ชัยภูมิ – เผยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังครองแชมป์ร้องเรียนสู่ป.ป.ช.ติดอันดับครองแชมป์ยังสูงสุด แต่เริ่มกลายเป็นกรณีร้องเรียนโจมตีสาดโคลนใส่กันทำให้อีกฝ่ายได้รับเสียหายส่วนบุคคลเท่านั้น พบไม่มีมูลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเริ่มทำให้พบปัญหาการทุจริตที่ชัดเจนในหลายพื้นที่เริ่มลดน้อยลงมากขึ้นในปีนี้ ป.ป.ช.เตรียมใช้มาตรการทางกฎหมายช่วยกันตรวจสอบที่มีคุณภาพให้มากขึ้น เสริมมาตรการช่วยกันตื่นตัวตระหนักใส่ใจร่วมป้องกันคอร์รัปชันในกลุ่มอนาคตของชาติในกลุ่มเด็กเยาวชนหวังช่วยสร้างอนาคตของชาติให้ยั่งยืนในระยะยาวได้มากขึ้นต่อไปด้วย…
( 7 ธ.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ เนื่องในวันที่ 9 ธ.ค.ของทุกปีถือเป็นวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ในปีนี้ในประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 149 ของโลก และได้จัดขึ้นพร้อมกันในทั่วประเทศในวันที่ 7 ธ.ค.ปี 2561 นี้ ในส่วนของจ.ชัยภูมิ นายสมเกียรติ ศรีษะเนตร รองผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชัยภูมิ และตัวแทนทุกภาคส่วน ประชาชน นักเรียน นักศึกษาจากสถานศึกษาทุกแห่งในพื้นที่รวมกว่า 500 คน จึงได้ร่วมกันจัดงานเนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล(ประเทศไทย) จังหวัดชัยภูมิ ภายใต้แนวคิด : Zero Toterance คนไทยไม่ทนต่อการทุจริต ขึ้นที่ อาคารโรงอาหารหลังใหม่ (ตึกสีชมพู) ชั้น 2 สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตชัยภูมิ
เพื่อแสดงพลังร่วมกันในวันต่อต้านการคอร์รัปชันสากลไปพร้อมกันในทั่วประเทศ เชื่อมรับสัญญาณการถ่ายทดสด ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กรุงเทพฯ และมีกิจกรรมการส่งเสริมการป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในพื้นที่ทุกรูปแบบในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และมอบเกียรติบัตรให้กับบุคคล หน่วยงานที่ประเมินผ่านคุณธรรมและความโปร่งใสในการช่วยกันต่อต้านการทุจริตในทุกองค์กรให้มากขึ้น
โดยในวันต่อต้านคอร์รัปชันสากล ที่จ.ชัยภูมิ ปีนี้ นายศรัทธา กอบกุลบุญศิริ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า แนวโน้มปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ปีนี้ถือว่าเริ่มมีแนวโน้มลดลงมากขึ้น ที่มีการร้องเรียนสูงสุดก็ยังหนีไม่พ้นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีเรื่องเข้ามาถึงป.ป.ช.มากสุด แต่เป็นเรื่องที่มีแนวโน้มลดลงมากขึ้น คือมีการร้องเรียนมาก แต่ก็เป็นลักษณะร้องโจมตีกันมีมูลการทุจริตน้อยลง ซึ่งกฎหมายป.ป.ช.ใหม่ที่ออกมามีการคุ้มครองผู้ร้องมากขึ้น แต่ส่วนที่การร้องเรียนมาไม่มีคุณภาพหรือเข้าข่ายในการร้องโจมตีกันขาดข้อมูลหลักฐานทำให้ผู้อื่นเสียหาย มาตรการตรงนี้ก็จะต้องมีการดำเนินการกับผู้ร้องกล่าวหาคนอื่นโดยไม่เป็นธรรมตามมาด้วยมากขึ้นเช่นกัน
ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้มีการช่วยกันตรวจสอบในกรณีที่ร้องให้มากขึ้นด้วย เพื่อที่การจะเข้าไปดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนตามข้อเท็จจริงจะได้มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วในปี 2561 นี้ มีเรื่องร้องมาก แต่ผลการตรวจสอบปัญหาการทุจริตก็เริ่มถือว่าลดน้อยลงจำนวนมากในปีนี้
ซึ่งก็ยังถือว่าปัญหาการคอร์รัปชันเป็นเรื่องที่แก้ยาก แต่หลักสำคัญที่จะช่วยกันให้ลดน้อยลงได้มากขึ้นจากนี้ไปคือการป้องกันใส่ใจ การตื่นตัวของประชาชนโดยเฉพาะเริ่มตั้งแต่เด็กๆเยาวชน อย่างในการจัดงานที่ จ.ชัยภูมิ ปีนี้เน้นลงไปสู่การเกิดความตื่นตัวตระหนักในกลุ่มอนาคตของชาติในกลุ่มเด็กเยาวชนให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ในอนาคตโครงการเยาวชนของชาติจะช่วยทำให้เรื่องปัญหาทุจริตคอร์รัปชันลดน้อยลงอย่างยั่งยืนในอนาคตได้ต่อไปควบคู่อีกทางเป็นสำคัญด้วย
