ชัยภูมิ – ล่าสุดชุด รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่เร่งตรวจสอบหาหลักฐานในพื้นที่ตั้งสำนักลัทธิประหลาดเพิ่มอีกรอบที่ 3 พร้อมเร่งรวบรวมหลักแจ้งดำเนินคดีพร้อมสาวกเอี่ยวรุกป่าทำไม้เถื่อนเพิ่มล่าสุดอีกรวม 8 ข้อหาหนัก!
( 14 พ.ค.65 ) มีรายงานความคืบหน้าล่าสุดกรณี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมทีมงานสื่อมวลชนหลายสำนักประสาน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.คอนสาร พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรมปลัดที่ตั้งอยู่กลางป่า ในหมู่บ้านกุดแคน หมู่ที่ 2 ตำบลดงกลาง อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
หลังมีชาวบ้านร้องเรียน ว่าบริเวณสำนักแห่งนี้มีการกักขังผู้มาปฏิบัติธรรมและรักษาโรคโดยวิธีการแบบแปลกประหลาดไม่ถูกสุขลักษณะ จึงนำกำลังเข้าดำเนินการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 65 ที่ผ่านมา จากการตรวจสอบพบ นายทวี หนันลา อายุ 74 ปี บุคคลซึ่งอ้างตนว่าเป็นฤาษี และเป็นพระบิดา ผู้ยิ่งใหญ่กว่าทุกศาสนา อยู่ในสำนักดังกล่าว สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ จนมีชาวบ้านหลงเชื่อมารักษาตัวจนตั้งลัทธิรักษาโรคแบบประหลาดพิสดาร ด้วยการให้กินอุจาระ ปัสสาวะ เสมหะ ขี้ไคล ตนเอง และมีการใช้น้ำเหลืองจากศพเน่ามาเป็นยารักษาโรคได้ทุกชนิด
ซึ่งพบมีการเก็บโลงบรรจุศพไว้ปล่อยให้เน่าและมีการต่อท่อเอาน้ำเหลืองออกใส่ถึงเก็บไว้ อีกจำนวน 11 ศพ บางศพก็มารักษาอาการป่วยและเสียชีวิตในสำนัก บางศพก็เสียชีวิตที่บ้านแล้วนำศพมาให้พระบิดาเก็บไว้ตามความเชื่อว่าจะได้รอทำพิธีช่วยให้ขึ้นสวรรค์ได้
หลังล่าสุดวานนี้ (13 พ.ค.65) นายชาญชัย ศรศรีวิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่การปกครองจังหวัดตำรวจ ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนท.สนง.ปศุสัตว์และ จนท.จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบเก็บหาหลักฐานต่าง ๆ โดยแยกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ได้ออกหาหลักฐานมานำมารวบรวมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับพระบิดา เจ้าสำนักลัทธิประหลาดรายนี้เพิ่มด้วย โดยได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิได้เก็บตัวอย่างน้ำหมักต่าง ๆ ในโอ่งนับ 100 ใบพร้อมทั้งเก็บตัวอย่างน้ำในบ่อหมักปลาร้าบองเพื่อส่งไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการณ์สาธารณสุขฯ เพิ่มเติม
ส่วนเจ้าหน้าที่ อส.ฝ่ายปกครองได้ขุดหาหลักฐานต่างๆโดยรอบนำนักฯ นอกนั้นยังได้ให้ปศุสัตว์ได้มาทำการตรวจนับสัตว์ต่าง ๆ ทั้งที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย พร้อมทำบัญชีการตรวจนับ พบว่าภายในวัดยังมีสัตว์จำนวนมากประกอบด้วยประกอบด้วยโค (วัว) 11 ตัว กระบือ (ควาย) 5 ตัว กวางพันธุ์รูซ่า 15 ตัว ไก่ไข่ประมาณ 30 ตัว ไก่พื้นเมืองและไก่งวงอีกจำนวนหนึ่งที่กระจายอยู่ตามตันไม้ในพื้นที่ เป็ดเทศ ประมาณ 15 ตัว สุนัขประมาณ 40 ตัว แมว 20 ตัว อีกัวน่า 1 ตัว หนูตะเภา จำนวน 24 ตัว ซึ่งขณะนี้พบว่าสัตว์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในสำนักประหลาดของพระบิดาฯ กำลังอดอาหารหิวโซ โดยมีชาวบ้านนำอาหารเม็ดมาวางไว้ให้สุนัขที่เริ่มเร่ร่อนออกมาจากสำนักเข้ามาในหมู่บ้านกิน
ซึ่งล่าสุดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้เข้าแจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ นายทวี หรือพระบิดา หรือ นายโจเซฟ เจ้าสำนักลัทธิดังกล่าวแล้ว ใน 8 ข้อหาหนัก ได้แก่ 1.ข้อหาการบุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ 2.ข้อหาการรักษาโรค ผิด พ.ร.บ.ความสะอาดของสาธารณสุข 3.ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตาม พ.ร.ก.บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 4.ปลูกผลิตกัญชา 5.มีซากสัตว์ป่าสงวนไว้ในครอบครอง 6.เจาะบ่อบาดาลและใช้น้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาต 7.ดำเนินคดีในฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 11,73(มีไม้พะยูง 40 ท่อนอยู่ในสำนักฯ) และ 8. ฐานมีไม้ท่อนหวงห้าม(มีไม้เต็งรังจำนวน11ท่อน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 69
จากนั้นยังให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ทำการจับพิกัดพบว่า นายทวี พระบิดาได้บุกรุกที่ป่าไม้สาธารณะจำนวน 26 ไร่เศษ กระทำผิดตามประมวลกฏหมายที่ดินซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ยังต้องดูแล ดังนั้นการเข้ายึดถือครอบครองทำประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ถือว่าเป็นการบุกรุกอย่างผิดกฎหมาย จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54,55 อีกกระทงด้วย
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินการตามกฎหมายกับนายทวีหรือพระบิดาเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย สว.(สอบสวน) สภ.คอนสาร พร้อมทั้งได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จัดกำลัง ในพื้นที่จัดเวรยาม เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และบริเวณโดยรอบหมู่บ้านแล้ว เพื่อป้องกันการจะมีการแอบเข้ามาขโมยทรัพย์สินและทำลายหลักฐาน ก่อนที่จะมีการติดประกาศขนาดใหญ่อีกจำนวน 3 ป้าย บริเวณปากทางเข้าสำนักลัทธิดังกล่าวฯ ระบุ 1.)พื้นที่กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ 2.)ป้ายกำหนดพื้นที่หวงห้ามเข้า-ออก 3.)ป้ายขอให้ออกจากพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งหลังจากนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาคอยอำนวยความสะดวกพร้อมปิดกันทางเข้าออกอย่างถาวรจนกว่าจะมีการส่งดำเนินคดีเจ้าฤาษีลัทธิประหลาดพร้อมพวกทั้งหมดตามกฏหมายให้เสร็จสิ้นทั้งหมดต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: