ชัยภูมิ – ในช่วงวันออกพรรษาปีนี้สุดคึกคักกว่าทุกปี เพื่อถวายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในช่วงวันออกพรรษา สุดสวยงามตระการตาตามประเพณีโบราณของชาวไทยสืบทอดพระพุทธศาสนากันมายาวนานกว่า 2,600 ปี ที่ชาวตำบลนาฝายเมืองชัยภูมิ ถือปฏิบัติสืบทอดต่อการมายาวนานมาต่อเนื่องกว่า 210 ปี ที่ปัจจุบันมีเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชัยภูมิ ที่หาชมได้ยากเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทยก็ว่าได้
( 17 ต.ค.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ บรรยากาศก่อนที่จะถึงวันออกพรรษา ในช่วงเวลาช่วงค่ำของก่อนวันออกพรรษาทุกปีในปีนี้ตรงกับวันที่ 16 ต.ค.67 ที่ผ่านมา จะมีการออกมาร่วมใจกันสืบสานประเพณีตามศาสนาพุทธของชาวบ้านที่นี่ที่หาชมได้ยากเหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชัยภูมิ ที่มีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมายาวนานจนปัจจุบันมานานกว่า 210 ปี ตั้งแต่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้มายาวนานกว่า 2,600 ปี
ซึ่งที่ จ.ชัยภูมิ จะยังมีชาวบ้านในหมู่บ้านช่อระกา กว่า 3 หมู่บ้าน ทั้งหมู่ 9,17 และหมู่ 18 ใน ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่ได้พร้อมใจกันสร้างต้นกระธูปโบราณจากมือตัวเองและมีการประดิดประดอยอย่างสวยงามช่วยกันนำมาประดับประดาด้วยก้านกระธูปที่ทำขึ้นจากมือประกอบด้วยกาบขุยมะพร้าว สมุนไพรต่างๆ ที่มีในหมู่บ้าน นำมาตากให้แห้งก่อนแล้วค่อยนำมาบดขยี้ให้เป็นผงธูป ผสมกับสมุนไพรหลายชนิดเพื่อให้เกิดความหอมทั้งใบทองพันชั่ง ใบอ้ม ใบเนียม ใบแน่งมานึ่ง แล้วนำไปตากแดด
แล้วนำมาบดอีกครั้ง จะได้ฝุ่นไม้ที่มีกลิ่นหอมเป็นยาสมุนไพรใช้ดมแก้วิงเวียนได้อีกด้วยที่สืบทอดปฏิบัติกันมาแต่โบราณ แล้วนำมาผสมกับขุยมะพร้าวห่อด้วยกระดาษให้ได้รูปทรงยาวเหมือนธูป นำกระดาษที่มีสีสันลวดลายสวยงามมาประดับพันให้เป็นลวดลายที่สวยงาม แล้วนำไปมัดติดกับดาวที่ทำจากใบลาน แล้วนำมาติดมัดกับคันที่ทำจากไม้ไผ่คล้ายคันเบ็ด นำเข้าไปเสียบเข้าไปรูรอบปล้องไม้ไผ่ ทำเป็นชั้นขึ้นไปเหมือนฉัตร ทำเป็นต้นกระธูป ประดับตกแต่งงดงาม สวยงาม
โดยการสืบสานประเพณีโบราณแห่ต้นบุญกระธูปช่วงวันออกพรรษา ของชาวตำบลนาฝาย ที่นี้จะจะมีการจุดลูกไฟตูมกา ในการต้อนรับเทศกาลวันเข้าพรรษา ของชาวบ้านที่นี่อีกด้วย ที่มีการร่วมกันทำสืบสานประเพณีดังกล่าวมานานกว่า 2,600 ปี ปีที่มีศาสนาพุทธเกิดขึ้นในเมืองไทย ที่ปัจจุบันไดเลือนรางหายไปในหลายพื้นที่ แต่ในปัจจุบันก็ยังมีชาวตำบลนาฝาย ที่นี่ยังพากันทำพิธีจุดลูกไฟตูมกา ประกอบร่วมในงานบุญจุดต้นกระธูปวันออกพรรษาที่นี่ยังคงช่วยกันรักษาไว้มาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันได้มากว่า 210 ปี ในปีนี้ด้วย ที่ถือว่ามีเหลือเพียงแห่งเดียวในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และประเทศไทยในปัจจุบันก็ว่าได้
โดยปีนี้ทางด้าน นางสาวสุกัญญา กุลสุวรรณ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรวิศ มาอินทร์ นายก อบต.นาฝาย ได้นำชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ทั้งหมู่ 9,17และหมู่ 18 นำต้นกระธูปที่ช่วยกันทำขึ้นอย่างสวยงามของตำบลที่มีตัวรวม 19 ต้นขนาดใหญ่ จากตัวแทนทั้ง 19 หมู่บ้านของตำบล และมีต้นกระธูปหลักที่ทำถวายเป็นพระราชกุศล ในปีมหามงคลในหลวง ร.10 อีกรวมจำนวน 10 ต้นด้วย
ก่อนที่วันนี้จะมีการจัดขบวนตัวแทนของชาวทั้ง 19 หมู่บ้าน ของ ต.นาฝาย และพากันจัดขบวนแห่ต้นกระธูปออกไปรอบตั้งแต่ช่วงเย็นของวันใกล้วันออกพรรษาในปีนี้ใน 16 ต.ค.67 ที่ผ่านมาไปรอบทั่วหมู่บ้าช่อระกา เข้าไปยังวัดดาวเรือง บ้านช่อระกา ตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ที่เป็นพื้นที่บริเวณจัดงานประเพณีบุญจุดไฟตูมกา จุดไฟต้นกระธูปวันออกพรรษา ขึ้นเป็นประจำทุกปีที่วัดแห่งนี้มายาวนานเป็นประจำทุกปี และในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ชาวบ้านที่นี่พากับสืบสานประเพณีดังกล่าวมาจนครบรอบ 210 ปี ตั้งแต่มีการตั้งวัดดาวเรืองขึ้นมาที่นี่อีกด้วย
ก่อนที่ในค่ำคืนเป็นการเปิดงานเพื่อต้อนรับวันออกพรรษา ชาวบ้านทุกคนที่ทำภาชนะสำหรับจุดไฟลูกตูมกามาใช้ในประเพณีนี้ โดยนำ “ลูกตูมกา” ที่มีลักษณะคล้ายกรมคล้ายผลลูกส้ม ที่เป็นพืชที่มีปลูกอยู่ในป่าชุมชนในพื้นที่มายาวนานจนปัจจุบัน ที่มีเปลือกแข็ง นำมาผ่าครึ่ง แล้วเอาเนื้อออก แล้วใส่งาหรือใช้น้ำมันพืชเป็นเชื้อเพลิง ใส่ด้ายที่พันขึ้นเป็นรูปตีนกา เป็นชนวนในการจุดไฟ แทนการจุดเทียน ที่มีความหมายถึงการบูชาพระธรรมหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาของประเทศไทยที่เกิดขึ้นและมีการปฏิบัติสืบทอดกันมายาวนานจนปัจจุบันกว่า 2,600 ปี
และหลังจากที่ชาวบ้านได้ร่วมกันกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัยและสวดมนต์ไหว้พระพร้อมกันแล้ว พระสงฆ์ต่อด้วยฆราวาส ชาวบ้าน ได้ร่วมกันจุดไฟตูมกาไต้น้ำมันล้างหางประทีป ต่อด้วยร่วมกันจุดต้นกระธูป ที่นำมามัดห้อยกับก้านธูปที่เป็นเสมือนคันเบ็ด ทำเป็นชั้นขึ้นไปเหมือนฉัตร มีลวดลายอันหลากหลายประดับตกแต่งอย่างงดงาม จุดกระธูปแต่ละต้นแล้วเสร็จ ทำให้ต้นกระธูปแต่ละต้นมีแสงไฟ ระยิบระยับอย่างสวยงาม ซึ่งถือว่าเป็นการจุดถวายเป็นพุทธบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ในช่วงวันออกพรรษา เป็นประจำทุกปี
ที่ชาวไทยพุทธที่นี่ถือว่าเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อลงมาโปรดสัตว์ ภายหลังจากโปรดพุทธมารดาแล้ว ชาวไทยพุทธทุกคนที่นี่จะมีการถวายสักการะ และเฉลิมฉลองกันในเทศกาลวันออกพรรษาทุกปี
“เปรียบเหมือนการได้ทำพิธีบูชาด้วยการนำต้นธูปนี้ พร้อมทั้งลูกไฟตูมกา เมื่อจุดแล้วย่อมส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจาย ลูกไฟตูมกาได้เกิดความสว่างไสวไปทั่วทุกทิศต่างๆ ส่งกลิ่นหอมนี้ย่อมเป็นที่ชื่นใจแก่มนุษย์ เทวาดา สัตว์โลกทั้งหลายทั้งปวงที่ได้สัมผัสกลิ่น ย่อมเกิดความปิติและเกิดความสุขความเบิกบาน เป็นสิริมงคล ช่วยนำไปสู่ความล้นพ้นทุกข์ต่อคนที่มาร่วมพิธีสืบสานประเพณีแห่บุญกระธูป จุดลูกไฟตูมกาในวันออกพรรษา ของชาว ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ที่จัดสืบสานประเพณีอันดีงามดังกล่าวกันมายาวนานแต่โบราณเป็นประจำทุกปีในปีนี้ที่ถือว่ายังมีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาเนื่องต่อเป็นปีที่ 210 ปี แล้ว ที่หาดูได้ยากและน่าจะเหลือเพียงแห่งเดียวในจังหวัดชัยภูมิ หรือประเทศไทยในปัจจุบันก็ว่าได้ ที่ทางผู้นำชุมชน นายก อบต.นาฝาย ชาวบ้านที่นี่ต่างก็ยังขอบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าชาวตำบลนาฝายที่นี่จะยังขอคงรักษาประเพณีวันออกพรรษา จุดลูกไฟตูมกา งานบุญกระธูปตามแบบโบราณที่รุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย พาปฏิบัติกันมาจนปัจจุบันให้คงอยู่สืบต่อไปถึงรุ่นลูกหลานให้คงอยู่ที่นี่ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่อีกด้วย
