ชัยภูมิ – ได้รับความเสียหายนับแสน หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ตกเป็นทาสยาบ้าไม่ยอมเลิก หลังเคยรักษาหายให้กลับมาอยู่บ้านพร้อมครอบครัวได้ แต่ยังหันกลับไปเสพยาบ้าจนกลับมาเกิดอาการคลุ้มคลั่งสร้างความเสียหายให้ชาวบ้านในพื้นที่ยังไม่เลิกอีก!
เมื่อเวลา 08.44 น.วันที่ 18 ธ.ค.66 ร.ต.อ.มารุต ชินทนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ภูเขียว รับแจ้งเกิดเหตุมีชายคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวภายในบ้านชาวบ้านได้รับเสียหายจำนวนมากภายในหมู่ 2 ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปบ้านเกิดเหตุและพบกับ นายสุราษฎร์ อายุ 63 ปี และ ภรรยาเจ้าของบ้าน เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่เคยมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุมาก่อน หลังได้ออกจากบ้านไปแต่เช้าเพื่อไปสูบน้ำเข้าไร่นา จึงไม่มีคนอยู่บ้าน จึงปิดประตูบ้านไว้ และมาทราบข่าวอีกซึ่งมีภรรยาขับ จยย.มาเรียกให้รีบกลับมาดูบ้านตนเอง และเห็นข้าวของภายในบ้านได้เสียหายไปแล้วจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายครั้งนี้นับกว่า 100,000 บาท ซึ่งก็รู้จักกับผู้ก่อเหตุและไม่เคยมีเรื่องกันเลย ไม่คิดว่าผู้ก่อเหตุ จะมาทำลายข้าวของบ้านของตนเองพังเสียหายจำนวนมากขนาดนี้ได้ จึงขอเรียกร้องค่าเสียหายจากครอบครัวผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย ที่จะอ้างแต่ว่าเป็นผู้ป่วยมีอาการคลุ้มคลั่งแบบนี้ไม่ได้
ข่าวน่าสนใจ:
- จนท.อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จ.กาญจนบุรี รวบ 2 พรานป่าพร้อมอาวุธปืนครบมือ คาดเตรียมออกล่าสัตว์ป่า
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- บุกพิสูจน์ หลังชาวบ้าน พบเสือ หนุ่ม 27 ถ่ายคลิปเสือขณะกรีดยาง
- ตร.น้ำกระบี่ บุกรวบ 3 ลูกเรือประมง ยึดยาบ้า พบมั่วสุมเสพ ก่อนออกจับปลา
รวมทั้งหญิง วัย 59 ปี เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าให้ฟังว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกำลังอาบน้ำอยู่ในบ้าน และออกมาดูหลังผู้ก่อเหตุคือ นายอึ่ง (นามสมมุติ) วัย 50 ปี ได้ร้องเสียงดังเอะอะโววาย นานประมาณ 10 นาที ตนเองจึงได้วิ่งออกมาดู เหตุผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาและบุกเข้าไปพังประตูบ้านเกิดเหตุ ทั้งใช้มีดทั้งขวาน ก้อนหิน ทุบพังรถยนต์กระบะ กระจกบ้านทำลายข้าวของภายในบ้านดังกล่าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก ก่อนขับ จยย.พ่วงข้างออกจากบ้านเกิดเหตุไป
ซึ่งด้าน แม่ผู้ก่อเหตุ อายุ 74 ปี เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ผู้ก่อเหตุเลิกกับภรรยาซึ่งเคยไปอาศัยอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด มีบุตรด้วยกัน 1 คน และกับมาอยู่บ้านที่อำเภอภูเขียว มาอาศัยอยู่กับแม่ หลังพ่อได้เสียไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา บุตรชายเคยไปทำงานรับจ้างรับเหมางานช่างเชื่อม และได้หันไปเสพยามานานนับ 10 ปี ที่ผ่านมาก็มักมีอาการแบบนี้มาตลอดแต่ก็ไม่เคยร้ายแรงขนาดนี้ จนมาวันนี้ที่มาเกิดมีอาการคลุ้มคลั่งหนัก ไปทำลายข้าวของชาวบ้านทรัพย์สินเสียหายหลายรายการ ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปหาเงินที่ไหนมาชดใช้ค่าเสียหายให้กับชาวบ้านครั้งนี้ได้ ซึ่งอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยนำตัวไป ช่วยรักษาไม่อยากให้ออกมาก่อเหตุดังกล่าวแบบนี้ได้อีกเลยในครั้งนี้ด้วย
ส่วน น.ส.จินตหรา บุตรโยจันโท นักวิชาการสาธารณสุข ได้แจ้งไปที่ สภ.ภูเขียว หลังทราบว่ามีชายคลุ้มคลั่งทำลายทรัพย์สินชาวบ้าน กล่าวว่า นาย(อึ่ง) ผู้ก่อเหตุ วัย 50 ปี เคยก่อเหตุโวยวายบุกลุกเข้าไปใน รพ.สต.มาแล้วครั้งหนึ่ง และเคยได้นำตัวไปรักษาแล้วมานานนับเดือน จึงให้กลับมาอยู่บ้านได้ แต่ก็กลับมามีอาการแบบนี้อีก ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวชเกี่ยวกับยาเสพติด หากได้รับการรักษาให้หายแล้ว และช่วงที่กลับมาอยู่บ้านกับคนในครอบครัวต้องช่วยกันทุกฝ่ายด้วยให้มากขึ้น อย่าให้ผู้ก่อเหตุกลับไปเสพของมึนเมาและยาเสพติดอีก ซึ่งจะเสี่ยงทำให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีกได้
รวมทั้งด้าน นายสนอง มะลัยขวัญ นายอำเภอภูเขียว เองก็ลงพื้นที่มาพร้อมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่บ้านผู้เสียหาย และเดินทางไปบ้านพบแม่ผู้ก่อเหตุ สอบถามแม่ผู้ก่อเหตุ ร่วมพูดคุยกับ อสม. ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านสว่าง ให้ทุกฝ่ายวางมาตรการในการ เร่งช่วยกันสอดส่องดูแลชุมชน หากมีชาวบ้านใครมีญาติที่ผู้ป่วยลักษณะนี้ขอให้รีบแจ้งเหตุช่วยกันให้ทันท่วงทีมากขึ้น หลังจากพบว่าผู้ก่อเหตุได้นำรถ จยย.พ่วงข้างมาจอดไว้ที่บ้านของแม่ตนเอง และหลบหนีไปในป่าข้างบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยกันเข้าควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ไว้ได้ และช่วยกันนำตัวส่งที่โรงพยาบาลภูเขียวเฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยรักษาอาการให้หายขาดให้ได้อีกครั้งต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: