ชัยภูมิ – หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่อง ผู้ว่าฯสั่งระดมบูรณาการทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมทุกด้านในจุดที่อาจเกิดความเสี่ยงน้ำหลากท่วมเข้ามาในพื้นที่ได้
วันที่ 10 ก.ค.67 เวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้เร่งมอบหมายให้ นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ติดตามหาแนวทางป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่โครงการขุดลอกและปรับปรุงคุณภาพลำห้วยและดูคลองในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อป้องกันอุทกภัย ที่ในปี 2567″ อาจมีจุดเสี่ยงเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ได้ ณ บริเวณลำห้วยเสว (ช่วงสะพานหลังร้านอาหารพรรณี ถนนคุ้มรัชฎากร) ชุมชนคลองเรียง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ
โดยมี นายธีวรา วิตนากร นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลผู้นำชุมชน ชาวบ้านทั้ง 27 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เข้าร่วมกิจกรรมลอกคลองห้วยเสว เพื่อนำผักตบชวาวัชพืชที่ขึ้นหนาแน่นเต็มลำห้วยที่ไปขวางทางน้ำเมื่อเกิดฝนตกหนัก หรือมีน้ำป่าไหลหลาก ทำให้น้ำไหลระบายผ่านไม่สะดวกเกิดน้ำเอ่อล้นคันกั้นน้ำทะลักเข้าท่วมตัวเมืองได้
เนื่องจากพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีพื้นที่เป็นแอ่งกระทะในช่วงหน้าฝน ในช่วงยาวถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน-ตุลาคม ยังมีจุดเสี่ยงเกิดน้ำท่วมหลายๆอำเภอรวมถึงเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2565 ช่วงเดือนตุลาคม 2565 จ.ชัยภูมิ เคยเกิดน้ำท่วมใหญ่มาแล้วหนักสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาด้วย ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนจำนวนมาก
และในปีนี้ทางจังหวัดชัยภูมิโดย นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิให้ความสำคัญกับปัญหาการเกิดอุทกภัยน้ำท่วม เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องวางแผนประชุมทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ ต้องเร่งวางแผนหาแนวทางป้องกันน้ำท่วมทุกอำเภอให้มีการขุดลอกลำน้ำที่ไหลผ่าน และมีผักตบชวาวัชพืชต่างๆที่กีดขวางทางน้ำขึ้นจากลำน้ำในช่วงนี้ให้ได้โดยเร็วทุกพื้นที โดยเฉพาะลำน้ำห้วยเสว หากเกิดฝนตกหนักจะมีน้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคาไหลผ่านตัวเมืองชัยภูมิ เป็นจำนวนมากในทุกปีด้วย
จึงได้เร่งมอบหมายให้ นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ราชการจังหวัดชัยภูมิ ร่วมเปิดดำเนิน”โครงการขุดลอกและปรับปรุงคุณภาพลำห้วยและคูคลองในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ” ในครั้งนี้โดยเร็วด้วย พร้อมทั้งทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ ได้ดำเนินการใช้เครื่องจักรรถแบ็คโฮขุดลอกนำผักตบชวาและวัชพืชจำนวนมากขึ้นจากลำน้ำห้วยเสว มาต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวกว่า 13 กิโลเมตร(กม.) คงเหลืออีกร่วม 7 กม.ในขณะนี้ ที่ไม่สามารถนำรถแบ็คโฮเข้าไปได้เนื่องจากสองฝั่งของลำน้ำห้วยเสวเป็นบ้านเรือนประชาชน จึงต้องได้รับความร่วมมือจากทางจังหวัดเจ้าหน้าที่เทศบาล และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองชัยภูมิ พร้อมด้วยผู้นำชุมชนทั้ง 27 ชุมชนช่วยกันระดมกำลังนำเรือจำนวนหลายลำและอุปกรณ์ช่วยกันนำผักตบชวา และวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำลำห้วยเสว ที่ขณะนี้เหลือระยะทางยาวอีกกว่า 7 กิโลเมตรขึ้นให้หมดก่อนที่จะเกิดฝนตกหนักและอาจจะมีน้ำป่าไหลหลากที่จะไหลผ่านเข้ามาในตัวเมืองชัยภูมิ ในเร็วๆนี้ตามมาอีกได้
