ชัยภูมิ – กระทบพื้นที่ชาวบ้านใกล้เคียง ทำพื้นที่ป่าชุมชนป่าสงวนแห่งชาติ เสื่อมโทรมได้รับความเสียหายมานานนับปี หลังต้นไม้ใหญ่ที่พระและชาวบ้านช่วยกันปลูกมานานหลายสิบปีเริ่มยืนต้นตายจำนวนมากเป็นวงกว้างกว่า 200 ไร่ วอนผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ –บิ๊กตู่ เร่งช่วยตรวจสอบ ทั้งที่เคยยื่นหนังสือร้องเรียนไปหลายหน่วยงานมาต่อเนื่องนานนับปีแต่ก็ยังไม่คืบหน้า!
( 6 ก.พ.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากพระสงฆ์ว่า ป่าชุมชนพนังหินฮาวที่มีเนื้อที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาในพื้นบ้านห้วยยาง ตำบลห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ถูกฟาร์มหมูของญาติผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ในขณะนี้พรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นอดีตนักการเมืองดัง
ซึ่งเป็นเจ้าของฟาร์มหมูในพื้นที่ดังกล่าว แอบลักลอบขุดบ่อขนาดใหญ่ในเขตป่าสงวนฯในจุดดังกล่าวและสูบน้ำขี้หมูสูบน้ำเสียต่อท่อยาวนับกิโลปล่อยใส่ในป่าชุมชนเขตป่าสงวนแห่งชาติมานานนับปี ซึ่งขณะนี้ทำให้ต้นไม้น้อยใหญ่ยืนต้นตายเป็นจำนวนมากขยายวงกว้านับกว่า 200 ไร่ หลังจากที่หลวงพ่อดังกล่าวเคยยื่อนเรื่องร้องเรียนไปหลายหน่วยงานมานานนับปีแต่ก็ยังไม่มีความคืบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจ.ชัย๓มิ จะเข้ามาเร่งแก้ปัญหานี้ได้
ล่าสุดจึงหวังวิงวอนผ่านสื่อมวลชน เป็นที่พึ่งสุดท้าย ที่น่าจะช่วยตีแผ่ความจริงช่วยกันแก้ไขก่อนพื้นที่ป่าไม้จะถูกทำลายจากนายทุนกลุ่มนี้สร้างความเสียหายผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่คอนสวรรค์ตามมาได้อีกจำนวนมาก และวิงวอนไปถึงผู้ว่าฯและบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยสั่งการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยด่วนที
โดยครั้งนี้ พระสุภาษก์ ขนฺติจิตฺโต อายุ 61 ปี หลวงพ่อประจำสำนักสงฆ์ป่าห้วยยาง หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภุมิ ได้พาตรวจสอบพื้นที่กรณีฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขตอำเภอคอนสวรรค์ แอบลักลอบขุดบ่อน้ำในเขตป่าสงวนแห่งชาติภูแลนคาและลักลักลอบต่อท่อสูบน้ำขี้หมูจากฟาร์มปล่อยใส่ป่าชุมชนไปทั่วนับพันไร่ จากการลงพื้นที่พบว่าในป่าชุมชนหนองหินฮาวที่มีเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ พบสายยางขนาดใหญ่ 4-5 นิ้ว ถูกต่อออกมาจากภายในฟาร์มหมูที่มีเขตติดต่อกับแนวเขตป่าสวงนฯยาวนับกิโลและห่างจากเขตฟาร์มหมูออกมาประมาณ 500 เมตร พบบ่อน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ป่าสวงนฯลักษณะน้ำเป็นสีเขียวขุ่นและมีกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว
ซึ่งพระสุภาษก์ ขนฺติจิตฺโต กล่าวว่า ขณะนี้ผลกระทบจากฟาร์มหมูดังกล่าว เกินสุดที่จะทนกับชาวบ้านในพื้นที่แล้ว หลังร้องเรียนมานานนับปี ไม่มีอะไรคืบหน้าในการที่จะเข้ามาแก้ปัญหาได้เลย ปัจจุบัน ที่มีการลักลอบต่อท่อยางที่ทางฟาร์มต่อท่อลึกเข้าไปในป่าสวงนซึ่งเป็นป่าไม้ธรรมชาติและป่าไม้ที่ชาวบ้านและวัดช่วยกันปลูกมานานหลายสิบปีที่เราอยู่ก่อนโรงงานฟาร์มจะมาตั้ง และพบว่าหลายจุดมีน้ำเน่าเสียขังอยู่หลายแห่งมีวาล์วน้ำเปิดปิดน้ำมีลักษณะสีน้ำตาลมีกลิ่นเหม็น ต้นไม้น้อยใหญ่ยืนต้นตายและหญ้าตายไปทั่วบริเวณเป็นจำนวนมากแล้วนับกว่า 200 ไร่
อาตมา หรือตนเองนั้นได้ทำหนังสือไปยังป่าไม้จังหวัดเพื่อขอตั้งสำนักสงฆ์เมื่อก่อนที่บริเวณนี้เป็นที่สาธาณณะป่าเสื่อมโทรมและเกือบ 10 ปีแล้ว และต่อมาได้ขอพื้นที่ 20 ไร่ เพื่อปลูกป่ารอบๆบริเวณสำนักสงฆ์และปีต่อมาป่าไม้อนุญาติให้ปลูกป่าได้ทั้งหมด 1,000ไร่ ซึ่งตนเองและชาวบ้านบางส่วนได้ช่วยกันหาพันธุ์กล้าไม้เช่นต้นยางนาต้นพยูง และไม้เนื้อแข็งอื่นๆ มาปลูกแล้วกว่า 200 ไร่ และต่อมามีการก่อสร้างฟาร์มหมูขนาดใหญ่ติดกับพื้นที่ป่าสวงนฯนี้ขึ้น
และมีการลักลอบสูบน้ำเสียปล่อยทิ้งในเขตป่าสวงนและมีการขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่ในเขตป่าฯซึ่งตนเองก็พยายามร้องเรียนไปยัง ผู้ใหญ่บ้าน ร้องเรียนไปยังอำเภอและป่าไม้จังหวัดหลายครั้งแต่เรื่องก็เงียบ จนล่าสุดตนเองขอตัดสินใจถ่ายคลิปลงสื่อโซเซียลและร้องไปยังสื่อมวลชนประจำจังหวัด เพราะทนเห็นต้นไม้ที่ตนเองปลูกมานับ 10 ปีและต้นไม้ที่เกิดเองตามธรรมชาติกำลังจะยืนต้นตายในปัจจุบันนี้อีกตามาอีกจำนวนมาก จากน้ำขี้หมูที่ถูกปล่อยมาจากฟาร์มไหลไปทั่วบริเวณป่าและแหล่งน้ำธรรมชาติจนนาข้าวชาวบ้านได้รับความเสียหายมานานหลายปีแล้ว ซึ่งป่าชุมชนแห่งนี้เมื่อก่อนเป็นแหล่งอาหารและสมุนไพรหาของป่าใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์ที่ชาวบ้านร่วมกันใช้ประโยชน์ร่วมกันมานานหลายชั่วอายุคนแต่ปัจจุบันกลับแทบไม่เหลือความสมบูรณ์ของผืนป่า จึงขอวอนไปถึงท่านผวจ.ชัยภูมิและบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ ช่วยสั่งการลงมาดูพื้นที่เป็นการด่วนด้วยเสียที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: