ชัยภูมิ – หลังเจ้าของบ้านเดิม เป็นครูย้ายไปอยู่ที่อื่น น่าจะขายบ้านเกิดเหตุให้คนอื่นแล้ว แต่ยังไม่มีใครเข้ามาอยู่จนบ้านร้าง ชาวบ้านใกล้เคียงคาดเป็นฝีมือชอบมีคนชอบแอบมาจับกลุ่มมั่วสุมในบ้านดังกล่าวหลังเคยแจ้ง จนท.ตร.ช่วยมาตรวจสอบบ่อยครั้ง!
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.เศษ วันที่ 7 ก.ย.66 ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณหลังชุมชนเคหะไปรษณีย์เมืองชัยภูมิ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานรถน้ำจากเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีทั้ง นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ร่วมเดินทาวมาช่วยตรวจสอบที่เกิดเหตุครั้งนี้ด้วยตัวเอง เพราะพื้นที่บ้านที่เกิดเพลิงไหม้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของประชาชนในชุมชนข้างเคียงอีกจำนวนมากด้วย
พบในที่เกิดเหตุเป็นบ้านร้าง ขนาด 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน ไม่มีคนอาศัยอยู่ ซึ่งไฟกำลังลุกลามจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริเวณด้านข้างเป็นป่ารกทึบ และ บริเวณซอยดังกล่าวค่อนข้างคับแคบ เจ้าหน้าที่รถน้ำดับเพลิงกว่า 4 คัน ต้องเร่งระดมลากสายฉีดน้ำเข้าไปให้ใกล้ที่สุด เพื่อสกัดเพลิงใช้เวลาอยู่นาน กว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ และ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านร้างที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ เล่าว่า บ้านร้างหลังดังกล่าวเป็นของครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากครูรายนี้ได้ย้ายออกไปอยู่พื้นที่อื่นนานแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะขายบ้านหลังนี้แล้ว ไปซื้อบ้านหลังใหม่อยู่นอกเมือง จึงไม่ได้เข้ามาดูแลบ้านปล่อยให้บ้านรกร้างมานานแล้ว
ซึ่งสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ น่าจะมีกลุ่มคนเข้ามามั่วสุมภายในบ้านหลังดังกล่าวอยู่บ่อยครั้งเพราะไม่มีคนอยู่ปล่อยทิ้งร้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นต้นตอของเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เนื่องจากคนในหมู่บ้านใกล้เคียงและชาวบ้าน ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงได้เคยแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอยู่บ่อยครั้ง ว่ามีคนแอบมามั่วสุมในบ้านร้างดังกล่าวมาแล้วบ่อยครั้ง
ด้าน ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังเพลิงสงบลง ได้แจ้งกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้มาจากสาเหตุใดที่แน่ชัดอีกครั้งก่อน และถ้าเจ้าของบ้านกลับมาหรือทราบข่าวหากต้องการดำเนินคดีในส่วนของกลุ่มบุคคลเข้ามาบุกรุกมั่วสุมจนทำให้บ้านเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ ก็จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงเพื่อหากลุ่มคนที่แอบเข้ามาบุกรุกบ้านผู้อื่นจนทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเสียหายในครั้งนี้ด้วยได้เพิ่มเติมต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: