ชัยภูมิ – ทำต้นทุนสูงขึ้นแทบไม่เหลือกำไร หน้าแล้งปีนี้เจอทั้งแล้งร้อนจัด จนพืชผักที่นำมาประกอบอาหารแห้งเหี่ยวตายขาดตลาด แม่ค้าร้านหมูจุ่มย่านกลางเมืองชัยภูมิ โอดครวญต่างได้รับผลกระทบ อยากปรับราคาอาหารขึ้น แต่ก็ปรับไม่ได้กลัวกระทบลูกค้าไม่เข้าร้าน!
( 24เม.ย.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ สถานการณ์ภัยแล้งและอากาศร้อนจัดยังสูงแตะ 41องศาเซลเซียสต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มทำให้สินค้าประเภทอาหารที่ประชาชนในพื้นที่ต้องหามาประกอบอาหารรับประทานกันทุกวัน ประเภทพืชผักสวนครัวที่ปลูกนำมาจำหน่ายในช่วงหน้าแล้งร้อนจัดปีนี้เกิดแห้งเหี่ยวตายไม่ได้ผลผลิตตามมาเป็นจำนวนมาก รุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา
ส่งผลให้ผลผลิตผักต่าง ๆ ออกสู่ตลาดผู้บริโภคลดลงน้อยกว่าทุกปี รวมทั้งทำให้มีราคาพืชผักต่าง ๆ ต้องมีราคาปรับสูงขึ้นมากขึ้นกว่าเท่าตัว ที่เห็นได้ชัด คือ ราคามะนาว ที่ราคาขณะนี้ทะลุลูกละ 5-8 บาท/ลูก แล้ว รวมทั้งผักชี ต้นหอม ผักที่ต้องการน้ำมากไม่ว่าจะเป็นแตงกวา ผักบุ้งจีน ถั่วฝักยาว ก็มีการปรับราคาสูงขึ้นแล้วในช่วงนี้ จากภาวะที่เจอสภาพอากาศที่แปรปรวนร้อนจัดทำให้พืชผักบางอย่างขาดตลาดยิ่งส่งผลให้ราคาพืชผักจากนี้ไปมีแนวโน้มที่จะมีการปรับราคามากขึ้นขึ้นต่อเนื่องในช่วงหน้าแล้งปีนี้
ข่าวน่าสนใจ:
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปสำรวจ ยังย่านร้านอาหารต่างๆในพื้นที่ ย่านตลาดเลิศนิมิตร ถนนนนทนาคร ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่ส่วนใหญ่ที่นี่มีร้านอาหารขายประเภทหมูจุ่ม และร้านอาหารอีสานเป็นหลัก ได้พบกับ น.ส. ภัทรวดี เสนผาบ เจ้าของร้าน บอกว่า ตั้งแต่เข้าหน้าร้อนหน้าแล้งในปีนี้มาทำให้พืชผักต่างๆได้ปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่องยังไม่หยุดเป็นอย่างมาก ทั้งผักกะหล่ำปีจากเมื่อก่อนกิโลกรัมละ 10 บาท เดี๋ยวนี้ปรับขึ้นเท่าตัวเป็นกิโลกรัม(กก.)ละ 20 บาท ถั่วฝักยาวจากเมื่อก่อน กก.ละ 40 บาทตอนนี้ปรับขึ้นสูงอีกว่าเท่าตัวเป็น กก.ละ 100 บาท ผักชี กก.ละ 50 บาท ตอนนี้ปรับเป็น กก.ละ 200 บาท มะนาว จากลูกละ 2 บาท ตอนนี้เป็นลูกละ 5 – 8 บาท ที่สำคัญมะนาวเป็นส่วนสำคัญในการประกอบอาหารอีสาน จะใช้น้ำมะนาวขวดหรือน้ำมะขามเปียกก็ใช้ทดแทนกันไม่ได้ อย่างยำที่ทำในร้าน ลูกค้าจะให้ใช้มะนาวสดเท่านั้นมาตลอด ถ้าจะให้ใช้เป็นมะนาวขวด ก็จะเสียลูกค้าไม่มาร้านอีก
ส่วนผักอีกหลายชนิดก็ปรับตัวสูงขึ้นกว่าเท่าตัวเกือบทั้งหมดเช่นกัน ในส่วนตัวตนเอง ก็อยากปรับขึ้นราคาขายมาก แต่ก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากจะเสียลูกค้า น้อยลงได้ และไม่มารับประทานอาหารที่ร้านของตนอีก ต้องยอมรับว่าได้กำไรน้อยมาก แต่ช่วงนี้ก็ต้องทนรอให้ผ่านหน้าแล้งปีนี้ไปให้ได้ก่อน พอที่จะอยู่ได้ ยังต้องคงขายหมูจุ่มอยู่ที่ราคาเดิมชุดละ 89 บาทเท่าเดิม ส่วนยำต่าง ๆ ยังขายจานละ 89 บาทเท่าเดิมหมด ต้องแบกภาระค่าจ้างลูกน้อง และค่าเช่าพื้นที่ร้าน ตอนนี้แทบไม่เหลือแต่ต้องทนขายราคาเดิมแม้จะได้กำไรน้อยลงแต่ขอให้พอไม่ขาดทุนอยู่ได้ไปก่อนในหน้าแล้งปีนี้ให้ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: