ชัยภูมิ – ผู้การชัยภูมิ สั่งขยายผลล้างบางกลุ่มเด็กวัยรุ่นหัวโจกที่มีการตั้งแก๊งในพื้นที่ทุกกลุ่มทุกพื้นที่ หลังพบปมมีวัยรุ่นตั้งแก๊งล่าสุดรวม 3 แก๊งใหญ่ เที่ยวยกพวกตามทำร้ายกันทำป่วนเมือง ทะเลาะกันเองและแจ้งความจับกันไปมาสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมากยังไม่เลิก พร้อมดำเนินคดีทุกแก๊งที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว!
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 ม.ค.67 ทาง พล.ต.ต.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ( ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ) ติดราชการด่วน จึงมอบหมายให้ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งชุด ปะฉะดะ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เปิดแถลงสรุปการดำเนินการระดมกวาดล้าง ตามที่ปรากฏมีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน กรณีมีวัยรุ่นจำนวน 2 ราย วัย 17 ปี และ 19 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นจำนวนนับร้อยคนขับรถไล่ตามรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บโดยผู้ได้รับบาดเจ็บอ้างว่ากลุ่มวัยรุ่นที่รุมทำร้ายตนคือกลุ่มวัยรุ่นที่มีชื่อว่าแก๊งว่าแก๊ง “เทโล” ซึ่งเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 และมีการแจ้งความต่อมาในวันที่ 17 ม.ค.67 ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งอ้างว่าเวลาผ่านมานานหลายวันคดีไม่คืบหน้า
รวมทั้งมีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต่างพากันเอื้อมระอาต่อพฤติกรรมดังกล่าว ที่ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองของกลุ่มแก๊งเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นจำนวนมากและอยากให้ตรวจสอบว่ามีลักษณะว่ามีลูกหลานของคนมีสีในพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จึงไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมืองและยังไม่ถูกจับกุมได้เสียทีในขณะนี้ และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งติดตามตัวกลุ่มแก๊งโจ๋กลุ่มใหญ่นี้ที่เป็นผู้ก่อเหตุรุนแรง ทั้งยิงปืน ขับรถ จยย.โยนระเบิดปิงปองเล่นตามถนนในตัวเมืองชัยภูมิไปทั่ว ในขณะนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย
หลัง พล.ต.ต.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยรรยง จันทร์เขียว รอง ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ควบคุมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ชุด ปะชะดะ และ สภ.เมืองชัยภูมิ ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็วที่สุด
ก่อนที่จะดำเนินการเปิดแถลงการดำเนินการกรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้ ที่ห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองชัยภูมิ โดย พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เปิดเผยล่าสุดว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ทั้งชุดปะชะดะ และ สภ.เมืองชัยภูมิ ร่วมกันทำการสืบสวนจนทราบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากมีกลุ่มวัยรุ่น 3 กลุ่มใหญ่ที่มีในปัจจุบัน ที่มีการรวมตัวกันในสื่อโซเชียล (Facebook) เฟซบุ๊ก ใช้ชื่อกลุ่มที่มีชื่อว่า “เทโล” และ มีอีก 2 กลุ่ม ใช้ชื่อว่าแก๊งแสงจันทร์ และ“โนนสาทร” ที่นัดรวมตัวกันประกาศจะล้มแก๊งเทโล ออกจากพื้นที่ในปัจจุบัน
ก่อนที่ทั้ง 3 กลุ่ม ได้ยกกลุ่มพากันไปเที่ยวดูคอนเสิร์ตในงานประจำปีของ จ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการเขม่นกัน และโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายกันมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ภายในงานคอนเสิร์ต แต่ไม่สามารถก่อเหตุชกต่อยทำร้ายร่างกายกันได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส. ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในงานคอนเสิร์ตดังกล่าวอย่างเข้มงวด
จนเริ่มเกิดชนวนเหตุหลังการแสดงคอนเสิร์ตจบลงทั้ง 2 กลุ่มของแก๊งเทโล และแก๊งแสงจันทร์ ที่เป็นเด็กวัยรุ่นส่วนใหญ่อายุ 17-19 ปี เป็นหัวโจก พากลุ่มรุ่นน้องที่ยังเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมารวมตัวกันเพื่อก่อเหตุทำร้ายร่างกายซึ่งกันเอง ซึ่งเหตุดังกล่าวล่าสุดมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ตามที่ปรากฏในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนไปแล้วนั้น
ซึ่งการตรวจสอบผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ซึ่งปัญหาที่แท้จริงในขณะนี้คือกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บล่าสุด 2 ราย ก็เป็นอีกกลุ่มวัยรุ่นที่ไปทำร้ายร่างกายด้วยการโยนระบิดใส่กลุ่มเทโลมาก่อน ก่อนที่จะมีการตามล้างแค้นกันไปมา และมีการแจ้งความกลับกันไปมาทั้ง 2 ฝ่าย ในปัจจุบันด้วย ซึ่งสรุปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะกวาดล้างดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย/แก๊ง ตามกฏหมายในครั้งนี้ทั้งหมดด้วย ไม่ว่าจะอยู่แก๊งไหนต้องถูกดำเนินคดีตามเหตุที่ก่อไว้ทั้งหมดด้วย
ซึ่งในส่วนของผู้ก่อเหตุของแก๊งเทโล ผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดทั้งหมดครั้งนี้รวม 7 คน ที่มีการสอบสวนแจ้งกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีทั้งหมดแล้ว ซึ่งในภาพอาจจะเห็นว่าเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ก็เป็นเพียงที่พวกรุ่นพี่ของแก๊งได้โพสต์เฟซบุ๊กชวนรุ่นน้องออกมารวมตัวกันเพื่อให้อีกฝ่ายเกรงเท่านั้น ไม่มีคนร่วมกระทำผิดด้วย คนที่ทำก็เป็นส่วนน้อย จึงอยากฝากเตือนผู้ปกครอง หากมีบุตรหลานมีเพื่อนชวนออกมารวมกลุ่มที่จะไปก่อเหตุรุนแรงได้ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลบุตรหลานให้ดีด้วย ซึ่งหากเด็กกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ทางพ่อแม่ผู้ปกครองก็ต้องมีความผิดตามมาด้วย
รวมทั้งในกรณีที่ว่าอาจจะมีบุตรหลานคนมีสี หรือตำรวจ เข้ามาเกี่ยวข้อง ในการก่อเหตุที่เกิดขึ้น จากกรณีนี้ไม่มีบุตรหลานตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้ก่อเหตุด้วย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่มีลูกหลานตำรวจที่เรียนอยู่ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ก็จะมีเพื่อนในกลุ่มนักเรียนด้วยกันได้แต่ไม่ได้ออกร่วมมาก่อเหตุครั้งนี้ด้วย แต่ถ้าพบว่ามีบุตรหลานเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือคนมีสีใครก็ตาม หากร่วมกระทำผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีเด็ดขาดทั้งหมดด้วย ไม่ว่าลูกใครก็ต้องถูดดำเนินคดีถ้าทำผิดอย่างเด็ดขาดทุกรายด้วย
รวมทั้งอีกด้านของเด็กวัยรุ่น 2 คน ที่ถูกทำร้าย จากกลุ่มเทโล แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยยกพวกไปทำร้ายเด็กในกลุ่มเทโลมาก่อน ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามที่มีผู้เสียหายของฝ่ายเทโลมาแจ้งความไว้แล้วเช่นกันดัวย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นการทะเลาะกันทั้ง 2 ฝ่ายกันไปมาเอง
จากการสืบสวนเชิงลึกทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม เป็นเพียงกลุ่มที่ตั้งขึ้นในโซเซียลเป็นการรวมกลุ่มของวัยรุ่นทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่องค์กรอาชญากรรมใหญ่ หรือกลุ่มแก๊งที่ก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรง ที่มีการรวมกลุ่มโดยมีหัวหน้าแก๊งที่มีรุ่นพี่ไม่กี่คนเท่านั้น หรือมีการตั้งกฎเกณฑ์รวมตัวกันเพื่อกระทำความผิด หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือสังคมแต่อย่างใด
และการแก้ปัญหากลุ่มเด็กเยาวชนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทั้งหมด ทางด้าน พล.ต.ต.สุชาติ คล้ายจันทร์พงษ์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ ได้สั่งมาตรการเร่งด่วนให้ตำรวจในสังกัดทุกพื้นที่ทั้ง 29 สถานีตำรวจ ดำเนินการหากพบปัญหาการออกมาใช้ความรุนแรงในทุกพื้นที่ต้องเร่งดำเนินการปราบปรามทลายกลุ่มแก๊งวัยรุ่นที่รวมตัวในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอาชญากรรมหรือสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชัยภูมิ และหากประชาชนมีเบาะแสหรือพบการกระทำความผิด สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ เฟซบุ๊กเพจ “ตำรวจชัยภูมิ ยินดีรับใช้ประชาชน” ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะไม่ให้มีเหตุการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้อีกด้วย
