ชัยภูมิ – ชอบรวมกลุ่มกันเสพยาบ้าในบ้าน จนเกิดอาการหลอนยาหนัก วันไหนแม่ไม่มีเงินให้ไปซื้อยามาเสพได้ เกิดอาการคลุ้มคลั่งทำลายสิ่งของภายในบ้านพังยับ-ขู่ฆ่าแม่!!
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุด่วน และต้องเร่งประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเสริมจุดเกิดเหตุ หลังจากตำรวจชุดสายตรวจในหมู่บ้านในเขต อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
แจ้งขอกำลังเสริมในการเข้าควบคุมตัวชายวัย 31 ปี ซึ่งเกิดอาการหลอนยาบ้าและมีอาการคลุ้มคลั่งทำลายสิ่งของภายในบ้านตัวเอง และขู่ฆ่ามารดา หรือ แม่แท้ ๆ ของตัวเอง
ซึ่งผู้เป็นแม่กลัวจะได้รับอันตรายจากฝีมือลูกชายทาสยาเสพติด จึงโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจชุดสายตรวจมาช่วยนำตัวไปรักษาอาการติดยาบ้า แต่ลูกชายชื่อ นายเอ อายุ 31 ปี ไม่ยอมให้คุมตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยภูมิ
จึงแจ้งขอกำลังเสริมจากตำรวจ สภ.อ.เมืองชัยภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเสริมอีกกว่า 5 นาย เมื่อเดินทางมาถึงยังบ้านที่ได้รับแจ้งพบ นางกอ (นามสมมุติ)อายุ 47 ปี ผู้เป็นแม่ของนายเอ อายุ 31 ปี บอกว่า ลูกชายยังอยู่ภายในบ้าน พร้อมภรรยา นางบี และน้องชายอีกคน นายซี อายุ 26 ปี ทั้งตำรวจสายตรวจสายตรวจและกำลังเสริมจาก สภ.เมืองชัยภูมิ จึงได้เข้าไปภายในบ้านพัก โดยใช้เหล็กไม้ง่ามจู่โจมเข้าไปภายในบริเวณบ้าน พบนายเอ อายุ 31 ปี ที่นั่งอยู่บริเวณประตูทางเข้าบ้าน ส่วนกระจกบานหน้าต่างหลายบานมีร่องรอยถูกของแข็งตีแตกไปหลายบาน ตามพื้นบ้านมีเศษกระจกตกกระจายอยู่จำนวนมาก
ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในบ้าน นายเอ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้ตำรวจนำตัวไปบำบัดรักษาตัวง่าย ๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้แม่มาช่วยพูดเกลี้ยกล่อมช่วยใช้เวลาอยู่นานกว่า 15 นาที ผู้ก่อเหตุจึงยอมให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเดินออกจากบ้าน ซึ่งตำรวจยังคงต้องใช้เหล็กไม้ง่ามคอยระวังควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ อย่างใกล้ชิดเพื่อนำตัวไปบำบัดรักษาตัวอาการติดยาเสพติด หรือยาบ้า ที่ รพ.ชัยภูมิ พร้อม น.ส.บี ภรรยาของผู้ก่อเหตุเองที่ก็เสพยาบ้าด้วยกัน รวมทั้งน้องชายผู้ก่อเหตุอีกคน นายซี อายุ 26 ปี ที่ก็เสพและติดยาบ้าด้วย เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวพี่ชาย ก็ได้รีบวิ่งหนีออกจากบ้านไปขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) หนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงตัวเอง และควบคุมตัวนายเอ อายุ 31 พี่ชายไว้ได้ก่อนในครั้งนี้
ด้านแม่ของนายเอ อายุ 31 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวตนเองมีลูกชาย 2 คน เมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา ลูกชายคนโตนายเอ ไปทำงานโรงงานแห่งหนึ่งใกล้กับกรุงเทพฯ ได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยา นางบี ไม่นานได้มีอาการติดยา และออกจากงานหอบภรรยาและลูกชายกลับมาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่าน และยังได้ชักชวนน้องชายนายซี อีกคนไปเสพยาด้วยกันจนติดงอมแงมกันหมด ไม่ไปหาทำงานทำการอะไร เอาแต่ขอเงินพ่อแม่ใช้ซื้อยาบ้ามาเสพ
และเมื่อไรที่ลูกชายเกิดอาการอยากเสพยาบ้า จะมีอาการตาขวาง และหาเรื่องทะเลาะกับตนผู้เป็นแม่เป็นประจำ ห้ามไม่ฟัง และจะทำลายทรัพย์สินข้าวของในบ้านเสียหาย และมีอาการหลอนพูดจาไม่รู้เรื่องเอะอะโวยวายเสียงดังทั้งกลางคืน-กลางวัน รวมถึงในวันนี้ ได้มีอาการอยากเสพยา ได้หาเรื่องทะเลาะกับแม่ ทำลายกระจกบานหน้าต่างบ้านเสียหายไปหลายบาน และยังขู่จะฆ่าแม่อีกด้วย จึงไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือนำตัวส่งไปบำบัดรักษาอาการติดยา ให้หายขาดเสียที ก่อนที่จะปล่อยกลับมาบ้านมาอีก
สำหรับตัว นายเอ อายุ 31 ปี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวไปสวบสวนที่ สภ.เมืองชัยภูมิ และรับสารภาพว่าได้เสพยาบ้ามานานจนติดเลิกไม่ได้ และขอยอมเข้ารับการบำบัดรักษาตัวที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวให้เข้ารับการบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลชัยภูมิต่อไปแล้ว รวมทั้งภรรยา และส่วนน้องชายอีกคนที่จะติดตามตัวมาเข้าการบำบัดรักษาเลิกยาเสพติดให้ได้ต่อไป
