ชัยภูมิ – ชาวบ้าน-จนท. เร่งออกมาช่วยกันดับวุ่นหลายพื้นที่ยังคงเกิดปัญหามีคนลอบเผาป่าบนเทือกเขาภูแลนคายังเกิดขึ้นต่อเนื่อง วอดอีกนับกว่า 100 ไร่ จนท.ระดมขยายผลหาเบาะแสสกัดคนลอบเผาป่า พร้อมดำเนินคดีเด็ดขาดทุกรายทั้งปรับทั้งจำโทษหนักต้องนอนคุกไม่น้อยกว่ารายละ 2-3 ปี อีกด้วย!!
เกิดเหตุไฟป่าลามระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.20 น.วันที่ 5 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ขณะสภาพอากาศในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มีความแห้งแล้ง และมีลมแรง ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ป่าเทือกเขาภูแลนคา ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเกิดเหตุเกิดไฟป่าได้ลุกลามเข้ามาใกล้บ้านเรือนประชาชนบริเวณหมู่บ้านโนนคูณ หมู่ 8 ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ
ซึ่งมองเห็นเกิดไฟป่าและควันไฟหนาปกคลุ้มจำนวนมากออกมาจากในบริเวณป่าที่กำลังโหมลุกลามเข้าพื้นที่บ้านและคอกเลี้ยงวัวของชาวบ้าน ต่างออกมาช่วยกันนำถังตักน้ำไปช่วยกันดับไฟป่า พร้อมรีบโทรแจ้งร้องขอความช่วยเหลือจาก จนท. องค์การบริหารส่วนตำบลนาฝาย( อบต.นาฝาย) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เพื่อนำรถน้ำมาช่วยดับไฟป่ากันอลหม่าน
ซึ่งไฟป่าได้โหมกินพื้นที่กว้างยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงได้ร้องขอหน่วยดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง และจากเทศบาลเมืองชัยภูมิ ช่วยนำรถน้ำดับเพลิงออกมาช่วยกันดับไฟป่าที่ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ใกล้เชิงเขามีป่าแห้งหนาจำนวนมาก ยากที่รถดับเพลิง จะเข้าไปฉีดน้ำดับเพลิงได้ทั่วถึง ทำได้เพียงช่วยกันเดินเท้าช่วยกันใช้ไม้ตบไฟที่กำลังโหมไหม้จะเข้ามาใกล้บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ และพบเกิดไฟป่ากระจายลุกไหม้เป็นจุด ๆ เจ้าหน้าที่ต้องวิ่งรอกกระจายกำลังช่วยกันดับไฟป่ามากกว่า 5 จุด ในการเกิดไฟป่าครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถช่วยสกัดไฟป่าไม่ให้ลุกลามไหม้บ้านเรือนประชาชนใกล้เคียงในครั้งนี้ได้หวุดหวิด
และพบว่าเฉพาะในจุดนี้มีพื้นที่ป่าไม้ถูกไฟป่าเผาวอดเสียหายเป็นวงกว้างแล้วกว่า 100 ไร่ ซึ่งจะส่งผลเสียหายต่อสภาพสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล ทั้งเกิดมลพิษทางอากาศ ต้นไม้ขนาดเล็กหรือสัตว์ป่าถูกไฟไหม้ล้มตายในป่าอีกจำนวนมาก
ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่พบว่า เกิดจากชาวบ้านเข้าไปลอบจุดไฟเผาป่า เพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ในช่วงนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งถี่ขึ้น ซึ่งทางจังหวัดชัยภูมิ ยังคงพบว่ามีผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่าแทบทุกวันอีกในหลายพื้นที่ และจะขยายผลหากพบว่าเป็นใคร จะได้เร่งติดตามจับกุมดำเนินคดีเด็ดขาดทุกรายต่อไป ที่จะต้องถูกดำเนินคดีมีบทลงโทษหนักทั้งปรับและจำคุกอย่างน้อย 2-3 ปี ขึ้นไป หรือทั้งจำทั้งปรับในขณะนี้อีกด้วย
