ชัยภูมิ –บรรยากาศต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวดอกระเจียวบาน สุดยอดทิวลิปไทยแลนด์ คนแห่ซื้อโดยเฉพาะคนชอบทุเรียน คึกคักแน่นสวนอีกหลายพื้นที่เป็นจำนวนมากต่อเนื่อง ด้านสวนทุเรียนภูเขาไฟภูแลนคา ที่มีการสั่งจองผลคาต้นไว้มานานข้ามปี “ไม่จองไม่ได้กิน” อีกหลายพื้นที่ในจังหวัดชัยภูมิ เริ่มคึกคัก ในช่วงนี้ยังพอเหลือได้อีกบางส่วนแต่ไม่มาก หากคนชื่นชอบทะเรียนสามารถติดต่อสั่งจองเพิ่มเติมที่สวนยังพอเหลืออีกไม่มากแล้ว!
( 23 มิ.ย.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวชมทุ่งดอกกระเจียวบาน หรือสุดยอดทิวลิปไทยแลนด์ ที่มีการเปิดเทศกาลอย่างเป็นทางการไปแล้วมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิต และอีกแห่ง ที่เขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ
ซึ่งยังมีสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวในช่วงนี้อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะนักชิม ช็อป แชะ คอทุเรียน ตามพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีสวนทุเรียนในอีกหลายพื้นที่จำนวนมาก ทั้งในพื้นที่ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จะพบเห็นนักท่องเที่ยว และลูกค้าที่ชื่นชอบในรสชาติทุเรียนที่นี้ ที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา และมีทุเรียนขึ้นชื่อดังอีกจุดว่าทุเรียนภูเขาไฟ (ลูกใหญ่) ภูแลนคา ที่ทุกปีนักท่องเที่ยวจะพากันไปชิมถึงสวนทุเรียนและเลือกซื้อทุเรียนกลับไปกินที่บ้านอีกเป็นจำนวนมากอย่างคึกคักอีกจุดในทุกปี
รวมไปถึงที่สวนทุเรียนสุกัญญา ภูแลนคาแห่งบ้านซับสมบูรณ์ หมู่ 18 ต.ท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ ขณะนี้เริ่มตัดผลทุเรียนที่แก่จัดส่งขายให้กับลูกค้าแล้ว แต่ที่แปลตากว่าที่อื่นจะพบเห็นตามลูกทุเรียนที่อยู่ตามต้นทุเรียน จะพบเห็นป้ายชื่อติดตามลูกทุเรียนขนาดต่าง ๆ ตามต้นทุเรียนจำนวนมาก สอบถามได้รับคำตอบเป็นชื่อของลูกค้าที่สั่งจองลูกทุเรียนไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งทุเรียนติดผลใหม่ ๆ เจ้าของสวนจึงต้องติดป้ายชื่อและคอยประคบประงม ให้น้ำให้ปุ๋ยบำรุงดินแก่ต้นทุเรียนไม่ให้ผลทุเรียนร่วงล่นลงดินจากภาวะภัยแล้งที่รุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมาด้วยเพื่อรอนำส่งลูกค้า หรือลูกค้าที่จะมารับถึงสวนเองเลยทีเดียว
ซึ่งได้พบกับ นางสุกัญญา ทาภักดี เจ้าของสวนทุเรียน อายุ 54 ปี เลขที่ 113 หมู่ 8 บ้านซับสมบูรณ์ ต.ท่าหินโงม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พร้อมลูกชายอายุประมาณ 20 กว่าปี ได้นำเดินชมสวนทุเรียนของตนเองที่ปลูกตามเชิงเขาภูแลนคา อำเภอเมืองชัยภูมิ จึงได้ขนานนามทุเรียนที่นี้ เป็นทุเรียนภูเขาไฟแห่งเทือกเขาภูแลนคา ที่ปลูกบนความสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 1,000 เมตรขึ้นไป ที่มีความเหมาะสมของพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และก้านยาว ที่ปัจจุบันเริ่มทยอยให้ผลผลิตใกล้แก่จัด เตรียมตัดส่งขายให้ลูกค้าที่สั่งจองไว้ในราคากิโลกรัมละ 200 บาท จนต้องเรียกได้ว่าทุกเรียนที่นี่อีกแห่งที่ต้องบอกว่าทุเรียนที่นี้ไม่ได้จอง ไม่ได้กินทุเรียน และมีลูกผลโตขนาดน้ำหนัก 3-5 กิโลกรัมต่อลูก พอเหมาะน่านำไปรับประทานหรือไปเป็นของฝากญาติ ๆ คนสนิทที่รู้จักให้ได้กินทุเรียนภูแลนคา ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเฉพาะถิ่น ทั้งรสชาติ หวาน กรอบ อร่อย กลิ่นละมุนไม่ฉุน จึงเป็นที่ชื้นชอบของนักกินทุเรียนของที่นี่ที่มีเอกลักษณ์รสชาติอร่อยอีกแบบ ซึ่งขณะนี้ก็ยังพอเหลือไม่มีลูกทุเรียนที่มีชื่อสั่งจองติดไว้ ให้นักท่องเที่ยวได้มาช็อป แชะ ชิม ผลไม้รสชาติดี มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของที่นี้ได้อีกในช่วงนี้ได้อีกแห่ง
โดย นางสุกัญญา ทาภักดี เจ้าของสวนทุเรียน ได้เล่าให้ฟังว่า พื้นที่เดิมที่นี่ ชาวบ้านจะปลูกต้นยางพารา เพื่อกรีดน้ำยางขาย ด้วยราคาที่ตกต่ำและมีคนในหมู่บ้านนำทุเรียนพันธ์ต่าง ๆ มาปลูกเพียงประมาณ 5 ปี กลับได้ผลผลิตออกขาย เป็นที่ต้องการของลูกค้าจำนวนมาก ครอบครัวตนเองจึงปรับพื้นที่ไถต้นยางพาราออกไปประมาณ 8 ไร่ เพื่อรองปลูกต้นทุเรียนพันธ์หมอนทอง และก้านยาว ประมาณ 160 ต้น ด้วยไม่มีประสบการณ์ในการปลูกทุเรียน ทำให้เหลือต้นทุเรียนที่รอดตายประมาณ 100 ต้น ให้ผลผลิตลูกทุเรียนเมื่อ 2 ปีผ่านมา นำผลทุเรียนออกขายได้ประมาณ 60 ต้น และในปีนี้เข้าปีที่ 3 ที่สวนทุเรียนตนเอง ให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแม้ในช่วงหน้าแล้งที่ผ่านมา จะเกิดทั้งความร้อนและแล้งรุนแรง แต่ที่สวนทุเรียนของตนเองพื้นที่ปลูกทุเรียนมีน้ำธรรมชาติที่ค่อนข้างถือว่ายังดี
โดยเฉพาะมีน้ำซับใต้ดินบนเขาภูแลนคามีตลอดทั้งปี จึงไม่ค่อยประสบภัยแล้งมากนัก ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ด้วยความหวาน กรอบ อร่อย กรอบนอกนุ่มใน และกลิ่นละมุนไม่ฉุน เหมือนทุเรียนภาคใต้ จึงมีผู้ที่เคยกินทุเรียนของสวนที่นี่ไปบอกกันปากต่อปาก และมาสั่งจองทุเรียนที่นี่ในปีนี้จำนวนมาก ขณะนี้เริ่มตัดทุเรียนที่จองไว้ส่งขายให้ลูกค้ากิโลกรัมละ 200 บาทได้แล้ว โดยลูกค้าที่มาซื้อทุเรียนที่นี้ ก็ต่างบอกว่าได้กินทุเรียนที่สวนแห่งนี้ตั้งแต่ปีแรก ปีนี้เป็นปีที่ 3 แล้วที่เดินทางรับทุเรียนที่โทรสั่งจองไว้และซื้อเพิ่มไปกินไปฝากญาติพี่น้อง ทุเรียนนี้หวานหอม ละมุนลิ้น จึงชอบที่จะกินทุเรียนสวนแห่งนี้และเจ้าของตัดทุเรียนแก่จัดเท่านั้นให้ลูกค้าไม่ผิดหวังต่อคุณภาพทุกลูกอีกด้วย
โดย คนที่สนใจอยากรับประทานที่สวนของ นางสุกัญญา ทาภักดี เจ้าของสวนทุเรียนภูแลนคาแห่งนี้ ก็สามารถโทรสั่งจองทุเรียนที่ต้องบอกว่ายังเหลือไม่มากนักได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 093-487-8998
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: