ชัยภูมิ – มุ่งหน้าข้ามภาคอีสานไปภาคเหนือ คุณตาไม่มีเงินติดตัวหลังเคยทำงานพอจะมีเงินเก็บบ้าง แต่ก็ถูกโกงค่าแรงมานานกว่า 2 ปีที่ผ่านมา คิดถึงบ้านเกิดตัวเอง ตัดสินใจบ้านปั่นจักรยานจาก จ.ชัยภูมิ ไป บ้านเกิดที่ จ.อุตรดิตถ์ และก็เดินทางปั่นจักรยานกลับบ้านที่ชัยภูมิ ไม่มีเงินติดตัวแม่แต่บาทเดียวต้องไปหาขอข้าวชาวบ้านใกล้เคียงกิน ก่อนไปพบชาวบ้านบุญใจบุญร่วมใจกันส่งธารน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยบริจาคเงินช่วยส่ง “คุณตา” หลังพบขณะปั่นจักรยานจาก จ.อุตรดิตถ์ เพื่อจะกลับบ้านที่ชัยภูมิ หลังเคยมีงานทำหวังพอจะเก็บไว้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดทางภาคเหนือ มาตั้งแต่เมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมาก็ถูกนายจ้างโกงค่าแรง ไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว และจำเบอร์ติดต่อญาติๆ ใครๆ ก็ไม่ได้ จนล่าสุดชาวบ้านที่พบเห็นผู้ใจบุญสามารถช่วยส่งคุณตา วัย 67 ปี รายนี้เดินทางกลับถึงบ้านที่ จ.ชัยภูมิ ได้แล้ว
( 20 พฤษภาคม 2567 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ขอปิดรับค่าช่วยเหลือคุณตารายนี้แล้วนะคะ คาดว่าน่าจะเพียงพอแล้วค่ะ 1 ชั่วโมง ยอดได้ 6,329.70 บาท น้ำใจคนเขาค้อ ตามกำลังศรัทธา สมทบทุนส่งคุณตา ที่ไม่มีเงินติดตัวแถมเคยมีงานทำก็โดนโกงค่าแรง ได้ปั่นจักรยานกลับบ้านเกิดตัวเอง จากอุตรดิตถ์ กลับบ้านที่ชัยภูมิ ตอนนี้ได้รับอนุเคราะห์ห้องพักจาก สท.เอ๋มะขามทอง ให้พักผ่อนในคืนนี้ และพรุ่งนี้ สท.เดียวจะนำส่งถึงบ้าน ตอนนี้ประสานทาง ผญบ.ของตาเรียบร้อยแล้วอายุ 67 ปี ปั่นจักรยานจาก อุตรดิตถ์ เป็นเวลา 3 วันแล้ว ถามตาสั้นๆ ว่าทำไม ไม่ขึ้นรถประจำทาง ตาบอกไม่มีเงิน ที่จุกไปกว่านั้น รถไม่มีเบรก ล้อหลังส่ายไปมา โอ๊ยย…..ตาน้ำตาไหลเลย ตอนถามว่า พรุ่งนี้ไปส่งมั้ย”
จากนั้นก็ได้โพสต์คลิปวิดีโอขณะช่วยเหลือชายวัยสูงอายุ ที่อาศัยอยู่ศาลาริมทางพร้อมกับรถจักรยานเก่าๆของตัวเอง 1 คัน แล้วพาไปพักในห้องพักแห่งหนึ่งใกล้กับเทศบาลตำบลแคมป์สน รวมทั้งคลิปวิดีโอพาชายสูงอายุดังกล่าวขึ้นรถนำไปส่งที่จังหวัดชัยภูมิ ทำให้มีผู้คนเข้ามาแสดงความชื่นชมเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านหัวสะพาน หมู่ที่ 12 ตำบลตลาดแร้ง อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ พบกับ นายสำเริง แสงเทียน อายุ 67 ปี ผู้ที่เป็นข่าวในโลกโซเชียลที่คนให้ความสนใจจำนวนมากในขณะนี้ จากการสอบถาม นายสำเริง คุณตาวัย 67 ปี รายนี้ เล่าว่า ตนเองนั้นปั่นรถจักรยานไปที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่เป็นบ้านเกิดของตนเอง ที่ปัจจุบันคิดถึงบ้านเกิดตัวเองมาก เพื่อที่จะไปหาญาติพี่น้องบ้าง ซึ่งตอนก็เคยปั่นจักรยานกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดทางภาคเหนือ จ.อุตรดิตถ์ มาแล้วครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีเงินติดตัวและก็คิดถึงบ้านเกิดจึงตัดสินใจไปเอง ซึ่งครั้งนี้ทางญาติที่ จ.อุตรดิตถ์ ก็ช่วยส่งค่าเดินทางปั่นจักรยานกลับมาบ้านภรรยาที่ จ.ชัยภูมิ มาจำนวน 300 บาท เพราะตัวเองไม่มีเงินติดตัวแต่ก็หมดระหว่างทาง ที่โชคดียังมีผู้ใจบุญและผู้ใจดีมาเห็นตนและให้การช่วยเหลือตนนำกลับมาส่งที่บ้านที่ จ.ชัยภูมิ เนื่องจากตนเองนั้นหลงทางและจำเส้นทางไม่ได้ จึงมีคนมาเข้ามาช่วยเหลือ
ซึ่งในเรื่องส่วนค่าแรงที่ถูกโกงค่าแรงนั้น เป็นเรื่องที่เคยถูกโกง ตอนนั้นไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานครประมาณนาน 2 ปี ที่ผ่านมาแล้ว มาจนปัจจุบันก็ไม่มีเงินติดตัว ปัจจุบันอายุก็เยอะขึ้นจะไปหารับจ้างทำงานก็ไม่ไหวแล้ว และอยากขอขอบคุณธารน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกันผู้ใจบุญทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือตนเองพาส่งกลับบ้านที่ จ.ชัยภูมิ เป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้ด้วย
ส่วนภรรยาคุณตา รายนี้ กล่าวว่า สามีของตนนั้นเป็นคนขี้หลงขี้ลืมซึ่งก่อนที่จะปั่นจักรยานออกจากบ้านไปบ้านเกิดตนเองที่จังหวัดอุตรดิตถ์นั้น ก็ไม่ได้บอกตนและใครเลย ทางคุณตาก็ปั่นจักรยานออกไปเอง ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งก่อนหน้าหน้านั้นทางคุณตาก็ได้ปั่นจักรยานกลับไปที่บ้านเกิดโดยทั้งไปและกลับด้วยตนเอง ที่พอมีเงินติดตัวไปด้วย แต่ครั้งนี้ไม่มีเงินติดตัวไปเลย และส่วนการถูกโกงเงินค่าแรงนั้น ไม่ใช่ในปัจจุบัน เป็นการโกงค่าแรงมานานตั้งแต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาแล้วซึ่งตอนนั้นคุณตาไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะถูกโกงค่าแรงและตาก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านที่ จ.ชัยภูมิ ด้วยกันมาจนปัจจุบัน
ด้าน นายชัยกฤต เจนชัย นายกเทศมนตรีตำบลตลาดแร้ง หลังจากที่ทราบข่าวเบื้องต้นตนเองก็ได้เดินทางมาที่บ้านของคุณตาและได้มาพูดคุยกับคุณตาและคุณยายเพื่อเป็นกำลังใจและหากขาดแคลนเครื่องใช้จำเป็นอะไร ตนเองก็จะช่วยดูแลพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลตำบลตลาดแร้งเข้ามาช่วยเหลือ ครอบครัวคุณตารายนี้ต่อไป
