ชัยภูมิ – เปิดแถลงความพร้อมเตรียมจัดใหญ่ในงานสืบสานงานประเพณีแข่งขันกีฬาโบราณ”ตีคลีไฟ” มีให้ชมหนึ่งเดียวในโลก ประเดิมต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวฤดูหนาว “ชวนเที่ยวหนาวนี้ที่ชัยภูมิ” ก่อนส่งท้ายปีเก่า ระหว่าง 15-16 ธ.ค.66 นี้
ข่าวน่าสนใจ:
- จนมุมคาด่านตรวจปีใหม่หนุ่มหนีหมายจับค้ายาบ้านานกว่า 3 ปี!
- ศึกชิง ส.อบจ.ชัยภูมิน้อยเป็นประวัติการณ์กว่า5เขตมีผู้สมัครคนเดียวไร้คู่แข่งแบบนอนมา!
- กระฮึ่มรุมสาปแช่งทั่วเมืองสาวแสบยังไม่สำนึกขโมยของศาลเจ้าพ่อพญาแลผู้ก่อตั้งเมืองชัยภูมิ!
- เปิดแล้วสุดยอดจุดเคาท์ดาวน์ซับสะเลเตบนขุนเขาแห่งดอกไม้ใหญ่สุดในภาคอีสาน!
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 ธ.ค.66 นางสาวอรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เปิดแถลงข่าว เตรียมจัดงานสืบสานงานประเพณีตีคลีไฟ(KIEE – FIRE) กีฬาโบราณที่มีให้ชมหนึ่งปีมีครั้งเดียวมีให้ชมเพียงแห่งเดียวในโลก ประจำปี พ.ศ.2566 นี้ ที่ลานสนามกีฬาภายในวัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
เพื่อเป็นการสืบสานงานประเพณีสำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ที่มีให้ชมเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่สำคัญในช่วงเทศกาลต้อนรับการท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว หรือเที่ยวหนาวนี้ที่ชัยภูมิ ที่จะมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และในปีนี้จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 15 – 16 ธ.ค.66 ของปีนี้
ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวในทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เดินทางมาชม งานสืบสานประเพณีกีฬาโบรารณดังกล่าว ซึ่งมีตำนานการละเล่นของชาวบ้านในพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว ของชาวตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ในช่วงที่หลังช่วงชาวบ้านพากันเกี่ยวข้าวในนาเสร็จสิ้น ก็จะพากันมารอคิวลงอาบน้ำในคลองหนองเขื่องใกล้บ้านก่อนค่ำ ชาวบ้านจึงนำท่อนต้นนุ่นแห้งมาก่อไฟผิงรอคิวลงอาบน้ำเพื่อแก้หนาว และใช้เหง้าไม้ไผ่ที่อยู่ริมห้วยมาตีลูกคลีแข่งกันเล่นเพื่อสร้างความสนุกนาน ซึ่งลูกไม้นุ่นแห้ง หลังได้ถูกเผาไฟแล้วเวลาตีจะเห็นเป็นประกายไฟสวยงาม ในเวลาพลบค่ำ จึงเป็นที่มาของกีฬาโบราณตีคลีไฟของคนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มาช้านานแต่โบราณมานับหลายร้อยปีมาจนปัจจุบัน
โดยการละเล่นตีคลีไฟ เป็นการละเล่นของชายหนุ่ม ที่อยู่ในในหมู่บ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ทั้งในช่วงเวลากลางวันจะเล่นคลายหนาวเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายจากการเอาต้นงิ้วแห้ง หรือต้นนุ่นหั่นเป็นท่อนขนาด 10 – 15 เซนติเมตร ก่อนนำมาตีเล่นกัน และในเวลาใกล้ค่ำก็จะนำมาเผาไฟเพื่อตีคลีไฟแข่งกีฬากัน ส่วนไม้ตีใช้เหง้าไม้ไผ่ ตรงปลายงอ ด้ามยาวประมาณ 1 เมตร ใช้ตีกันอย่างสนุกสนาน ด้วยการแบ่งเป็นทีมแข่งขันกันข้างละ 4 คนขึ้นไปแล้วแต่จะมีคนมารวมกันตามจำนวนมากน้อย ซึ่งจะใช้เวลาแข่งขันและกำหนดเวลาตามความเหมาะสมและข้อตกลงก่อนการแข่งขัน ที่ถือว่าคล้ายกันกับกีฬาฮอกกี้ จนต่อมาได้รับการแพร่หลาย และพัฒนามาเป็นกิจกรรมประเพณีที่นำมาเล่นในช่วงฤดูหนาว และหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ไปจนถึงเทศกาลส่งท้ายปีใหม่ของ จ.ชัยภูมิ มาต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
ซึ่งประเพณีการตีคลีไฟนี้ ชาวบ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายจะเล่นกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นเกมกีฬาที่ท้าทาย ไม่กลัวความร้อนจากลูก(นุ่น)ที่ถูกนำมาเผาให้เป็นลูกคลีไฟ
