ชัยภูมิ – รับลมหนาวปีนี้เริ่มมาเยือนคึกคัก ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง คาดดีเดย์ผ่านการพิจารณาขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกแห่งอาเซียนต้อนรับปีใหม่หน้าในปี 2566 นี้!
( 30 ต.ค.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ช่วงวันหยุดและเป็นช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้วในปีนี้ ทีมข่าวได้มีโอกาส ได้เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่สุดของเมืองไทยอีกแห่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เป็นพื้นที่มรดกโลกแห่งอาเซียนในปีนี้
ภายในเขตรักษาพันธ์สัตย์ป่าภูเขียว หรือ ทุ่งกะมัง ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ที่มีพื้นที่ครอบคลุมรอยต่อกว่า 3 อำเภอคือ ในอำเภอคอนสาร อำเภอภูเขียว และอำเภอเกษตรสมบูรณ์ มีพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์รวมประมาณ 1,125,000 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งผืนป่าต้นกำเนิดสายแม่น้ำชี(ซี) สายน้ำที่ยาวที่สุดของประเทศไทย ใช้หล่อเลี้ยงชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ช้ายาวนานจนปัจจุบัน
ส่วนจุดทุ่งกะมัง ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูเขียว มีเนื้อที่ราว 5,000 ไร่ เป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติที่อยู่บนเนินสูงต่ำสลับกันไป มีธารน้ำหลายสายไหลผ่าน พื้นที่รอบๆ เป็นป่าดิบเขา บางช่วงของป่ามีป่าสนขึ้นสลับกับต้นเหียงและต้นก่อ ส่วนกลางทุ่งกะมังแทบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเลย เป็นลานโล่งกว้าง จัดว่าเป็นที่เหมาะต่อการเปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวศึกษาเส้นทางทางธรรมชาติ ที่เหมาะสมในการใช้เป็นแหล่งส่องดูความศึกษาเรียนรู้และช่วยกันอนุรักษ์สัตว์ป่าในพื้นที่ได้อีกด้วย
สำหรับใครที่ชอบเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติสัตว์ป่านานาชนิด ที่นี้มีหอส่องสัตว์ มีเส้นทางเดินป่า ที่มีความสวยงามของวิถีชีวิตใกล้ชิดกับสัตว์ป่าในธรรมชาติ เสมือนเราได้มาท่องเที่ยวดินแดนซาฟารี ไม่แพ้ในต่างประเทศ ชมวิวสวยๆ ของธรรมชาติ มาที่นี่จะเห็นกับ เก้ง กวาง เนื้อทราย กระทิง ช้างป่า เป็นจำนวนมากหลายร้อยตัว รวมไปถึงนกหลากหลายชนิด ทั้ง นกยูง ไก่ฟ้า นกขุนแผน นกหัวขวาน จนได้รับการขนานนามเป็นซาฟารีเมืองไทยในปัจจุบัน
ซึ่งด้าน นายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) กล่าวว่า ในช่วงฤดูหนาวภายในเขตรักษาพันธ์สัตย์ป่าภูเขียว ทุ่งกระมัง จะมีอากาศหนาวเย็นขณะนี้อยู่ที่ 18 องศาเซลเซียส และตอนเช้า สามารถเห็นหมอกกระจายอยู่ทั่วทุ่ง โดยเฉพาะตรงจุดชมวิวบริเวณพลับพลาที่กลางทุ่ง จะมีวิวของทุ่งหญ้าสีทองและพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้น พร้อมกับหมอก แต่ถ้าเป็นช่วงเย็นก็สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตก นักท่องเที่ยวที่สนใจจะเข้าพักกางเต้นพักแรม ภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 ได้คลี่คลายคง ขณะนี้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าชมภายใน และพักข้างคืนได้ไม่เกิน 300 คน/วัน ออกเท่าไหนเข้าได้เท่านั้น
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งอาเซียน ที่คาดว่าจะได้รับการรับรองในช่วงต้นปีหน้า 2566 นี้
โดยเขตรักษาพันธ์สัตย์ป่าภูเขียว ทุ่งกะมัง ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ มีหน้าที่สำคัญคือการดูแลด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า การเพาะเลี้ยงและการขยายพันธุ์สัตว์ป่า เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกยูง เก้ง กวาง เนื้อทราย และสัตว์ป่าสงวนอื่นๆอีกหลายชนิดในพื้นที่ โดยปล่อยสัตว์ให้อาศัยอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติ ให้มีการสืบพันธุ์และขยายพันธุ์ได้เอง มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติ สำหรับผู้สนใจ
รวมทั้งพันธุ์ไม้ดอกอีกหลากหลายชนิดขึ้นแซมตามกอหญ้าเป็นหย่อม ๆ เป็นที่ตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เริ่มมาตั้งปี พ.ศ. 2526 และ พ.ศ. 2535 ที่ได้มีการอนุรักษ์สัตว์ป่าและนำสัตว์ป่ากลับคืนถิ่น ทั้งเก้ง กวาง กระจง และนกต่าง ๆ มีการจัดทำดินโป่งในบริเวณทุ่งกะมัง เพื่อให้สัตว์มากินดินโป่ง มีช้างนับหลายร้อยเชือกไม่แพ้เขาใหญ่ และทุ่งหญ้าระบัด ที่เป็นอาหารของเก้ง กวางในช่วงฤดูแล้ง และบนยอดเนินเหนือบริเวณทุ่งกะมัง ยังมีพระตำหนักที่ประทับอยู่เหนืออ่างน้ำด้วย ส่วนกลางทุ่งกะมัง แทบจะไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น เป็นลานโล่งกว้าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ และแหล่งดูสัตว์ป่า ใครที่ชอบส่องสัตว์ เดินป่า จะถูกใจนักท่องเที่ยวเข้ามาชมในจุดนี้จำนวนมาก
ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) ตำบลทุ่งลุยลาย อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ โทร 097 002 7290 #เพจเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว Phu Khieo Wildlife Sanctuary โดยเปิดทำการตั้งแต่ 08.00-16.00 น.ค่าเข้าชมคนไทยคนละ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติคนละ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 30 บาท รถยนต์ 6 ล้อ คันละ 100 บาท
