ชัยภูมิ – หลังหลายรายอยู่ดี ๆ ถูกตามทวงหนี้ถึงโรงเรียน ก่อนรวมตัวกันเข้าแจ้งความเพิ่มอีกกว่า 20 ราย จากเบื้องต้นมีผู้เสียหายถูกปลอมเอกสารอ้างชื่อกู้เงินนอกระบบแล้วอีกกว่า 65 ราย!
( 25 ก.พ.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ มีรายงานมีคณะครูตามอำเภอต่าง ๆ รวมตัวกันเดินทางไปแจ้งความเพิ่มเติมต่อเนื่อง เพื่อให้ตำรวจจับกุมมีบุคคลแอบอ้าง นำชื่อ ตำแหน่งของครูจำนวนมาก ไปกู้เงินนอกระบบจากนายทุน แต่ไม่ชำระหนี้คืน กลุ่มตัวแทนนายทุนจึงส่งลูกน้องบุกทวงเงินถึงในโรงเรียนหลายแห่ง
ซึ่งมีรายชื่อกลุ่มครูผู้เสียหายถูกนำไปแอบอ้างกู้เงินนอกระบบจำนวนมากรวมกว่า 65 ราย ที่มีการออกมายืนยันไม่เคยยื่นเรื่องขอกู้เงินนอกระบบในครั้งนี้เด็ดขาด และไม่มีส่วนรู้เห็นไม่เคยทำธุรกรรมในการขอกู้เงินจากนายทุนนอกระบบ จึงพากันรวมตัวเดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมในวันนี้ (25 ก.พ.66) ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ รวมอีกกว่า 20 คน เพื่อให้เร่งหาตัวผู้นำชื่อไปกู้เงินจากนายทุนนอกระบบในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วเพราะเกิดความเสียหายให้กับกลุ่มครูครั้งนี้จำนวนมากด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
โดยบ่ายวันนี้ (25ก.พ.66) ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มี นายสมพร บุญเกิน บิดาของ น.ส.เมธานี บุญเกิน อายุ 26 ปี ชาวอำเภอเมืองชัยภูมิ ข้าราชการครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน พื้นที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ พร้อมเพื่อน รวมอีกกว่า 20 คน ได้ทยอยเดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.จิตติพัฒน์ คำรังศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ว่าได้มีผู้ใดไม่ทราบชื่อนำชื่อของตนเอง และเพื่อนคณะครูอีกจำนวนมากหลายสิบคนที่อยู่ตามโรงงานต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า ,อ.ภักดีชุมพล ไปใช้ในการแอบอ้างทำธุรกรรมในการกู้ยืมเงินผู้อื่น จำนวนเฉลี่ยไม่น้อยกว่ารายละ 50,000 บาท โดยตนเองขอยืนยันว่ามิได้เคยทำการกู้ยืมเงินนอกระบบจากบุคคลใดมาก่อนเลย ซึ่งมีรายชื่อในบัญชีขอกู้เงินรวมอยู่ในกลุ่ม 65 คน รวมมูลค่าเงินกู้กว่า 2 ล้านบาท ของกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบไปได้อย่างไร จึงได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งตนเองมิได้เคยทำการกู้เงินจากบุคคลอื่นแต่อย่างใดเด็ดขาด
โดยก่อนนี้เมื่อวานที่ผ่านมา (24ก.พ.66) มีผู้เสียหายจากการนำรายชื่อไปกู้เงินจากนายทุนนอกระบบ มาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิแล้วกว่า 10 คน วันนี้ (25ก.พ.66) อีกกว่า 20 คน รวมล่าสุดมีครูผู้เสียหายถูกอ้างชื่อไปกู้เงินนอกระบบเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ แล้วกว่า 30 คน ส่วนที่ สภ.อื่น ๆ ในพื้นที่ 16 อำเภอ ของ จ.ชัยภูมิ ยังไม่มีข้อมูลรายงานว่าเข้าแจ้งความ ที่มีบัญชีรายชื่อจากกลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบจากผู้เสียหายถูกนำรายชื่อไปขอกู้เงินจากนายทุนนอกระบบครั้งนี้รวม 65 ราย
โดยเรื่องราวที่บรรดาครูตามโรงเรียนต่าง ๆ เป็นหนี้นอกระบบไม่ชำระคืนได้แดงขึ้น จากที่ได้มีชาย-หญิงแต่งกายชุดดำ ลักษณะคล้ายแก๊งเงินกู้นอกระบบรวม 4 คน ขับรถยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบทะเบียนเข้ามายังโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ภักดีชุมพล เพื่อทวงหนี้จากครูในโรงเรียน ทั้งที่ครูที่มีรายชื่อติดหนี้ ต่างก็ไม่ได้เคยทำเรื่องกู้เงินกับอีกฝ่ายแต่อย่างใด แม้จะพยายามอธิบายให้ฟัง แต่แก๊งเงินกู้ดังกล่าวกลับไม่สนใจ เรียกร้องให้ครูออกมาแสดงความรับผิดชอบใช้เงินดังกล่าวคืนให้ได้ หลังจากแก๊งเงินกู้กลับไปแล้ว ทำให้ทราบความจริงว่า นางก้อย (นามสมมุติ) ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้แอบอ้างนำชื่อตำแหน่งของครูในโรงเรียนหลายราย ไปใช้กู้เงินนอกระบบทางออนไลน์แล้วเบี้ยวไม่ชำระเงิน ทำให้มีนายทุนเงินกู้นอกระบบไม่พอใจ ส่งแก๊งทวงหนี้มาข่มขู่คุกคาม โดย นางกิ๊ฟ บอกกับนายทุนเงินกู้ว่า มีครูในโรงเรียนทั้งหมด 65 คน ต้องการจะกู้เงินรายละ 5 หมื่นบาท จึงให้กู้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งครูทั้ง 65 คนนั้น ไม่ได้รู้เรื่องดังกล่าวเลยแต่อย่างใด
รวมถึง น.ส.เมธานี บุญเกิน อายุ 26 ปี ข้าราชการครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า บอกว่าตัวเองงงมากที่อยู่ดีๆ ก็มีชื่อในรายชื่อกู้เงินจากนายทุนนอกระบบที่เพื่อนครูด้วยส่งมาให้ ตนเองตกใจมากที่อยู่ดีๆก็มีชื่อไปกู้เงินนอกระบบ 50,000 บาท จึงไปเล่าให้พ่อฟัง นายสมพร บุญเกิน ซึ่งหลายคนที่ชาวชัยภูมินับถือและรู้จักกันดีซึ่งมีฐานะเป็นถึงเจ้าของผู้ประกอบการร้านอาหารชื่อดังของ จ.ชัยภูมิ จึงได้ชวนเพื่อนที่มีชื่อในรายชื่อกู้เงินนอกระบบ เพื่อพากันกันเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ไว้เป็นหลักฐานและเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เคยไปกู้เงินจากบุคคลอื่นแต่อย่างใดเด็ดขาด พร้อมอยากขอให้ตำรวจจับกุม นางก้อย (นามสมมุติ) มาดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อหยุดปัญหาดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมาพวกตนเองไม่เคยทำธุรกรรมขอกู้เงินกับใคร ไม่ทราบนายทุนเงินกู้มีหลักฐานการขอกู้เงินได้อย่างไร ทั้ง ๆ บัตรประชาชนหรืออื่นๆที่เป็นหลักฐานส่วนตัว พวกตนไม่เคยเซ็นชื่อขอกู้เงิน พวกตนก็สงสัย ไม่ทราบว่าทำไมให้กู้เงินง่ายได้แบบนี้ด้วย วันนี้จึงมาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เอาชื่อพวกตนไปแอบอ้างขอกู้เงิน ให้ถึงที่สุดด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: