ชัยภูมิ – ครูชัยภูมิทั่วอีสานฮือร่ำไห้เปิดเวทีขอความเป็นธรรม ปปช.อย่าให้กลายเป็นแพะคดีทุจริตสนามฟุตซอล ร.ร.ทั่วประเทศ!!
เมื่อเวลา 09.00 – 12.00 น.วันอาทิตย์ที่ 25 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการออกมารวมตัวของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียงทั่วภาคอีสาน(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)หลักๆทั้งจาก จ.ชัยภูมิ,นครราชสีมา,ร้อยเอ็ด และ จ.อุบลราชธานี เพื่อออกแถลงการณ์ผ่านสื่อมวลชนในพื้นที่ ที่ครูในพื้นที่ทั่วภาคอีสานในขณะนี้กำลังประสบปัญหาในคดีที่มีการทุจริตกรณีสนามฟุตซอล ซึ่งมีคณะผู้บริหารโรงเรียนถูกคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นของ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาในขณะนี้ที่ทางโรงเรียนที่ได้รับงบประมาณ(แปรญัตติ)ก่อสร้างสนามฟุตซอล ปีงบประมาณ 2554 และ 2555 ที่ผ่านมานานกว่า 10 ปี
และมีผู้บริหารระดับผู้อำนวยการโรงเรียน หรือ ผอ.ร.ร. รวมเกือบ 50 โรงเรียน มีผู้บริหารได้รับแจ้งข้อกล่าวหา ว่ามีส่วนร่วมในการทุจริต จำนวน 43 คน ซึ่งมีการดำเนินการเสนอเอกสารยื่นแก้ข้อกล่าวหาไปแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ซึ่งในขั้นตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญต่อชีวิตราชการของบุคคลากรครูทุกท่านมาก ซึ่งหากผลการพิจารณาออกมาว่ามีความผิดอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.ก็จะชี้มูลความผิดอย่างร้ายแรง หน่วยงานต้นสังกัด ที่ผลตามมาจะต้องถูกดำเนินการสั่งลงโทษรุนแรงถึงขั้นถูกไล่ออก เหมือนกับในช่วงปีที่ผ่านมา ที่มีคณะครูในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ไม่มีโอกาสได้รับความเป็นธรรมตามข้อมูลที่ชัดเจนจนมาถึงคณะครูในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้และอีกในหลายจังหวัดทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ภาคอีสาน ได้เกิดขึ้นมาแล้ว
และเพื่อเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง และข้อมูลเพิ่มเติมบางประเด็นที่มีความสำคัญตลอดจนการแจ้งให้สื่อมวลชนและสังคมทั่วไปได้รับทราบ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาของ ป.ป.ช.ตามมาในขณะนี้ด้วย จึงได้จัดให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ขึ้นที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ในวันอาทิตย์ที่ 25 ชันวาคม 2565 ระหว่างเวลา 09.00 – 12.00 น.นี้ที่ผ่านมา พร้อมออกแถลงการณ์ขอความเป็นธรรม
โดยมี ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริต เปิดโปงอย่างสร้างสรรค์รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม ,ดร.จิมมี่ ทองทิพย์ ประธานชมรมครูผู้กล้า ผดุงรักษาความเป็นธรรมของสังคม และ น.ส.อาริสา ชำนาญ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 1 โดยชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริต เปิดโปงอย่างสร้างสรรค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม และชมรมครูผู้กล้า ผดุงรักษาความเป็นธรรมของสังคม
ขอกราบเรียนผ่านสื่อมวลชนไปถึง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี, ประธาน ป.ป.ช.- องค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชนทั่วไป และพี่น้องประชาชนผู้เสียภาษีทั่วประเทศ เพื่อโปรดทราบและใช้วิจารณญาณในการพิจารณา
ตามข้อเรียกร้องที่ 1 ตามที่ ป.ป.ช. คณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ได้มีบันทึก – หนังสือ แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดชัยภูมิ จำนวนหนึ่ง กรณีทุจริตสนามฟุตซอล และ ข้อที่ 2 ต่อมาบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกับคณะทำงานของชมรมครูผู้กล้า ผดุงรักษาความเป็นธรรมของสังคม และทีมงานกฎหมายของชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ ได้พิจารณาเห็นว่า คณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นของ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นไปแล้วนั้น ได้เกิดข้อผิดพลาดในการพิจารณา ใช้ดุลยพินิจ แจ้งข้อกล่าวหา กรณีนายดำเนิน ชาลีเครือ และนายณัฐวัฒน์ รินลา ที่เป็น ผอ.ร.ร.ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ อย่างอยุติธรรม ไร้จริยธรรม ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมต่อกฎหมาย กฎระเบียบของสังคม เพียงเพราะว่านายดำเนิน ชาลีเครือ มีนามสกุลเดียวกับอดีตนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดชัยภูมิ เท่านั้น ไม่มีเหตุผล ซึ่งไม่ตรงกับช่วงที่บุคคลทั้ง 2 อยู่ในตำแหน่ง ผอ.ร.ร.ที่มีการดำเนินการในงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลดังกล่าวเลย กลับต้องมากลายเป็นแพะทั้งๆที่ไม่ได้กระทำความผิดไม่ตรงกัน
ข้อที่ 3 การใช้ดุลยพินิจแจ้งข้อกล่าวหา ของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นของ ป.ป.ช. นั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิง พอจะกล่าวได้ว่า ขาดมาตรฐานของจริยธรรม ละเมิดและขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในมาตรา 3 วรรค 2, มาตรา 4, มาตรา 5, มาตรา 26 และมาตรา 215 วรรค 2 อย่างชัดเจน จากพฤติกรรมดังกล่าวของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ทำให้องค์กร ป.ป.ช. เสื่อมเสียเกียรติยศ ศักดิ์ศรี อย่างมาก นับว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ ต่อสังคมอย่างยิ่ง
“ที่จะทำให้เกิดวิกฤตศรัทธาร้ายแรงทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหารมีอุปสรรค ไม่สามารถขับเคลื่อนแนวนโยบายแห่งรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพข้อที่ 4 ขอกราบเรียนพี่น้องคนไทยที่เสียภาษีและครูทั่วประเทศว่า ขณะนี้ครูกำลังถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรีมากเกินกว่าที่จะทนทานได้แล้ว ที่จะมีอำนาจมืดมาทำให้กลายเป็นแพะในกรณีดังกล่าวอย่างไม่เป็นธรรม และคณะครูในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และทั่วภาคอีสานจะขอต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และวิชาชีพครูให้ถึงที่สุดต่อไป
และขอกราบเรียนผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยความเคารพว่า เราคือครู มีหน้าที่สอนหนังสือให้กับลูกหลานของท่าน เราไม่ใช่มีหน้าที่รับใช้ใคร เงินเดือนของครูก็มาจากภาษีของประชาชน ครูเราสำนึกในบุญคุณของแผ่นดิน และประชาชนเสมองบประมาณที่ใช้บริหารองค์กรทุกองค์กรของภาครัฐ รวมทั้ง ป.ป.ช. เอง ก็มาจากเงินภาษีของประชาชนเช่นกัน
ข้อที่ 5 ขอกราบเรียนถึงพี่น้องคนไทยผู้เสียภาษีทั่วประเทศเพื่อกรุณาทราบว่า แผ่นดินนี้คือแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์, มีคุณธรรม, กล้าหาญ และร่มเย็น และที่ จ.ชัยภูมิ เอง ก็มีองค์เจ้าพ่อพญาแลที่ชาวชัยภูมิทุกคนเคารพทั้งจังหวัด ได้ดูแลปกปักษ์รักษาถึงลูกหลานของพวกเรา บุคลากรทางการศึกษาและลูกหลานเมืองผู้กล้าพญาแล จะขอเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ต่อสู้กับความอยุติธรรมนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของครูทั่วประเทศและลูกหลานสืบไป
ข้อที่ 6 การเคลื่อนไหวครั้งนี้ คณะครูทั้งหมดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และไม่ตกเป็นเครื่องมือของผู้ใด หากพวกเราพิจารณาเห็นว่าไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้ พวกเราขอกราบลงกลางหว่างใจของคนไทยทั่วประเทศว่า พวกเราจะขอเคลื่อนตัวเข้าส่วนกลาง เพื่อทวงความยุติธรรมต่อไปก็ขอให้เห็นใจต่อกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย
ข้อที่ 7 ในอดีตที่ผ่านมา การต่อสู้กับความอยุติธรรมอย่างทรนงองอาจของบุคลากรทางการศึกษาไทย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง และกรณีสนามฟุตซอลนี้ก็เช่นกัน หากผู้เกี่ยวข้องไม่แก้ไขปัญหาให้ทันเหตุการณ์ หรือเพิกเฉยต่อการแก้ปัญหา “คนไทยในแผ่นดินสยาม จะได้เห็นเหตุการณ์นั้น
อีกครั้งหนึ่งในไม่ช้า และคณะครูพวกเรามีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณอย่างสุดชีวิตเช่นกัน และขอกราบขอบพระคุณทุกกำลังใจในครั้งนี้ด้วย
ข้อที่ 8 ในฐานะครูเองก็เป็นประชาชนชาวไทยคนหนึ่ง ขออาศัยอำนาจรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 3, มาตรา 4, มาตรา 5, มาตรา 26,มาตรา 34, มาตรา 41 (2), มาตรา 42, มาตรา 50 (10), มาตรา 63, มาตรา 78 และมาตรา 215 ในการขับเคลื่อนตามสิทธิที่มีตามกฎหมายต่อไป
ข้อที่ 9 คณะผู้เคลื่อนไหวทุกคน ขอกราบเรียนด้วยความเคารพด้วยความปารถนาดี- ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริต เปิดโปงอย่างสร้างสรรค์รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรม คุณธรรมของสังคม – ชมรมครูผู้กล้า ผดุงรักษาความเป็นธรรมของสังคม ณ วันที่ 25 เดือน ธันวาคม 2565 และพร้อมให้มีการตรวจสอบของผู้เขียนแถลงการณ์ลงชื่อ (ดร.ปิยะพัชร์ เดชจรรยา) เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริต เปิดโปงอย่างสร้างสรรค์รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม โทร 087-2578202 ลงชื่อ (ดร.จิมมี่ ทองพิมพ์) ประธานชมรมครูผู้กล้า ผดุงรักษาความเป็นธรรมของสังคมโทร 098-2020709 อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนซับใหญ่วิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ผู้อ่านแถลงการณ์ ลงชื่อ(น.ส.อาริสา ชำนาญ) โทร 098-3826150
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: