ชัยภูมิ – ชาวนาอลหม่านกันหลายพื้นที่ เกิดฝนหลงฤดูถล่มหนักตลอดทั้งคืน ต้องเร่งช่วยกันออกตามเก็บข้าวเปลือกที่ตากไว้ในลานหมู่บ้านไหลหายไปกับน้ำ หวังพอเหลือข้าวได้บ้างบางส่วนดีกว่าปล่อยเน่าทิ้ง ขาดทุนยับ!
( 15 พ.ย.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ เมื่อตลอดช่วงกลางดึกตลอดทั้งคืนที่ผ่านมายันรุ่งเช้าได้เกิดฝนหลงฤดูตกถล่มลงมาอย่างหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ข้าวเปลือกของเกษตรกรชาวนาที่เกี่ยวข้าว และนำข้าวเปลือกมาตากตามทุ่งนา พื้นที่ตามลานตากข้าวในหมู่บ้าน ถูกน้ำฝนเปียกชื้น ถูกน้ำหลากพัดหายไปกับน้ำได้รับความเสียหายตามมาจำนวนมาก
รวมถึงที่ลานตากข้าวบริเวณลานกีฬาประจำหมู่บ้านกุดขมิ้น หมู่ 7 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในช่วงเช้าวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่าเจ้าของข้าวเปลือกที่นำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวมาจากทุ่งนา ต่างมายืนดูข้าวเปลือกของตนเปียกน้ำฝน และไหลหายไปกับน้ำได้รับความเสียหายจำนวนมาก ด้วยความหดหู่ใจ ที่พบว่าข้าวเปลือกของตนเอง ที่ได้จากต้นข้าวรอดตายจากน้ำท่วมใหญ่เมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่ยังพอเหลือให้เก็บเกี่ยวได้บ้างเพื่อที่จะไม่ได้ขาดทุนได้รับความเสียหายไปทั้งหมด ได้บางส่วนในปีนี้
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งข้าวเปลือกส่วนใหญ่ที่เหลือ ทั้งข้าวเหนียว และข้าวหอมมะลิ 105 ที่นำมาตากไว้ที่ลานกีฬาในหมู่บ้าน ที่ครั้งนี้ต้องมาเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ต้องมาเสียข้าวเปลือกที่ตากไว้ในลานตากข้าว มีทั้งข้าวเปลือกไหลไปกับน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่วนข้าวเปลือกเปียกที่เหลือบางส่วนแช่น้ำฝนอยู่เสียหายเกิดความชื้นสูง หากนำไปขายหรือเข้าร่วมโครงการรับจำนำ จะถูกหักค่าความชื้นสูง ทำให้ได้ราคาไม่ดี หรือถึงขายไม่ได้อีก ก็ทำได้เพียงเก็บรวบรวมไปเป็นอาหารสัตว์ดีกว่าปล่อยเน่าทิ้ง
และเกษตรกรชาวนาเจ้าของข้าวเปลือกที่เปียกน้ำฝน บางส่วนต้องนับหนึ่งใหม่ในการเร่งตามเก็บข้าวเปลือกไปตากข้าวเปลือกใหม่อีกครั้ง หรือ บางคนต้องหาสถานที่ตากแดดใหม่ ที่หนักไปกว่านั้นพื้นที่ลานคอนกรีตใช้ตากข้าว มีชาวบ้านนำข้าวเปลือกในวันเดียวกันหลายคน มีทั้งข้าวเหนียว กข.6 และ ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 ตากข้าวไว้ใกล้กัน เมื่อเกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำไหลหลากพัดเอาทั้งข้าวเหนียว กข.6 และ ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 ได้ไหลมารวมกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นข้าวเปลือกทั้งประเภทเหนียวหรือข้าวเจ้า และไม่รู้ว่าเป็นข้าวของใครจำนวนเท่าใดได้อีก
ก็จำเป็นที่จะต้องเร่งช่วยกันก่อน เพื่อรีบนำไปตากแดดใหม่ให้แห้งพอที่จะให้เหลือบางส่วนเก็บไปขายหรือไปกินได้บ้าง จำเป็นต้องแบ่งกันตามมีตามเกิด ซึ่งนับเป็นความทุกข์ของเกษตรกรชาวนา ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักมานานผ่านมาอีกไม่ถึงเดือน ก็มาเจอภัยแล้ง และระหว่างพอหวังจะเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกที่ถูกน้ำท่วมเหลือได้บ้าง ก็ยังมาเจอฝนหลงฤดูกระหน่ำซ้ำเติมอีกสร้างความเสียหายในครั้งในช่วงเกี่ยวข้าว จนไม่เหลืออะไรแล้วซ้ำหนักอีกในปีนี้
ด้าน นายสุขสันต์ แสงชัย อายุ 39 ปี เกษตรกรชาวนา บ้านเลขที่ 77 หมู่ 7 บ้านกุดขมิ้น ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ได้เกิดฝนหลงฤดูตกลงมาอยากหนักเมื่อตลอดเกือบทั้งคืนที่ผ่านมา ยันช่วงเช้าวันนี้ ก็พบว่าข้าวเปลือกที่ตากแดดไว้ที่ลานกีฬาหมู่บ้าน ข้าวที่เกี่ยวและสีเป็นข้าวเปลือกที่ตากไล่ความชื้นไว้มา 2 วันแล้ว ในวันนี้เป็นวันที่ 3 จะได้เก็บข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉางข้าวแล้ว แต่ดันต้องมาถูกน้ำฝนหลงฤดูมาทำให้เปียกหมดได้รับความเสียหายอีกจำนวนมาก ข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 ประมาณ 160 ถัง ที่เหลือรอดตายจากน้ำท่วมนำมาตากแดดที่ลานตากข้าวหมู่บ้านไว้ ฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา ข้าวเปลือกมากว่าครึ่งได้ไหลไปกับสายน้ำไปรวมกับข้าวเหนียวที่ตากอยู่ใกล้กันกับของชาวบ้านอีกหลายราย แทบแยกไม่ออกว่าเป็นของใครได้ ก็พากันแบ่งกันเอาเท่าที่เหลืออยู่ ซึ่งต้องนับหนึ่งใหม่ในการตากข้าวเปลือกอีกครั้ง ตากข้าวเปลือกใหม่อย่างน้อย 3 วัน จึงจะเก็บข้าวเปลือกขึ้นยุ้งข้าวได้ หากนำไปขายคงต้องถูกหักความชื้นอีกจำนวนมากตามมาด้วย ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้
รวมไปถึง นายสนธยา แพรชัยภูมิ อายุ 62 ปี ชาวนาบ้านกุดขมิ้น หมู่ 7 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้นำข้าวเปลือกมาตากไว้ได้รับความเสียหายเช่นกันอีกราย บอกว่า ไม่คิดว่าฝนจะตกลงมาหนักเช่นนี้ ไม่สามารถเก็บกู้ข้าวเปลือกได้ทันเลย คงต้องนำข้าวเปลือกที่เหลือไม่ไหลไปกับน้ำฝนนำมาตากแดดใหม่อีกหลายวัน ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ไปมากกว่านี้แล้ว ดีกว่าปล่อยเน่าทิ้งไม่เหลืออะไรเลย
ส่วนต้นข้าวที่เหลืองอร่ามตามทุ่งนาต่าง เมื่อเกิดฝนหลงฤดูตกหนักมาเกือบตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ต้นข้าวในนาหลายพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ ก็ยังได้รับผลกระทบตามมาอีกจำนวนมากด้วย ทั้งลมกระโชกแรง ทำให้ต้นข้าวพอเก็บเกี่ยวล้มระเนระนาดเป็นบริเวณกว้าง และตามพื้นที่นามีน้ำขังสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งไม่สามารถเกี่ยวด้วยมือได้ยาก ต้องเสียค่าเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกให้กับรถเกี่ยวข้าวที่ยังคิดราคาเพิ่มขึ้นจากต้นทุนราคาน้ำทุนที่สูงขึ้นตามมาอีกกว่าไร่ละ 50 บาท จากปกติไร่ละ 900 บาท/ไร่ ขึ้นมาเป็นไร่ละ 950 บาท/ไร่ ซ้ำต้นทุนหนักอีก ซึ่งอยากให้ทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการลงมาช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ได้รับผลกระทบในปีนี้เพิ่มเติมด้วย ซึ่งในปีนี้ชาวนาแทบไม่เหลืออะไรต้องขาดทุนหนักพากันหมดตัวกันหมดแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: