ชัยภูมิ – แจ้งเตือนประชาชนทุกพื้นที่เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำปีนี้ เตรียมรับศึก 2 ด้าน ทุกหน่วยงานเร่งระดมติดตามสถานการณ์น้ำทั้งจ่อเกิดปัญหาท่วมในจุดเสี่ยง-ลามกระทบแหล่งเก็บน้ำที่มีทั้งหมดในจังหวัดเหลือไม่ถึง 43 % จ่อเจอภัยแล้งหนักยาวนานข้ามปีในรอบหลายสิบปีในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้อย่างใกล้ชิดด้วย!!
( 31 ส.ค.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เพื่อเปิดศูนย์ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ประจำปี 2567 ซึ่ง จ.ชัยภูมิ เป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งจุดต้นกำเนิดของต้นแม่น้ำชี ที่ไหลหล่อเลี้ยงประชาชนจำนวนมากในเกือบทั่วภาคตะวันออกแยงเหนือ หรือภาคอีสาน มายาวนาน และแม่น้ำชีเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของประเทศไทยยาวกว่า 700 กิโลเมตร(กม.)
ซึ่งในช่วงจากนี้ไปเป็นช่วงที่จังหวัดชัยภูมิ จะมีความเสี่ยงการเกิดน้ำท่วมหนักในทุกปี และมีแนวทางการเตรียมความพร้อมของ จ.ชัยภูมิ เองโยทางจังหวัดขอให้หัวหน้าทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทุกพื้นที่ในทั้ง 16 อำเภอ ห้ามเดินทางออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาดหากไม่มีจำจำเป็นในช่วงนี้ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.ชัยภูมิ จะเกิดปัญหาเข้าสู่ฤดูน้ำหลากและฝนตกหนักในพื้นที่ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.- ต.ค.ของทุกปี และจะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ในช่วงเดียวกันของทุกปีที่ผ่านมาด้วย
โดยการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ปีนี้ล่าสุด ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ยังมีสถานการณ์ฝนตกมีน้ำสะสมตามแหล่งเก็บกักน้ำที่มีทั้งหมด ทั้งเขื่อนขนาดใหญ่ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก รวม 14 แห่ง กระจายอยู่ทั่วจังหวัดใน 16 อำเภอ ปัจจุบันมีความจุเหลือน้ำเก็บกักที่ถือว่าเหลือน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมาเฉลี่ยเหลือเพียง 43 % จากเคยมีความจุรวมที่มีรวม 383ล้าน ลบ.ม. แต่ระดับน้ำที่เหลือเก็บกักในปัจจุบันยังไม่เต็มความจุมีปริมาณน้อยเหลือน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา ขาดน้ำที่จะควรมีไว้เก็บกับเพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตร และอุปโภคบริโภคลดน้อยลงอีกกว่า 210 ล้าน ลบ.ม.ที่ถือว่ายังอยู่ในสถานการณ์ภัยแล้งยาวต่อไปถึงปีหน้า
แต่ล่าสุดที่ปีนี้จะตรงกับช่วงหน้าฝนตกหนักหรือหน้าน้ำหลาก ในช่วงตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.-ต.ค.ปีนี้ ทางการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และกรมอุตุนิยมวิทยา ตรวจพบมีแนวโน้มที่ช่วงจากนี้ไป จ.ชัยภูมิ จะเกิดฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงวันที่ 7 ก.ย.67 เป็นต้นไป ที่จะทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่มีปริมาณมากขึ้นและเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ได้ในช่วงเดือน ต.ค.67 ปีนี้
จึงต้องมีการเตรียมแผนรับมือป้องกันน้ำท่วมใหญ่ในช่วงนี้อย่างต่อเนื่อง หากมีปริมาณฝนตกหนักลงมามาก จนทำให้น้ำเต็มเขื่อนและแหล่งเก็บกักน้ำที่มีทั้งหมดได้ รวมทั้งจะเกิดปัญหาน้ำหลากตามลำแม่น้ำชีในพื้นที่เสี่ยงเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำอีกในปีนี้ได้
โดยทาง นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หลังได้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการณ์เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และภัยแล้ง จ.ชัยภูมิ ในปีนี้ที่จะต้องมีการดำเนินการติดตามสถานการณ์ปัญหาทั้ง 2 ด้านควบคู่กันไปในปีนี้ด้วย กล่าวว่า ซึ่งในช่วงจากนี้ไปขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิดด้วย เพื่อช่วยกันเฝ้าระวังทั้งปัญหาน้ำท่วม และก็ยังเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาภัยแล้งในปีนี้ยาวนานข้ามปีไปจนถึงปี 2568 อีกด้วย
ซึ่งหากเทียบปริมาณน้ำที่เก็บกักที่มีทั้งหมดในปัจจุบันเทียบกับปี 2566 ที่ผ่านมา ในแหล่งน้ำเก็บกักที่มีทั้งหมดมีจำนวนมากเกือบ 100 % และในช่วงเดียวกันของหน้าฝนตกหนักในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.ในปี 2566 ที่ผ่านมา จึงเกิดปัญหาเกิดน้ำท่วมหนักในปีที่ผ่านมา แต่ในปี 2567 นี้ ปัจจุบันน้ำเก็บกักทั้งหมดเหลือเพียง 43 % ที่เกิดปัญหาภัยแล้งในพื้นที่อยู่ขณะนี้ที่เขื่อนอ่างเก็บน้ำต่างๆต้องระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือด้านการเกษตรและการประปาให้ประชาชนในพื้นที่ยังต่อเนื่อง
และแนวทางเตรียมการรับมือปัญหาน้ำหลากน้ำท่วมของ จ.ชัยภูมิ ในปีนี้ต้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมากขึ้นกว่าทุกปีด้วย จากปรากฏการณ์ธรรมชาติในปีนี้ที่มาเร็วเปลี่ยนเร็ว ทั้งปรากฏการณ์เอลนีโญ และลานีญา ที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าช่วงจากเดือน ก.ย.-ต.ค.ปีนี้ จะมีฝนตกเพิ่มในพื้นที่จำนวนมากเฉลี่ยมากกว่า 200-400 มิลลิเมตรขึ้นไปที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ แต่ก็คาดว่าไม่น่าจะมากกับทุกปี 2566 ที่ผ่านมา ที่ช่วงเดียวกันจะมีปริมาณฝนตกสะสมสูงถึงหลัก 1,000 มิลลิเมตรขึ้นไป ที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่อย่างเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งหากฝนไม่ตกตามปริมาณดังกล่าว เขื่อนแหล่งเก็บน้ำที่มีทั้งหมดในการเร่งปล่อยน้ำที่มีเหลือปริมาณน้อยอยู่แล้วเพียง 43 % ก็จะเกิดปัญหาแหล่งน้ำที่มีเก็บกักทั้งหมดเหลือน้อยและจะนำไปสู่ปัญหาเกิดภัยแล้งข้ามปีและยาวนานหนักที่สุดของพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ตามมาด้วย
ดังนั้นในส่วนการติดตามการแก้ปัญหาในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ปีนี้จะต้องมีการติดตามการแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วม-ภัยแล้ง ควบคู่กันอย่างใกล้ชิดในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.67 อย่างอย่างใกล้ชิดด้วย
และในส่วนปัญหาแหล่งน้ำที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ถ้ามีฝนตกหนักในช่วงนี้ ในโซนของพื้นที่มีแม่น้ำชีไหลผ่าน ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักจากปีที่ผ่านมา ที่เกิดความตื้นเขิน ผนังกั้นแต่ละช่วงที่แม่น้ำชีไหลผ่านเกิดการขาดแตกเสียหาย ประตูเส้นทางระบายน้ำที่มีในปัจจุบันพังเสียหายชำรุด ที่ยังต้องรองบประมาณมาช่วยซ่อมแซมในปีนี้ยังไม่ทันให้เสร็จในช่วงนี้ได้
ก็จะเกิดปัญหาน้ำหลากเข้าท่วมในทุกพื้นที่ในโซนแม่น้ำชีไหลผ่านในช่วงนี้ได้ จึงขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนายอำเภอในทุกอำเภอที่มีจุดปัญหาดังกล่าว เร่งลงไปหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดน้ำหลากมีผลกระทบในแต่ละพื้นที่ในปีนี้ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย ที่จะต้องมีแผนการแจ้งเตือนติดตามสถานการณ์น้ำให้กับประชาชนอย่างใกล้ชิดทุกพื้นที่ และเตรียมความพร้อมมีการแจ้งเตือนประชาชนให้มีความพร้อมทั้งในการขนสิ่งของมีค่าออกจากบ้านขึ้นสู่ที่สูงไว้ก่อน จุดติดตั้งท่อทางระบายน้ำที่ไม่ให้เกิดการท่วมขังที่เป็นเวลานานที่จะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งมีการเตรียมศูนย์อำนวยการพร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉุกเฉินในปีนี้ในจุดเสี่ยงที่หากเกิดฝนตกหนักที่จะเกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อย่างเลี่ยงไม่ได้ในปีนี้ด้วย
