ชัยภูมิ – สุดสลดส่งท้ายปี ลุงวัย 54 ปี ออกมานอนในกระท่อมเฝ้าที่นาตัวเอง ในช่วงหน้าหนาวต้องทั้งก่อกองไฟพิง และจุดเทียนให้แสงสว่างในกระท่อมเป็นเป็นจำ โชคไม่ดีเกิดลมแรงไฟไหม้ลามคลอกตัวเองถูกย่างสดจนร่างไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโกดับสยองคาซากกระท่อม!
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 31 ธันวาคม 2561 พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สถานีตำรวจภูธรเมืองขัยภูมิ ว่ามีคนถูกไฟคลอกเสียชีวิตคากระท่อม กลางทุ่งนาในหมู่บ้านหนองหญ้ารังกา หมู่ที่ 4 ตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลชัยภูมิ ร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ในที่เกิดเหตุ พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนเสียชีวิตในสภาพถูกไหม้เกลียม คาซากกระท่อม ทราบชื่อต่อชมาคือ นายสุพจน์ ดงทอง อายุ 54 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 4 บ้านหนองหญ้ารังกา ตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ สอบถามไปยังนายธีระพงษ์ ธงชัยภูมิ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นน้องชายผู้เสียชีวิตให้การว่า พี่ชายของตนชอบมานอนที่กระท่อม เพื่อเฝ้าที่นาของผู้ตายเองอยู่เป็นประจำ และเมื่อคืนในพื้นที่มีอากาศค่อนข้างเย็น จัดมีลมแรง ซึ่งกระท่อมกลางทุ่งนาไม่มีไฟฟ้า คาดว่าผู้ตายจะจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่างในกระท่อม ก่อนนอน และมีการก่อไฟพิงทิ้งไว้ใกล้กระท่อมเป็นประจำ ก่อนที่จะมีลมแรงจนเทียนล้มและกองไฟที่ก่อพิง เกิดลุกลามไหม้กระท่อมอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้ตายที่นอนหลับอยู่หนีฝ่ากองเพลิงที่ลุกลามไหม้กระท่อมอย่างรวดเร็วออกมาได้ทันจนถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่าน่าสลดดังกล่าว
ต่อมาได้สอบถามไปยังผู้เห็นเหตุการณ์ ชื่อว่า นายจันทร์ ธงภักดิ์ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่อยู่ในระแวกดังกล่าว ที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ตนได้สังเกตเห็นไฟไหม้ป่า และ ไหม้กระท่อมหลังดังกล่าวลุกลามขึ้นมาทั้งหลังอย่างรวดเร็ว ตนจึงได้รีบวิ่งออกมาดู ก่อนที่ไฟจะไหม้กระท่อมได้รับความเสียหายหมดทั้งหลังอย่างรวดเร็วและพบร่างผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอกไหม้ดำเหมือนตอตะโก อยู่คาซากสังกะสีถล่มลงมาแล้ว ตนจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ พร้อม แจ้งญาติ เข้ามาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.ธนะสิทธิ์ อุดมพรวรชัย รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามไปทางญาติ ว่าติดใจการเสียชีวิตในครั้งนี้หรือไม่ ญาติไม่ติดใจ ก่อนจะได้มอบร่างให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: