ชัยภูมิ – ใกล้เริ่มนับถอยหลังเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566-2567 ปีมะโรงงูใหญ่ยิ่งอดอยาก ชาวบ้านทั่วสารทิศยังค้าขายลำบาก รายได้ไม่พอรายจ่ายเลี้ยงชีพ -ฝากถึงรัฐบาลใหม่”เศรษฐา 1” เร่งแก้ไข!
( 13 ธ.ค.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2566-2567 ปีมะโมง(งูใหญ่) ในอีกไม่ถึงเดือนที่จะถึงนี้ ทีมข่าวได้ออกสำรวจความเห็นเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่พบว่าส่วนใหญ่อยากให้รัฐบาล”เศรษฐา 1”ที่เข้ามาทำงานบริหารประเทศได้มานานกว่า 3 เดือนแล้ว
โดย นางลัดดา ศรีเทพอุบล ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ อายุ 57 ปี อาชีพ ค้าขาย อยากขอฝากเสียงสะท้อนไปถึงรัฐบาลในการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่ การค้าขายในปัจจุบันยากขึ้น ยังมีต้นทุนสูงมาต่อเนื่องตลอดปีที่ผ่านมา และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้ รวมทั้งเรื่องเศรษฐกิจค้าขายกับต่างประเทศ การส่งออก การแก้ไขเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ เรื่องหนี้ กยศ.ของบุตรหลาน และการดูแลคนรากหญ้าที่อยากให้มีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น และการส่งเสริมเรื่องการเกษตรกร เพิ่มยอดจำนวนบัตรสวัสดิการรัฐ ที่ตนเองปัจจุบันยังคงได้เพียง 300 บาท อยากให้มีการเพิ่มขึ้นตามค่าครองชีพที่สูงขึ้นที่พออยู่ได้มากขึ้นประมาณ 500 บาท
ด้าน นายดุสิต รัตนกิจธนกุล อายุ 60 ปี อาชีพขับรถรับจ้าง ชาว จ.ชัยภูมิ อยากฝากไปถึงรัฐบาลในปีใหม่ปีมะโรง 2567 นี้ อยากให้รัฐบาลเร่งดูแลเรื่องปากท้องชาวบ้าน เรื่องเศรษฐกิจ การค้าขายแม่ค้า พ่อค้า รายย่อย เรื่องการท่องเที่ยวถ้าการท่องเที่ยวเปิดประเทศ ก็จะมีการจ้างงานหลายด้าน ซึ่งตนเอง ในปัจจุบันตอนนี้มีอาชีพขับรถตู้รับจ้าง ตกงานมานานหลายปีช่วงโควิด-19 ระบาด หลังคลี่คลายลงมาปัจจุบันเศรษฐกิจก็ยังไม่ดีขึ้น ออกหาขับรถรับจ้างทุกวัน ได้ขับเพียงเดือนละ 2 ครั้ง จึงหันไปรับจ้างขับรถแห่งานศพ ที่ยังพอมีลูกค้าดีกว่า
ส่วน นางเปรมวดี ตันเฮง อายุ 59 ปี อาชีพค้าขายอาหารตามสั่งชาว จ.ชัยภูมิ กล่าวฝากถึงรัฐบาลถึงปัญหาค่าแก๊สหุงต้มราคาแพงขึ้น ราคาวัตถุดิบ ยังมีราคาต้นทุนที่แพงขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้เลย ทำให้กำไรน้อยลง อยากให้ดูแลราคาต้นทุนวัตถุดิบไม่อยากให้มีราคาแพงขึ้นไปมากกว่านี้ด้วย รวมทั้งขณะนี้รายจ่ายของครอบครัวเรื่องค่าไฟก็มีราคาแพงขึ้นสูงขึ้น
รวมทั้ง นางกัลยา เร่งรัดกิจ อายุ 72 ปี อาชีพค้าขายซาลาเปา- ข้าวกระยาสาทร ชาว จ.ชัยภูมิ อีกรายก็อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาวัตถุดิบ น้ำตาล แป้ง ไข่ หมู กะทิ แก๊สหุงต้ม ซึ่งก็ยังมีราคาแพงขึ้น แต่ยังขายราคาเท่าเดิม ถ้าขายแพงขึ้นก็ขายไม่ได้ การค้าขายยากมากขึ้น จากหลายปีที่ผ่านมากว่า 8 ปี ก่อนขายดี อยากให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ประเทศไทยกลับคืนมาโดยเร็ว พอที่นักท่องเที่ยวจะได้มากซื้อของฝาก แต่ตอนนี้เงียบมาก จึงอยากวิงวอนไปรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน ช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนเศรษฐกิจที่ชัดเจนให้ได้มีความชัดเจนมากขึ้นเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ 2567 นี้ ให้กับประชาชนชาวไทยได้กลับมาลืมตาอ้าปากได้บ้าง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: