ชัยภูมิ – รวมมีผู้เสียหายจำนวนมากในหลายพื้นที่ กว่า 3 โรงพัก(สภ.) ระดม ตร.ชุดสืบล่าตามรวบตัวได้แล้วหลังหนีกลบดานถึง จ.พิษณุโลก รับสารภาพก่อเหตุจริง แต่ไม่มีเงินมาคืนให้ผู้ปกครองทั้งหมดได้ อ้างใช้เงินหมดแล้ว!
( 18 มี.ค.66 ) เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา มีความคืบหน้ากรณี นายสมบูรณ์ อินทร์ชูวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านหนองสระแบง ได้นำพ่อแม่ ผู้ปกครองนักเรียนหลายหมู่บ้าน ใน ต.ห้วยบง กว่า 21 คน เด็กนักเรียนกว่า 30 คน ที่ได้เสียเงินเป็นค่าเรียนพิเศษ คนละ 2,500 บาท รวมแล้วกว่า 75,000 บาท ให้กับ นายเอนกฯ อายุ 46 ปี ที่ได้มาชักชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง เด็กนักเรียน ในพื้นที่ ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ ว่ารับสอนพิเศษเด็กเรียน ตั้งแต่ชั้น ป.1 จนถึง ม.3 ในเฉพาะช่วงวันเสาร์ และวันอาทิตย์ โดยมีการแอบอ้างว่าเป็นครูมาจากมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ (มรภ.ชัยภูมิ) อีกด้วย ซึ่งมีการตรวจสอบล่าสุดก็ไม่พบว่าเป็นครูมาจาก มรภ.ชัยภูมิ แต่อย่างใด
ซึ่งมีพฤติกรรมมาแอบอ้างว่าเป็นครู จะมารับเปิดสอนพิเศษให้กับเด็กนักนักเรียนในหลายหมู่บ้าน ในวิชาภาษาไทย , คณิตศาสตร์ , ภาษาอังกฤษ และคอมพิวเตอร์ ในระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้กับผู้ปกครองและเด็กๆที่ต้องการในหมู่บ้าน โดยการเรียนการสอนพิเศษให้ ทั้งหมดรวม 32 ชั่วโมง เรียนเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันละ 2 ชั่วโมง เก็บค่าสอนพิเศษคนละ 2,500 บาทต่อคน ต่อคอร์ส
และจัดการสอนพิเศษแยกชั้นเรียน ตามความเหมาะสมของเด็กนักเรียนที่เรียนหนังสือในโรงเรียนอยู่ ซึ่งครั้งนี้มีผู้ปกครองหลงเชื่อส่งลูกหลานของตนเองมาเรียนพิเศษ ในวันเสาร์/อาทิตย์ เฉพาะในตำบลห้วยบง รวมกว่า 21 คน เพื่อหวังให้ลูกหลานตนเอง ได้มีความรู้เพิ่มเติมในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มากยิ่งขึ้น ห่างไกลจากการไปเล่นแต่เกมในโทรศัพท์มือถือ โดยให้เด็กนักเรียนมาเรียนพิเศษที่ศาลาอเนกประสงค์ Sml ประจำหมู่บ้านหนองสระแบง หมู่ 8 ต.ห้วยบง อ.เมืองชัยภูมิ มาตั้งแต่เดือนกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากเด็กนักเรียนมาเรียนพิเศษ นายเอนกฯ ได้ให้เด็กนักเรียนทั้งหมดที่มาเรียนพิเศษได้นั่งเรียนพิเศษรวมกัน ไม่แบ่งชั้นเรียนตามความเหมาะสมของนักเรียน มีเพียงแจกสมุดใบงานเหมือนกันทุกคน แล้วให้เด็กเขียนหนังสือตามใบงานที่แจกให้ เหมือนเด็ก ป.1 แต่เมื่อเก็บเงินค่าเรียนพิเศษกับผู้ปกครองเด็กนักเรียนคนละ 2,500 บาทหมดแล้ว และจัดการสอนพิเศษวันละ 2 ชั่วโมง วันเสาร์และอาทิตย์ ได้เพียง 3 สัปดาห์ รวมแล้วจัดการสอนพิเศษเพียง 12 ชั่วโมง ไม่ถึง 32 ชั่วโมง ตามสัญญาที่ตกลงกับชาวบ้านไว้ จนถึงกลางเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา นายเอนก ได้แจ้งกับผู้ปกครองบางส่วนว่า ได้ปิดคอร์ส การเรียนการสอนแล้ว พร้อมกับได้หายตัวไป หมายเลขโทรศัพท์ที่ให้ไว้ ติดต่อไปเหมือนปิดเครื่องหนีติดต่อไม่ได้อีกเลย
ซึ่งบรรดาผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองเด็กนักเรียน ได้พยายามโทรติดต่อไปเพื่อให้มาตกลงกัน ว่าจะสอนพิเศษต่อตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ หรือจะจ่ายเงินคืนให้ผู้ปกครองเด็กนักเรียนทั้งหมด แต่ติดต่อกับนายอเนกไม่ได้เลย ทางผู้ปกครองเด็กนักเรียนจึงมั่นใจว่า ถูกหลอกเสียเงินคนละ 2,500 บาท สูญเปล่า ซึ่งมีเด็กกว่า 30 คนที่ถูกหลอก รวมเป็นเงินกว่า 75,000 บาท จึงได้รวมตัวกันเดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.เรืองศิลป์ ประวิสุทธิ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลาดใหญ่ ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับนายเอนกฯ ครั้งนี้ที่ได้หลอกลวงบรรดาผู้ปกครองเด็กนักเรียน ให้เสียเงินเป็นค่าเรียนพิเศษของลูกหลานตนเองคนละ 2,500 บาท แต่แล้วการจัดสอนพิเศษไม่เป็นตามข้อตกลง ที่ได้ตกลงกันไว้ เด็กนักเรียนที่เรียนพิเศษแต่ละคน ไม่ได้ความรู้เพิ่มแต่อย่างใดอีกด้วย
