ชัยภูมิ – กระทรวงยุติธรรม อัดงบกว่า 240 ล้านบาท เร่งพัฒนาการเข้าถึงบริการของ ปชช.ด้านยุติธรรมให้มากขึ้น ก่อสร้างศาลจังหวัดชัยภูมิ แห่งใหม่ลดแออัดให้ประชาชนมาติดต่อราชการได้สะดวกมากขึ้น หลังอาคารศาลเดิมเริ่มคับแคบ ถือฤกษ์ดีวันศุกร์ 2 ก.ย.65 นิมนต์หลวงปู่ชื่อดังเมืองชัยภูมิ ทำพิธีอัญเชิญองค์ครุฑขึ้นประดิษฐานหน้าศาลจังหวัดแห่งใหม่ ก่อนเตรียมความพร้อมประกาศย้ายศาลเดิมมาตั้งแห่งใหม่คาดพร้อมเปิดให้บริการได้ไม่เกินต้นปีหน้า ม.ค.2566
เมื่อเวลา 08.09 น.วันที่ 2 ก.ย.65 พระคุณเจ้า พระเทพภาวนาวิกรม (หลวงปู่ศรีพระนักปฏิบัติชื่อดัง อดีตเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ) ที่ปรึกษาคณะภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายศุภมิตร บุญประสงค์ อธิบดีผู้พิพากษาภาค 3 ประธานในพิธีบวงสรวง และอัญเชิญองค์ครุฑ ขึ้นประดิษฐาน ณ หน้าบัน อาคารศาลจังหวัดชัยภูมิแห่งใหม่
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- ขอนแก่น พร้อมจัด " Khonkaen Countdown 2025 Rise Beyond" ขอนแก่น พุ่งทะยานสู่อนาคต อย่างยิ่งใหญ่ คาดเงินสะพัด 50 ล้านบาท
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
และเป็นการสืบสานตามคติไทยมาแต่โบราณ ที่เชื่อว่า”ครุฑ” เป็นพญาแห่งนกทั้งมวล และเป็นเทพพาหนะของพระวิษณุ หรือพระนารายณ์ ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีศาสตราวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ ก็ได้แต่เพียงทำให้ ขนของครุฑ หลุดร่วงลงมา เพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า”สุบรรณ” ซึ่งหมายถึง ขนวิเศษ
และครุฑ เป็นสัตว์ใหญ่ ที่ทรงฤทธานุภาพ มีกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้เร็ว สติปัญญาเฉียบแหลม เฉลียวฉลาดอ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ ประเทศไทย จึงได้นำครุฑ มาใช้เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จนถึงปัจจุบัน และถือเป็นตราประจำแผ่นดิน หรือตราพระราชลัญจกร ซึ่งหมายถึงพระราชบัลลังก์ อีกทั้ง”ตราครุฑ” ยังใช้เป็นตราประจำสถานที่ราชการต่างๆของรัฐบาลอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อให้อาคารศาลมีภาพลักษณ์ สมกับเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ ที่ได้ปฏิบัติราชการในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ศาลจังหวัดชัยภูมิ จึงได้จัดพิธีบวงสรวง และอัญเชิญองค์ทรุฑ ขึ้นประดิษฐาน ณ หน้าบันอาคารศาลจังหวัดชัยภูมิ แห่งใหม่ในครั้งนี้ เพื่อเกียรติภูมิและความสง่างามของศาล ทั้งยังเป็นสิริมงคล แก่บุคลากรของศาลจังหวัดชัยภูมิ ตลอดจนผู้มาติดต่อราชการในศาลสืบไป
หลังจากอาคารศาลจังหวัดชัยภูมิ แห่งเดิมในปัจจุบัน ที่ตั้งอยู่ข้างศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ มีความคับแคบลงและเพื่อให้เกิดการบริการต่อประชาชนในพื้นที่มาติดต่อราชการในศาล เกิดความสะดวกมากขึ้น ซึ่งศาลจังหวัดชัยภูมิ มีอำนาจในการพิจารณาคดี ให้กับประชาชนในพื้นที่จำนวนมากกว่า 9 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองชัยภูมิ,อ.บ้านเขว้า,อ.จัตุรัส,อ.หนองบัวระเหว,อ.คอนสวรรค์,อ.เนินสง่า,อ.ซับใหญ่,อ.บำเหน็จณรงค์ และ อ.ภักดีชุมพล ส่วนอำเภอที่เหลืออยู่ในความรับผิดชอบของศาลจังหวัดภูเขียว อีกแห่งของ จ.ชัยภูมิ
ทางสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 3 เป็นผู้กำกับดูแลศาลจังหวัดชัยภูมิ จึงดำเนินการโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลจังหวัดชัยภูมิ แห่งใหม่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ขนาด 12 บัลลังก์ (จากที่ศาลจังหวัดชัยภูมิแห่งเดิม 8 บัลลังก์) พร้อมบ้านพักและสิ่งปลูกสร้างประกอบอื่นๆ ในพื้นที่ประมาณ 23 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้กับมหามหาวิทยาลัยสงฆ์จังหวัดชัยภูมิ ช่วงหมู่บ้านโนนเหลื่อม ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ด้วยงบประมาณร่วมกว่า 240 ล้านบาท
ที่บริษัทผู้รับจ้างแจ้งว่างวดก่อสร้างทั้งหมดงวดสุดท้ายในช่วงเดือน ต.ค.2565 นี้ ก่อนที่ศาล จะทำการแจ้งเปลี่ยนที่ทำการใหม่ไปยังสำนักงานศาลยุติธรรม และรอประกาศเปลี่ยนที่ตั้งในราชกิจจานุเบกษา ใช้เวลาอีกประมาณ 2 เดือน และจะใช้เวลาในการย้ายจากศาลเดิมไปศาลแห่งใหม่ครั้งนี้ประมาณเดือน ธ.ค.2565 และคาดว่าจะดำเนินการเรียบร้อยแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการขอศาลแห่งใหม่ครั้งนี้ได้ในเดือนมกราคม 2566 ปีหน้านี้ได้ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: