ชัยภูมิ – ชาวนารวมใจใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นป้องกันผลผลิตในนาข้าวใกล้เก็บเกี่ยวได้เห็นผล ท่ามกลางบรรยากาศทุ่งกังหันลมสวยงามสุดลูกหูลูกตาบนเนื้อที่กว้างกว่า 20 ไร่
( 22 ก.ย.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ในช่วงนี้ที่เป็นช่วงฤดูฝน ประชาชนในพื้นที่ต่างเร่งปลูกข้าวทำนาในปีนี้ที่ใกล้จะได้เก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวในนาได้ในช่วงตั้งแต่ปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.65 นี้เป็นต้นไป
ซึ่งมีสีสันความสวยงามของบรรยากาศความสดชื้นของทุ่งข้าวไร่นา รายล้อมไปด้วยเสากังหันลมผลิตไฟฟ้ากว่า 30 ต้น บนเนินเทือกเขาเพชรบูรณ์รอยต่อจาก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ชัยภูมิ ในช่วงหมู่บ้านบุฉนู ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ทุ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้า ก็จะมีชาวบ้านที่นี่ได้มีการปลูกข้าวจ้าวไร่พันธ์พื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เป็นของดีประจำพื้นที่ของตนเอง ที่เมื่อนำไปหุงแล้วจะมีความนุ่ม มีกลิ่นหอมเหมือนข้าวหอมมะลิ ในพื้นที่กว้างกว่า 20 ไร่
โดยได้รับการสนับสนุนความรู้การปลูกข้าวไร่ให้ได้ผลผลิตสูง จากสำนักงานเกษตร อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ พร้อมส่งเสริมให้เป็นแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน สำหรับประชาชนนักท่องเที่ยวผ่านมาที่ชอบเซลฟี่ ที่จะมีการสร้างสะพานไม้ไผ่ทอดยาวจากถนนไปสู่กลางทุ่งนาข้าว เพื่อให้การถ่ายภาพทางธรรมชาติสวยงามไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หรือ ยามเย็น
ซึ่งในระยะต้นข้าวออกรวงข้าวขณะนี้ นอกจากจะต้องคอยกำจัดวัชพืช ใส่ปุ๋ยแล้ว จะมีศัตรูต้นข้าวที่สำคัญคืออีกาที่คอยมาแอบกินเมล็ดข้าว และทำลายต้นข้าวในระยะข้าวใกล้เก็บเกี่ยวในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ผลผลิตต่ำกว่าที่ควรจะได้ ทางกลุ่มชาวบ้านเจ้าของทุ่งนาข้าวที่นี่ จึงได้นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาแต่โบราณ ด้วยการใช้กรรมวิธีที่ใช้ได้ผลมาตั้งแต่สมัยโบราณในการกำจัด หรือ ไล่อีกาที่คอยจะแอบมากินเมล็ดข้าว คือการสร้างหุ่นไล่กาไว้ที่ทุ่งนาข้าว
โดยในปีนี้ นายวรพงษ์ ภูมิโสม เกษตรจังหวัดชัยภูมิ ได้บูรณาการร่วมกับประชาชนในพื้นที่ จัดทำให้เปิดเป็นแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน อีกแห่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดชัยภูมิ ได้อีกทางสำหรับประชาชนที่ผ่านไปมาที่เป็นเส้นทางผ่านรอยต่อสายภาคอีสาน หรือสายเอเชีย เชื่อมไปต่อยังภาคเหนือ ที่ชอบเซลฟี่ บนจุดสะพานไม้ไผ่ทอดยาวจากถนนไปสู่กลางทุ่งนาข้าวของที่นี่
ทามกลางสีสันการเปิดแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในปีนี้ ที่จะมีหุ่นไล่กา หรือ อีกา ทั้งหุ่นไล่กา และมนุษย์ไล่กาหญิงแท้ เป็นผู้ถือริบบิ้น เมื่อประธานในพิธีตัดริบบิ้น บรรดาอีกา ได้ลงเข้าไปในแปลงข้าวเพื่อกินเมล็ดข้าวที่อยู่ในรวงข้าว ต่างกินและทำลายแปลงนาข้าวของชาวบ้านอย่างสนุกสนาน สร้างรอยยิ้มเสียงหัวเราะความรักสมัครสมานความสามัคคีของคนในพื้นที่ ของคนที่มาร่วมงานเดินไปเจอแปลงข้าว ที่มีหุ่นไล่กา หรือ อีกาได้ออกอาการสะดุ้งกลัวหุ่นไล่กา แต่นานๆไป อีกาเริ่มรู้ว่า ที่เห็นนั้นเป็นหุ่นไล่กา ไม่ใช่คนจริงๆ ชาวบ้านจึงแอบปลอมตัวไปแฝงเป็นหุ่นไล่กาปนอยู่ด้วย เพื่อที่จะไล่อีกา และจับอีกามาให้ได้ เพื่อไม่ให้อีกามากินเมล็ดข้าวเปลือกของตนเอง ไม่ว่าจะวิ่งไล่อีกา หรือตีกลอง ตีกะละมัง ไล่อีกา งานนี้อีกกา เจอมนุษย์อีกาเข้าไป งานนี้หนีแทบไม่ทัน
ทำให้บรรยากาศการเปิดงานในครั้งนี้ต่างสนุกสนานคึกคักเป็นพิเศษ และเล่นเอางานนี้เหนื่อยทั้งมนุษย์อีกา และอีกา ซึ่งด้าน นางคนิษฐา ถอยวิลัย อายุ 40 ปี ชาวบ้านเลขที่ 255 หมู่ 6 บ้านบุฉนู ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ บอกว่า การใช้หุ่นไล่กา คอยไล่อีกาออกจากแปลงทุ่งปลูกข้าวไร่นี้ จะช่วยลดการสูญเสียเมล็ดข้าว ผลผลิตข้าวที่ปลูกไว้เป็นอย่างดีทุกปี และยังไม่มีสารเคมีตกค้างในเมล็ดข้าวอีกด้วย
โดยพื้นที่แปลงทุ่งนาข้าวไร่แห่งนี้ ปลูกอยู่บนพื้นที่เนินเขาใกล้กับบ้านบุฉนู ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ที่รายล้อมด้วยต้นกังหันลมผลิตไฟฟ้ามากกว่า 30 ต้น บนพื้นที่กว้างกว่า 20 ไร่ นอกจากจะเป็นเป็นแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน สำหรับรองรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบเซลฟี่ และมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวจากถนนไปสู่กลางทุ่งนาข้าวไร่ เพื่อให้การถ่ายภาพทางธรรมชาติสวยงามไม่ว่าจะเป็นตอนเช้า หรือ ยามเย็นอีกแห่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เส้นทางเข้าชมทุ่งกังหันลมผลิตไฟฟ้ามีความสะดวกสวยงามได้มากยิ่งขึ้นในปีนี้ด้วย
ส่วน นายวรพงษ์ ภูมิโสม เกษตรจังหวัดชัยภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า พันธ์ข้าวไร่ที่นำมาปลูกจะเป็นพันธ์ข้าวหอมดง ที่เป็นข้าวจ้าวพันธ์พื้นเมืองของชาวญัฮกุร(ชาวมอญโบราณ)ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่มีคุณภาพทนต่อสภาพความแห้งแล้ง ใช้น้ำน้อย ให้ผลผลิตต่อไร่สูงประมาณ 30 ถังต่อไร่ และเป็นพันธ์ข้าวไวแสง จะเก็บเกี่ยวข้าวได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่จะสวยงามเป็นทุ่งรวงข้าวสีทองเหลืองอร่ามสวยงาม เป็นจุดที่นัดพบของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาจังหวัดชัยภูมิได้อีกแห่งในการถ่ายภาพ ถ่ายเซลฟี่อีกแห่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: