษี”โจเซฟ”ที่อ้างตัวเป็น”พระบิดา” อ้างว่าเป็นใหญ่กว่าทุกศาสนา และมีการให้สาวก หรือ ลูกศิษย์กินปัสสาวะ อุจจาระ เสมหะ ขี้ไคล โดยอ้างว่ากินแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ และหายจากโรคที่เจ็บป่วยทุกชนิดได้
นอกจากนี้ ยังพบศพเน่าอีก 11 ศพ มีการต่อท่อนำน้ำเหลืองจากศพเน่าออกมาให้รักษาผู้ป่วย ซึ่งยังไม่มีเอกสารยืนยัน 5 ศพ ซึ่งทราบชื่อเจ้าลัทธิภายหลังชื่อคือ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 1 บ้านโนนสะอาด ต.โนนสะอาด อ.หนอเรือ จ.ขอนแก่น ซึ่งเบื้องต้นถูกจับดำเนินคดีใน 2 ข้อหาหาบุกรุกป่าพื้นที่สาธารณะประโยชน์ และ พรก.ฉุกเฉิน สาธารณสุข ควบคุมโรคโควิด -19
ก่อนถูกส่งตัวส่งฝากขังศาลภูเขียว จ.ชัยภูมิ และได้รับประกันตัวในชั้นศาล ออกไปได้ในขณะนี้ได้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฏหมายอีกหลายคดีเพิ่มเติมต่อไป
รวมทั้งคดีที่พบเพิ่มอีกล่าสุดที่ทาง สสจ.ชัยภูมิ ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อ จนท.ตร.สภ.คอนสาร กับฤาษี”โจเซฟ” เจ้าลัทธิประหลาดรายนี้ หรือ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี และพวกที่มีสาวกชาวบ้านบางส่วนร่วมกัน ทำผิดพระราชบัญญัติอาหารปี 2522 มาตรา 4 ผลิตปรุงแต่ง แบ่งบรรจุจากปลาร้าเป็นผลิตภัณฑ์ปลาร้าบองใส่ตลับฝาสีแดง ยี่ห้อแซ่บหลาย เป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ไม่สะอาด และเป็นอาหารที่ไม่ปลอดภัย การผลิตอาหารไม่รับอนุญาต และไม่ผ่านการรับรองของ อย. ซึ่งจะมีโทษถูกดำเนินคดีตามมาตรา 53 ฐานความผิดจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท อีกคดีด้วยในขณะนี้เพิ่มเติม
หลังการเข้าตรวจค้นภายในสำนักประหลาด ยังพบว่ามีการทำปลาร้ายี่ห้อแซ่บหลาย ส่งออกไปจำหน่ายจากสักนักลัทธิ”พระบิดา” ส่งขายตามร้านค้าในหมู่บ้าน อำเภอรอบนอก ทาง สสจ.ชัยภูมิ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจตามร้านค้าในหมู่บ้าน ในอำเภอคอนสาร พบว่ามีปลาร้าบองที่ใส่ตลับบรรจุอยู่ชื่อยี่ห้อแซ่บหลายตลับฝาสีแดง อยู่ในร้านค้า 2 แห่ง ได้ให้เจ้าของร้านเก็บปลาร้าบองยี่ห้อแซ่บหลายออกจากร้านค้าทั้งหมดพร้อมอายัดไว้เป็นของกลางแล้ว
ส่วนวันนี้ล่าสุดการตรวจสอบร้านค้าในพื้นที่อื่นๆทั้ง 16 อำเภอ ของ จ.ชัยภูมิ ก็ยังไม่พบปลาร้าบองแซ่บหลายของสำนักประหลาด หรือปลาร้าบองพระบิดาวางขายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
และในการออกสำรวจของทีมข่าว ในการนำปลาร้าทุกชนิดวางขายในย่านตลาดย่านกลางใจเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ในวันนี้(13 พ.ค.65) พ่อค้าแม่ค้าในตัวเมืองชัยภูมิ ส่วนใหญ่บอกว่า หลังเป็นข่าวที่โด่งดั่งไปทั่วประเทศและทั่วโลกเรื่องปลาร้าพระบิดา ฤาษีเจ้าสำนักลัทธิประหลาด กลุ่มแม่ค้าปลาร้ายอมรับครั้งแรกรู้สึกวิตกกังวลกับยอดขายเหมือนกัน ซึ่งกลัวว่าปลาร้าของตนเองจะขายไม่ได้ ยอดขายตก ประชาชนจะไม่กล้ากินปลาร้า
แต่ที่ผ่านมาในพื้นที่ชาวชัยภูมิ ก็เข้าใจว่าเป็นเพียงยี่ห้อเดียวคือปลาร้าบองแซ่บหลาย พระบิดาเท่านั้น ยี่ห้ออื่นที่ทำมาขายขณะนี้ยอดขายปลาร้าทุกชนิดก็ยังไม่ลด และลูกค้าประจำ หรือประชาชนทั่วไป เริ่มเข้าใจและแยกแยะได้มากขึ้น ซึ่งยังทำให้การสนใจที่จะซื้อปลาร้าในร้านค้าทั่วไปยังมีลูกค้าอยู่ เพราะปลาร้าเป็นอาหารของแซบอีสาน หรือชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มายาวนานแต่โบราณ ผู้บริโภคก็ควรรู้ว่ายี่ห้อไหนไม่ดีมีที่มาผลิตไม่ดีก็ไม่ซื้อก็เท่านั้น
ซึ่งปลาร้าทุกชนิดที่วางขายในแผงตลาดสดเทศบาลเมืองชัยภูมิ จะเป็นปลาร้าที่ผลิตในอำเภอเมืองชัยภูมิทั้งสิ้น นำปลามาจากบึงหาน จากแม่น้ำชี จากลำปะทาว ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าปลาร้าที่วางขายยี่ห้ออื่นๆยังมีคุณภาพเหมือนเดิมมาหาเลือกซื้อได้ เพราะเป็นร้านเก่าแก่ ขายมานาน ขบวนการผลิตก็สะอาด ได้รับการตรวจและรับรองจากสาธารณสุข จ.ชัยภูมิ และส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจเป็นประจำ จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจในแผงขายปลาร้าย่านตลาดในเมืองชัยภูมิ ยังคงขายได้ปกติ
โดยปลาร้าที่วางขายมีชนิดต่าง ๆ และราคาแตกต่างกันออกไป โดยปลาร้ารวมกิโลกรัมละ 25 บาท ปลาร้าปลากระดี่ กิโลกรัมละ 60 บาท ปลาร้าปลาตัดหัวกิโลกรัมละ 60 บาท ปลาบด 60 บาท ปลาร้าน้ำต้มปรุงสุก กิโลกรัมละ 30 บาท
ซึ่ง แม่จุ๋ม และนางกาญจนา หาญจิต อายุ 57 ปี แม่ค้าขายปลาร้าในตลาดเทศบาล 2 เมืองชัยภูมิ กล่าวอีกว่า ตนเองขายปลาร้าที่นี้มากว่า 30 ปี หรือทั้งชีวิตที่ขายปลาร้ามา หลังเกิดกระแสข่าวปลาร้าบอง”พระบิดา” ขึ้นมาตอนแรกพวกตนก็เกิดความวิตกกังวลกับยอดขายเหมือนกัน แต่เมื่อลูกค้ามาสอบถามได้อธิบายปลาร้าที่วางขายที่นี้ไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่มีการนำมาขายเด็ดขาด และเป็นปลาร้าเมืองชัยภูมิ ลูกค้าเข้าใจมีเหตุมีผลในการพิจารณาเลือกซื้อได้ไม่ยาก ทำให้ยอดขายไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
