ชัยภูมิ – หลังล่าสุดสาวเจ้าของร้านเผยโดนมาแล้วกว่า 4 ครั้ง จนสุดทนตัดสินใจติดกล้องวงจรปิดหาหลักฐานเจอภาพกลุ่มคนร้ายวัยโจ๋เมาหนักถือมีดอีโต้บุกพังร้านยับเพื่อขโมยของซ้ำอีก เริ่มผวาหนัก!
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา วันที่ 3 มิ.ย.66 เกิดเหตุสุดช็อกกับชาวบ้านในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยมี นางกมลชนก รังกลาง อายุ 35 ปี เจ้าของร้านค้าขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ บุฟเฟ่ต์ ตั้งอยู่เลขที่ 82/1 หมู่ 3 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ได้นำภาพวงจรปิดภายในร้านส่งให้ทีมข่าว เพื่อขอความช่วยเหลือด่วน หลังเกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นไม่น้อยกว่า 2 คน ลักษณะเหมือนคนเมา ไม่รู้ไปหิวมาจากไหน ได้ถือมือมีดอีโต้ขนาดใหญ่ พร้อมมีเพื่อนอีกคนบุกเข้ามาภายในร้านเวลาเมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.28 น.ของวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา ได้บุกเข้ามาใช้มีดอีโต้ฟันพังทำลายข้าวของภายในร้าน และขโมยของภายในร้านที่เป็นขวดน้ำอัดลมไว้จำหน่ายให้ลูกค้าก่อนเดินหนีออกจากร้านไปด้วยเสียงหัวเราะ อย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
โดย นางกมลชนก รังกลาง อายุ 35 ปี เจ้าขอร้านค้าขายก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ บุฟเฟ่ต์ ผู้เสียหายดังกล่าว แจ้งงว่า ซึ่งในตอนกลางคืนจะนอนพักที่บ้านอีกหลังในหมู่บ้าน ในตอนเช้าวันนี้(3 มิ.ย.66)ได้มาเปิดร้านค้า เตรียมเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนปกติ ได้สังเกตเห็นความผิดปกติมีสิ่งของภายในร้านถูกทุบพังได้รับความเสียหาย ทั้งผ้าม้านในร้านค้าถูกมีดฟันขาดเสียหาย จึงได้เปิดกล้องวงจรปิดภายในร้านค้าดู ได้เห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่นผมยาว 2 คน บุกเข้ามาในร้านเมื่อคืนที่ผ่านมา แล้วใช้มีดอีโต้ขนาดใหญ่ที่ถือมาด้วย ทั้งฟันทุบทำลายสิ่งของภายในร้านได้รับเสียหายและหยิบขโมยขวดน้ำอัดลมภายในร้านที่เก็บไว้จำหน่ายในร้านติดมือไป
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เคยพบเจอมาก่อนเลยว่าจะมีคนกล้าบุกมาพังร้านค้าตัวเองเพื่อขโมยของน้ำดื่มอัดลมแบบไม่เกรงกลัวกฏหมายได้ขนาดนี้ และหวั่นว่าจะไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินภายในร้านตามมาอีกได้ ซึ่งจากนี้ต่อไปหากวันไหนตื่นนอนขึ้นมาเปิดร้านมาพบกับคนร้าย และถูกทำลายและอาจได้รับอันตรายถึงเสียชีวิตได้ จึงได้นำภาพวงจรปิดของร้านค้าที่จับภาพของ 2 คนร้ายเข้าก่อเหตุที่มีลักษณะเหมือนคนหลอนยาเสพติด ที่ไม่น่าจะใช่แค่คนเมาสุราแบบธรรมดา ที่มาเข้าก่อเหตุพังร้านค้าตนเองและขโมยของครั้งนี้อย่างอุกอาจ แบบไม่เกรงกลัวกฏหมายเลยมาก่อนแบบนี้ จึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกับ ร.ต.ท.วรายุส ขวัญทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ภูเขียว ไว้เป็นหลักฐานและได้เดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงยังที่เกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อเร่งหาตัว 2 คนร้ายวัยรุ่นขาโจ๋ครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป
ซึ่งจาการสอบถาม นางกมลชนก รังกลาง อายุ 35 ปี เจ้าของร้านผู้เสียหายครั้งนี้ ยังเล่าอีกว่าที่ผ่านมา ตนเองได้เปิดร้านค้าขายก๋วยเตี๋ยวบริเวณนี้มากว่า 4 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุมีคนร้ายบุกเข้ามาภายในร้านในตอนกลางคืนแบบนี้มาแล้วกว่า 4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งก็จะมีข้าวของเสียหายไปรวมแล้วมูลค่ากว่า 4 พันบาท แต่ก็ไม่เคยติดใจ ไม่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายเพราะไม่หลักฐาน ตนเองจึงได้ลงทุนซื้อกล้องวงจรปิด มาติดภายในร้าน ซึ่งในหัวค่ำจะปิดร้านค้า แล้วไปนอนที่บ้านพักอีกหลังภายในหมู่บ้าน ตอนเช้ามาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวตามปกติ
ซึ่งครั้งล่าสุดนี้กล้องวงจรปิดร้านค้าก็สามารถจับภาพ 2 วัยรุ่นคนร้ายไว้ได้ และน่าจะเป็นคนกลุ่มเดิมที่เคยมาก่อเหตุแล้วย่ามใจจึงเข้ามาก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่งขณะเข้าก่อเหตุเหมือนคนหลอนยาหรือน่าจะมีการเสพยาเสพติดมาก่อน แล้วเกิดหิวจึงเข้ามาก่อเหตุขโมยของที่เป็นน้ำอักลมในร้านไป แต่ยังไม่หนำใจยังมาทำลายสิ่งของภายในร้านเสียหายด้วยอีก และยังเดินหัวเราะอย่างมีความสุขขณะก่อเหตุด้วย
จึงนำภาพวงจรปิดหลักฐานขณะคนร้ายก่อเหตุ เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดตามจับกุม 2 คนร้ายก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วด้วย เพราะครั้งนี้ครอบครัวตนเองก็เริ่มมีความหวาดผวาวิตกเป็นอย่างมาก หวั่นไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน หากตื่นนอนขึ้นมาพบกับคนร้ายอีก และถูกทำร้ายและอาจได้รับอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิตได้ และอยากฝากเตือนไปถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง ให้ระมัดระวังตัวกันให้มากขึ้นด้วย ควรหากล้องวงจรปิดมาติด เพื่อจับภาพคนร้ายเพื่อเป็นหลักฐานในการเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งและไม่มีใครแจ้งความ ที่จะทำให้คนร้ายกลุ่มนี้ย่ามใจกลับมาก่อเหตุที่รุนแรงมากขึ้นในพื้นที่ซ้ำอีกด้วย
