ชัยภูมิ – ต้อนรับฤดูหนาวมาเยือนเต็มตัวแล้วปีนี้ผลกระทบทางภัยธรรมชาติปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มส่งสัญญาณเตือนเกิดอากาศแปรปรวนหนัก ทั้งฝนหลงฤดู ส่งผลกระทบทำข้าวเปลือกที่ตากไว้เกิดความชื้นเร่งหาที่ตากข้าวใหม่อีกหลายรอบกันวุ่นก่อนที่จะนำไปขายได้ ทั้งต้นข้าวรอเก็บเกี่ยวในนาถูกลมหนาวแรงพัดล้มอยากต่อการเก็บเกี่ยวกระทบทำให้ได้ผลผลิตน้อยลงตามมาอีกจำนวนมากด้วย!
( 14 พฤศจิกายน 2566 ) ขณะที่จังหวัดชัยภูมิ เริ่มรับบรรยากาศเข้าสู่ฤดูหนาว หรือ ลมหนาวในปีนี้มาเยือนเต็มตัวแล้ว และเริ่มมีผลกระทบทางภัยธรรมชาติปรากฏการณ์เอลนีโญเริ่มส่งสัญญาณเกิดอากาศแปรปรวนหนัก ในปีนี้ในช่วงต้นฤดูหนาว ยังเกิดมีฝนตกตามมาในหลายพื้นที่ด้วย ทำให้เกิดอากาศหนาวจัดในตอนเช้า แต่พอตกช่วงบ่ายในแต่ละวันก็จะมีอากาศแปรปรวนร้อนจัด จากความกดอากาศสูงที่แผ่จากประเทศจีนทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกิดลมหนาวพัดมาในระยะนี้ กระแสลมที่พัดแรงยังส่งผลทำให้ต้นข้าวของเกษตรกรที่เพาะปลูกในนาไว้ ที่กำลังออกรวงสีเหลืองอร่ามใกล้เก็บเกี่ยวได้อีกไม่นานในช่วงไม่เกิน 1-2 สัปดาห์นี้ ตามพื้นที่นาลุ่มถูกลมพัดแรงเริ่มส่งผลกระทบให้ต้นข้าวในนาล้มระเนระนาด ได้รับความเสียหาย
ซึ่งชาวบ้านในหลายพื้นที่ขณะนี้ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาต้นข้าวล้มได้จนกว่าจะถึงเวลาเก็บเกี่ยว ซึ่งจะส่งผลให้ยากต่อการเก็บเกี่ยวข้าวในนา และยังจะทำให้ได้ผลผลิตลดน้อยลงอีกด้วย
ขณะเดียวกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนหลงฤดู ตกหนักเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ทำให้เกษตรกรชาวนาที่เกี่ยวข้าว และที่ได้สีข้าวนำมาตากตามทุ่งนา ตามลานตากข้าวในหมู่บ้าน และลานวัด ถูกฝนเปียกชื้น หากนำไปขาย ก็จะถูกหักค่าความชื้น ทำให้ได้ราคาไม่ดีในขณะนี้ด้วย
กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ต้องออกมาพากันเก็บข้าวเปลือกที่ตากไว้ เพื่อไปหาสถานที่ตากแดดใหม่อีกหลายรอบก่อนที่จะนำไปขายได้อีกระยะ ซึ่งนับเป็นความทุกข์ของเกษตรกรชาวนา ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งประสบกับปัญหาที่ผ่านมาเกือบตลอดทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา ทั้งเกิดปัญหาน้ำท่วม และพอเข้าสู่ฤดูหนาวภัยแล้งก็เกิดขึ้นตามมาอย่างรวดเร็ว และยังเกิดฝนหลงฤดูกระหน่ำซ้ำเติมอีกครั้งในช่วงเก็บเกี่ยวข้าว ซึ่งจะพบเห็นชาวนานำข้าวเปลือกมาตากแดด ทั้งตามพื้นที่เส้นทางถนนลาดยาง เส้นทางผ่านตามหมู่บ้านต่าง ๆ ตามลานกีฬาใกล้บ้าน ตามลานพื้นปูนภายในวัด จำนวนมากในช่วงนี้ ซึ่งช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทข้าวเปลือกข้าวเหนียว และ ข้าวจ้าวหอมมะลิ 105
ซึ่งด้าน นายด้วง อายุ 66 ปี เกษตรกรชาวนาบ้านท่าหว้า หมู่ 3 ต.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ข้าวเปลือกตากไว้ในลานภายในวัด เป็นข้าวจ้าวหอมมะลิ 105 ประมาณ 10 ตัน พึ่งตาดได้ 2 แดด หรือ 2 วัน จะเก็บใส่กระสอบไว้ในวันนี้ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ ตอนเช้ามาดูข้าวเปลือกที่ตากแดดไว้ในลานภายในวัด ที่ส่วนหนึ่งยังดีที่ได้นำพลาสติกมาคลุมไว้ทำให้ไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำฝนมากไปกว่านี้ ซึ่งเกิดฝนหลงฤดูช่วงหน้าหนาวปีนี้ก็ยังกลายเป็นความทุกข์ของเกษตรกรชาวนา ที่ทุกปีต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมไม่ได้ผลผลิต ลมพัดต้นข้าวล้ม และฝนหลงฤดูกระหน่ำซ้ำเติมอีก ในช่วงเก็บเกี่ยวข้าวที่ปีนี้ยังพอได้ผลผลิตบ้าง และต้องเร่งนำข้าวเปลือกไปตากไล่ความชื้นก่อนที่จะนำไปขายต้องใช้เวลานานกว่าเดิมอีกมากด้วย