และยังทราบอีกว่า นายอเนกผู้ต้องหา รายนี้ยังได้มีพฤติกรรมไปหลอกลวงจัดการสอนพิเศษให้เด็กนักเรียนตามหมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนใน ต.ห้วยไร่ ถูกหลอกอีกกว่า 20 คน ในพื้นที่บ้านห้วยหมากแดง ต.ท่าหินโหม อีก 20 คน ก่อนหลบหนีไป ผู้ปกครองนักเรียนได้ไปแจ้งความไว้แล้วทั้งที่ สภ.ลาดใหญ่, สภ.คอนสวรรค์ และ สภ.เมืองชัยภูมิ รวมแล้วมีเด็กถูกหลอกสมัครเรียนพิเศษแล้วไม่ได้เรียนตามข้อตกตกลงกันไว้ที่หมดอีกจำนวนมากกว่า 70 คน คิดเป็นเงินที่นายอเนก ครูสอนพิเศษลวงโลกรายนี้ได้ไปกว่า 175,000 บาท ก่อนที่จะหลบหนีไปครั้งนี้
จนล่าสุดวันนี้ (18 มี.ค.66) หลังจากที่ พ.ต.อ.อรชุน รักสกุลพิวัฒน์ ผกก.สภ.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งความกับผู้ปกครองนักเรียน ที่ได้รับความเสียหาย ให้ดำเนินคดีกับนายอเนก ได้มีการรวบรวมหลักฐานการกระทำความผิดของ นายอเนกแล้ว ทั้งที่อ้างตัวเองว่าจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ และเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ จากการตรวจสอบไม่ได้เรียนจบ และเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยราชภัฎชัยภูมิ แต่อย่างใดอีกด้วย ทาง สภ.ลาดใหญ่ ได้ออกหมายเรียก นายเอนกไปแล้ว แต่ไม่ยอมมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้ออกหมายจับกับ นายอเนก อายุ 46 ปี ตามที่อยู่พบว่าหลบหนีไปอยู่ที่ หมู่ที่ 11 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก และทางตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลาดใหญ่ ได้ติดตามไปจับกุมนายอเนก ผู้ก่อเหตุรายนี้ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ได้เมื่อคืนที่ผ่านมา
ก่อนควบคุมตัวมาที่ สภ.ลดใหญ่ ในตอนเช้าที่ผ่านมา (18มี.ค.66) และได้แจ้งผู้ปกครองนักเรียนที่ถูกหลอกเสียเงินค่าเรียนพิเศษ แต่ลูกตัวเองไม่ได้เรียนพิเศษตามข้อตกลงกันไว้ ได้มาชี้ตัวผู้ก่อเหตุภายในห้องสอบสอบสวน สภ.ลาดใหญ่ โดยไม่ขอให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพขณะผู้ปกครองนักเรียนขณะชี้ตัวผู้ต้องหารายนี้แต่อย่างใด
ซึ่งด้าน น.ส.ศุภัชชญา ครุฑละคร อายุ 33 ปี ชาวบ้าน หมู่ 7 บ้านหนองหิน ต.ห้วยบง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ผู้เป็นแม่ของเด็กที่เสียหาย รวมทั้งตัวแทนผู้ปกครอง นักเรียนที่ถูกหลอกครั้งนี้ ได้เปิดเผยว่า หลังได้เข้าไปชี้ตัวครูสอนพิเศษจอมลวงโลกรายนี้แล้ว ซึ่งได้ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง เงินที่ได้ไป ได้ใช้จ่ายหมดแล้ว ไม่มีเงินมาคืนให้ผู้ปกครองนักเรียน คนละ 2,500 บาทได้ ซึ่งผู้ปกครองนักเรียนทั้งหมด ยืนยันเมื่อผู้ต้องหารายนี้ไม่มีเงินมาคืนให้ชาวบ้านได้ ก็ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้ไปก่อเหตุลอกลวงคนอื่นได้อีก
ซึ่งในชั้นสอบสวน เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหาแอบอ้าง ลอกลวงผู้อื่นให้ลงเชื่อเสียเงินค่าเรียนพิเศษ โดยไม่ได้เรียนพิเศษ ไม่เป็นตามข้อตกลงกันไว้ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำตัวฝากขังต่อไปแล้ว
