ชัยภูมิ – เร่งขยายผลเครือข่ายค้ายาบ้าข้ามชาติต่อเนื่อง!
( 6 ม.ค.68 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีชาวบ้านได้ใช้กล้องมือถือถ่ายคลิปแชร์ว่อนไปทั่วโลกโซเชียลในขณะนี้ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ถึงภาพนาทีระทึก ขณะตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และตำรวจในพื้นที่ สภ.แก้งคร้อ ร่วมกันขับรถยนต์ไล่ล่าตามจับกุมแก๊งลักลอบขนค้ายาบ้าผ่านเข้ามาพื้นที่ถนนย่านกลางตลาดสดเทศบาลอำเภอแก้งคร้อ ห่างจาก สภ.แก้งคร้อ ไม่ไกลประมาณ 50 เมตร ซึ่งทางผู้สื่อข่าวจึงได้ตรวจสอบข้อมูลวันเกิดเหตุเกิดขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวานนี้ 5 ม.ค.68 ที่ผ่านมา เพื่อสกัดจับแก๊งลักลอบขนยาบ้าข้ามชาติ
ซึ่งมีการใช้รถยนต์เก๋งขนยาบ้าผ่านพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เข้ามาในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อนำไปส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเห็นรถต้องสงสัยขับเข้ามาในเขตอำเภอแก้งคร้อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกตรวจ และคนขับรถเห็นตำรวจนอกจากจะไม่จอดรถแล้ว ยังได้เร่งเครื่องรถขับหนี ทำให้ตำรวจต้องระดมขับรถวิ่งไล่ล่าตามประกบ พร้อมใช้ปืนยิงยางรถเก๋งของคนร้าย เพื่อสกัดรถไม่ให้ขับต่อไปได้
ทางตำรวจอีกชุดได้ขับรถไล่ล่าไปตามถนนสาย อ.แก้งคร้อ-อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งห่างกันเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร กระทั่งถึงบริเวณหน้าที่ธนาคารกรสิการไทย ข้างที่พักสายตรวจ ก่อนถึง สภ.แก้งคร้อ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้รถ 2 คัน ขับประกบใช้อาวุธปืนยิงยารถเก๋งของคนร้ายพร้อมใช้รถตำรวจ จอดสลับขวางถนนไว้ ซึ่งตอนแรกรถของผู้ต้องหาจะพยายามขับเบี่ยงหนี แต่สุดท้ายก็จนมุม ขับรถหนีไปต่อไม่ได้ ตำรวจชุดสืบสวนจึงเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้
ใช้เวลาอยู่นานนับชั่วโมง จะสามารถเข้าตรวจสอบภายในรถเก๋งและจับกุมคนร้ายได้เป็นชาย 2 คน พร้อมตรวจยึดยาบ้าภายในรถได้รวม 200,000 เม็ด และควบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายลักฯ นามสมมุติ อายุ 31 ปี และ นายลอบฯ นามสมมุติ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ไปสอบสวนที่ สภ.แก้งคร้อ ส่วนยาบ้าที่ยึดได้ใน 2 กระสอบ นับได้รวม 200,000 เม็ด นั้นทางผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ก็ยอมรับสารภาพ ได้รับจ้างขนยาบ้ามาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 หมื่นบาท และยังยอมรับว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ พวกตนได้รับการว่าจ้างจากแก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติผ่านมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ให้นำยาบ้าไปส่งให้เอเยนที่กรุงเทพฯและเคยมารับยาเสพติดผ่านมาจากชายแดนเพื่อนบ้านมาจาก จ.อุบลราชธานี ไปส่งให้กลุ่มผู้ค้าใน กรุงเทพฯ มาแล้วหลายครั้ง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนส่งดำเนินคดีและขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องอีกทั้งมดตามกฎมายต่อไป