และกลายเป็นกีฬาโบราณพื้นบ้านในช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา ช่วยเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดมาชัยภูมิเที่ยวได้ทุกฤดู และโดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวของทุกปี การสืบสานประเพณีตีคลีไฟ เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญขึ้นชื่อมีให้ชมเพียงหนึ่งเดียวในโลก และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมารอชมเป็นจำนวนมากในทุกปี ที่จะจัดขึ้นที่ลานสนามกีฬาภายในวัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ซึ่งในปี 2566 นี้ จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.66 ที่นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางมาชมได้ ที่ชาวบ้านในพื้นที่และทางจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตำบลต่างๆ ได้มีการเปิดให้มีการรับสมัครคนที่สนใจอยากมาร่วมงานและส่งทีมลงแข่งขันกีฬาตีคลีไฟในปีนี้ได้อีกด้วย พร้อมมีการชิงถ้วยชนะเลิศและชิงเงินรางวัลในปีนี้ด้วยอีกจำนวนมาก ที่จากนี้ไปจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 7-12 ธ.ค.66 นี้ หากคนที่สนใจอยากจัดทีมมาร่วมลงแข่งขันกีฬาโบราณตีคลีไฟด้วยก็สามารถติดต่อสอบถามยื่นใบสมัครได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลกุดตุ้ม( อบต.กุดตุ้ม) และที่สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ ได้จากนี้ไปไม่เกินวันที่ 12 ธ.ค.66 นี้
ก่อนที่จะมีการเปิดการแข่งขันต้อนรับนักท่องเที่ยวมาชมเที่ยวหนาวนี้ที่ชัยภูมิ มีให้ชมหนึ่งเดียวในโลก ก่อนส่งท้ายปีในระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.66 นี้ พร้อมมีสินค้าอาหารของดีขึ้นชื่อของจังหวัดชัยภูมิ มาจำหน่ายรองรับให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในปีนี้ได้มาชิมมาชมอีกหลากหลายภายในงานสืบสานแข่งกีฬาโบราณตีคลีไฟมีให้ชมหนึ่งเดียวในปีนี้ด้วย
สำหรับกติกาการแข่งขันจะคล้ายการแข่งขันฟุตบอล หรือกีฬาฮอกกี้ เพียงแต่ใช้ไม้ตีลูกคลีไฟแทนการเตะลูกฟุตบอล และห้ามยกไม้คลีสูงเกินเอวที่จะช่วยไม่ให้ไม้ตีคลีไปถูกผู้เล่นด้วยกันอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ ส่วนผู้รักษาประตูจะใช้ส่วนไหนของร่างกายรับลูกคลีไฟที่ถูกเผามาร้อนๆ ก็ได้ ในด้านอันตรายที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีคนได้รับบาดเจ็บรุนแรงอะไรแต่อย่างใด รวมทั้งผู้ชมบางคนก็งงๆ ว่าแล้ว ทั้งลูกไฟที่ไปถูกมือ หรือร่างกาย ผู้เล่น และผู้รักษาประตูนั้น ก็ไม่เคยพบว่าใครมือพองหรือเป็นอันตรายใดๆ เลย ซึ่งชาวบ้านที่นี่เชื่อว่าชายหนุ่มในหมู่บ้านหนองเขื่องมีสิ่งศักดิ์ของดีคุ้มครอง จนอีกฉายาหนึ่งของการละเล่นตีคลีไฟของชาวบ้านชาวชัยภูมิ ที่นี่จะเรียกกันติดปากอีกว่า “เมืองคนไม่กลัวไฟ”
และส่วนที่สำคัญการเคารพกติกาเนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนจะมีน้ำใจเป็นนักกีฬา สร้างเสริมความมีสติไม่มีการแกล้งกันแต่อย่างใด และยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และสร้างความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจในแสงไฟของลูกคลีไฟที่ถูกตีไปยังฝั่งตรงข้ามหวังทำประตูให้ได้มากที่สุดของแต่ละฝ่าย ซึ่งใน 1 ปี ชาวบ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิ จะมีการละเล่นหลังเก็บเกี่ยวข้าวมีให้ชมเพียงในช่วงไม่เกินเดือนธันวาคม ก่อนส่งท้ายปีใหม่ของทุกปีเท่านั้น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดกิจกรรมดีๆ ของ จ.ชัยภูมิ ในช่วงส่งท้ายปีเก่า ก่อนที่จะเข้าสู่การต้อนรับปีใหม่ในปี พ.ศ.2567 ที่จะถึงอีกไม่กี่วัน ที่ยังสร้างความภูมิใจให้คนในชุมชนชาวชัยภูมิทุกคนได้โด่งดังไปทั่วโลกมายาวนานได้ทุกวันนี้เป็นประจำทุกปีอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: