ชัยภูมิ – น้ำหลากเข้าพื้นที่เพิ่มหนักอีกระลอก แจ้งเตือนโซนเศรษฐกิจกลางเมืองเตรียมรับมือน้ำท่วมเข้าเมืองซ้ำหนักอีกระลอก ที่จะมีน้ำหลากมาพร้อมซ้ำอีกทั้ง 2 ด้าน จากน้ำป่าล้นเขื่อนลำปะทาวแตะจุดเตือนภัยขั้นวิกฤต อีกด้านทั้งจากฝั่งลำแม่น้ำชีทะลักมาเร็วเกินคาด บึงละหานล้นเกินความจุกว่า 300 % หลากท่วมพื้นที่การเกษตรอ่วมแล้วกว่า 1.5 แสนไร่ ชาวบ้านหลายอำเภอท่วมหนัก ในพื้นที่ตำบลรอบนอกติดโซนเศรษฐกิจกว่า 5 ตำบลจมบาดาลเกือบ 100 % ชาวบ้านถูกตัดขาดเข้าออกไม่ได้แล้วกว่า 17 หมู่บ้าน คาดชีจ่อหลากสมทบน้ำล้นเขื่อนลำปะทาวหลากเข้าท่วมตัวเมืองซ้ำหนักอีกระลอกใหญ่ในช่วงไม่เกิน 1-2 วันนี้ เตรียมรับมือ!!
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา วันที่ 4 ต.ค.65 ขณะที่ สถานการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยหนักสุดในรอบกว่า 50 ปีที่ผ่านมาจากในปี 2564 และในปี 2565 นี้ จ.ชัยภูมิ ก็ถูกน้ำท่วมซ้ำรอยหนักอีกไม่แพ้กัน ซึ่งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ หลังเกิดฝนตกหนักมาต่อติดต่อกันมานานตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.65 ที่ผ่านมา และได้รับอิทธิพลจากพายุโนรู ทำให้มีฝนตกสะสมเป็นจำนวนมากทั้งในเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่มีทั้งหมดในจังหวัดเต็มล้นเกินความจุด รวมทั้งในโซนลำแม่น้ำชี ที่ จ.ชัยภูมิ มีต้นกำเนิด อยู่ในพื้นที่เทือกเขาภูเขียว เขต อ.หนองบัวแดง ได้เกิดน้ำป่าหลากลงมาสะสมมีปริมาณน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมากกว่า 9 อำเภอ จากทั้งหมด 16 อำเภอ ต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ซึ่งประเมินติดตามสถานการณ์มวลน้ำสะสมที่ยังมีอยู่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุดวันนี้ลำน้ำชีได้หลากมาเร็วเกินคาดเข้าท่วมในเขต อ.จัตุรัส ทำให้ปริมาณน้ำในบึงละหาน มีน้ำเกินความจุดกว่า 84.18 ล้าน ลบ.ม. จากความจุ 25 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 336.7%น้ำไหลเข้า 850,000 ลบ.ม./วัน ได้ทำการพร่องน้ำโดยเปิดประตูระบายน้ำคลองแสนแสบ 3 บานระดับ 4 ม. สามารถพร่องน้ำได้ 200,000ลบ.ม./วัน ทำให้ระดับหลากเหลือเพิ่มขึ้น 650,000 ลบ.ม./วัน
ข่าวน่าสนใจ:
และมีปริมาณน้ำในอ่างทองหลางอยู่ที่ 500,000 ลบ.ม. จากความจุ 481,000 ลบ.ม.คิดเป็น 105% ได้ทำการพร่องน้ำ โดยยกบานประตูอ่างทองหลาง ระดับ 0.15 ม. เพื่อระบายน้ำต่อเนื่อง มาถึงจุดวัดน้ำชี ณ บ้านบุตามี ม 7.ต.ส้มป่อย และจุดบ้านท่าศาลา ม. 6 ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ จะมีน้ำหลากต่อมาพื้นที่ อ.เมืองชัยภูมิ ได้อีกต่อเนื่อง
เพิ่มขึ้นทำให้น้ำไหลเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนราษฎรบริเวณรอบบึงละหาน ประกอบด้วย ม.1,ม.2,ม.13,ม.16,และ ม.17 จำนวนมากแล้วกว่า 100 หลังคาเรือน ทั้งนี้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัยอำเภอจัตุรัส ได้แจ้งกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่มีพื้นที่ติดริมน้ำชีและบึงละหานติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังจุดเสี่ยง แจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและให้ยกของขึ้นที่สูง พร้อมทั้งให้ศูนย์ฯของอปท. ในพื้นที่เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือตลอด 24 ซ.ม.ซึ่งขณะนี้ทาง อปท.ในพื้นที่ได้นำกระสอบทรายมาวางเพื่อป้องกันไม่ไห้น้ำไหลเข้าบ้านเรือนราษฎรขยายวงกว้างลดความเสียหายให้น้อยลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขณะนี้
รวมทั้งด้านจุดต้นกำเนิดแม่น้ำชีที่ อำเภอหนองบัวแดง ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมถนนทางเข้าบ้านปากห้วยเดื่อ ม.7 ต.คูเมือง อ.หนองบัวแดง ฝั่งไป อ.หนองบัวแดง ระดับน้ำได้ลดลงประมาณ 80 เซนติเมตร เหลือบนถนนประมาณ 50 ซม. รถเล็กสามารถสัญจรได้บ้างแล้ว ยังเหลือฝั่งเส้นออกจากปากห้วยเดื่อที่ยังมีน้ำป่าบนเทือกเขาภูเขาหลากลงมาท่วมถนนสูงต่อเนื่อง ผ่านเข้าทาง ต.ชีลอง ไปต่อที่จุด อ.บ้านเข้วา รถยังสัญจรไม่ได้น้ำยังท่วมสูงประมาณกว่า 2 เมตร
ที่สถานการณ์ลำแม่น้ำชีหลากปีนี้ ที่จะผ่านอีกจุดที่ อำเภอหนองบัวระเหว ที่ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัย อุทกภัย น้ำท่วมขังบ้านเรือนเข้าในเขตตำบลห้วยแย้ บ้านห้วยไฮ ม.3 ชาวบ้านถูกตัดขาดติดเกาะทั้งหมู่บ้าน จำนวน 94 ครัวเรือน ,ที่บ้านหนองกองแก้ว ม.4 น้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอีก 25 ครัวเรือน,บ้านแจ้งใหญ่ ม.6 จำนวน 24 ครัวเรือน , บ้านโนนสมบูรณ์ ม.10 จำนวน 5 ครัวเรือน , บ้านโคกยาว ม.14 ติดเกาะทั้งหมู่บ้าน จำนวน 54 ครัวเรือน ที่เขตตำบลโคกสะอาด ที่หมู่บ้านละหานค่าย ม.2 น้ำท่วมจำนวน 7 หลัง (ในพื้นที่หมู่บ้านผี) ,บ้านหนองม่วง ม.6 จำนวนอีก 106 หลัง รวมมีพื้นที่บ้านถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 315 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรนาข้าว มันสำปะหลังถูกน้ำท่วมในขณะนี้รวมแล้วกว่า 155,875 ไร่
และสถานการณ์ล่าสุดในเขตตัวเมืองโซนเศรษฐกิจกลางใจเมืองชัยภูมิทั้งหมดในขณะนี้ล่าสุดวันนี้ก็ยังวางใจไม่ได้ หลังถึงแม้ล่าสุดวันนี้น้ำที่ท่วมในหลายพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองชัยภูมิ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ กว่า 25 ชุม เดือดร้อนกว่า 30,000 ครอบครัว อยู่ในขณะนี้ระดับน้ำท่วมได้เริ่มลดระดับลงต่อเนื่อง บนถนนหลายสายน้ำแห้งสามารถใช้รถผ่านสัญจรไปมาได้บ้างแล้ว
แต่ยังมีพื้นที่ถูกน้ำท่วมสูงในพื้นที่ศูนย์ราชการหลักๆศาลากลางจังหวัด โรงเรียน สถานีตำรวจ อาคารศาลจังหวัด สำนักงานอัยการจังหวัด รวมทั้งถนนผ่านใจกลางเมืองรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล (เจ้าเมืองคนแรกผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ) ยาวไปถึงบริเวณหน้าโรงพยาบาลชัยภูมิ ( รพ.ชัยภูมิ) ยังไม่สามารถใช้รถทุกชนิดผ่านเข้าออกได้ ต้องยังใช้เรือ และสร้างสะพานไว้ให้บริการนำผู้ป่วยเข้าออก รพ.ไปก่อนระยะช่วงสัปดาห์นี้ จนกว่าน้ำจะลด
ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ ทางด้านจังหวัดชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากเขื่อนลำปะทาว ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในโซนเศรษฐกิจเขตเทศบาลทั้งหมด ที่ถึงแม้ระดับน้ำท่วมในตัวเมืองหลายจุดจะเริ่มลดลงต่อเนื่อง แต่ยังจะมีมวลน้ำล้นจากสันเขื่อนลำปะทาวที่มีระดับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องใกล้จุดวิกฤตเตือนภัยที่เคยเกิดน้ำท่วมหนักรอบ 50 ปี จากปี 2564 ที่ผ่านมา มีน้ำล้นสันเขื่อนลำปะทาวสูง 62 ซม. ที่ขณะนี้เองล่าสุดวันนี้มีน้ำล้นสันเขื่อนสูงกว่า 61 ซม.ในขณะนี้แล้ว ซึ่งใน 1-2 วันนี้คาดว่ายังมีแนวโน้มที่ปริมาณน้ำล้นสันเขื่อนมีระดับสูงขึ้นไปอีกต่อเนื่อง ที่จะหลากผ่านเข้าในตัวเมืองอีกระลอกใหญ่จำนวนมากหลายล้าน ลบ.ม.ผ่านตัวเมืองลงมาได้อีกในช่วง 1-2 วันนี้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนเตรียมรับมือที่ยังจะเกิดน้ำหลากเข้าท่วมตัวเมืองเพิ่มสูงขึ้นกลับมาอีกครั้งได้อีกในช่วงนี้ด้วย ขอให้ประชาชนที่เกิดน้ำท่วมแห้งภายในบ้านบางส่วนแล้วยังวางใจไม่ได้ ให้เก็บขนย้ายของมีค่าที่ขนกลับลงมาขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อนอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในช่วงนี้เพิ่มเติมได้อีกด้วย และยังต้องติดตามสถานการณ์น้ำการแจ้งเตือนอย่างใกล้ชิดใน 24 ชม.จากนี้ไปด้วย
ขณะที่ด้านรอบนอกตัวเมือง อีกด้านที่มีแม่น้ำชีไหลผ่านก็ยังได้เกิดน้ำชีทะลักล้นหลากเข้าท่วมในอีกหลายพื้นที่ผ่านลงมาจาก อ.หนองบัวแดง,อ.หนองบัวระเหว,อ.จัตุรัส และจาก อ.บ้านเขว้า มาตั้งแต่เย็นวานนี้ น้ำได้หลากผ่านเข้ามาท่วมพื้นที่ในเขต อ.เมืองชัยภูมิ ในตำบลรอบนอกขยายวงเพิ่มขึ้นตั้งแต่ที่ ต.บ้านค่าย,ต.ชีลอง,ต.หนองนาแซง,ต.รอบเมือง และที่ตำบลบุ่งคล้า น้ำได้ท่วมถนนทุกสายในกว่า 12 หมู่บ้าน กินพื้นที่ทั้งเกือบ 100 % ของแต่ละตำบลในกว่า 5 ตำบลรอบนอกในขณะนี้แล้ว และน้ำที่มีจำนวนมากที่หลากมาจากแม่น้ำชีในขณะนี้ก็จะผ่านมาถึงเขตตัวเมืองโซนเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ และศูนย์ราชการต่างๆรวมทั้งจุดหน้า รพ.ชัยภูมิ เพิ่มเติมด้วยอีกทางที่จะจ่อเข้ามาสมทบกับน้ำทางด้านทิศใต้ และทางทิศเหนือที่จะมาจากเขื่อนลำปะทาว หลากลงสมทบกันมีมวลน้ำอีกจำนวนมากเป็นระลอกใหญ่อีกครั้งในช่วง 1-2 วันนี้ด้วย
ซึ่งมีชาวบ้านรอบนอกถูกน้ำชีหลากผ่านเข้ามาท่วมในพื้นที่ขณะนี้ถูกตัดขาดเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้แล้วอีกกว่า 5 หมู่บ้าน โยเฉพาะหมู่บ้านโนนหว่านไพรและหนองว่า ชาวบ้านหลายร้อนครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ในเขต ต.ชีลอง และ ต.หนองนาแซง และล่าสุดที่ ต.บุ่งคล้า เขต อ.เมืองชัยภูมิ ในขณะนี้ทางเข้าออกหมู่บ้านไม่สามารถใช้รถทุกชนิดผ่านได้แล้ว ต้องใช้เรือสัญจรแทนเท่านั้น ที่ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือออกมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ยังขาดแคลนเรือ และขาดแคลนอาหารน้ำดื่มตามมาอีกจำนวนมากแล้วในขณะนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: