ชัยภูมิ – และอยากให้ทุกพรรคไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลใหม่ครั้งนี้ช่วยสานต่อ เกาะติดสนามเลือกตั้งอีสานฐานการเมืองชัยภูมิ ชิง ส.ส. 6 ที่นั่ง ใน 6 เขตเลือกตั้ง ผลสำรวจโค้งแรกหลังมีการปิดรับสมัครส.ส.ในพื้นที่ใน8ก.พ.เป็นที่เรียบร้อบแล้ว ซึ่งผู้สมัครแต่ละพรรคส่วนใหญ่ยังไม่มีการลงพื้นที่เดินเคาะประตูบ้านเพื่อพบปะชาวบ้านเท่าที่ควรในช่วงนี้ จะมีเพียงการเร่งทำป้ายจัดคนลงไปติดตั้งและจัดรถออกประกาศหาเสียงกันเริ่มคึกคักกระจายไปทั่วทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ผลสำรวจเสียงประชาชนในพื้นที่เริ่มขานรับนโยบายที่ยังโดนใจสุดในขณะนี้เรื่องการสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยังนำโด่ง!
เริ่มทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เริ่มทำคะแนนนิยมผู้สมัครส.ส.พปชร.ในพื้นที่จ.ชัยภูมิเกิดเสียงตอบรับพุ่งกว่า 4 ที่นั่ง ใน 4 เขตเลือกตั้ง จากทั้งหมด 6 เขต โดยเฉพาะเขต 2 เครือญาติตระกูลดัง”ชาลีรินทร์”แกนนำหลักผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ ก็ออกมาจวกเขยแหกคอกที่มาอาศัยฐานตระกูลมีศักดิ์เป็นลูกเขยพ.ท.ดัง จนได้ดิบได้ดีเป็น ส.อบจ.ดังพื้นที่ แต่ครั้งนี้กลับแหกคอกลืมบุญคุณ หันไปลงสมัครส.ส.ในนามพรรคอื่นมาแข่งกับพี่เขยเครือข่ายกันเองในพื้นที่ซึ่งกล้าทำไปได้อีก ซึ่งทางตระกูลชาลีรินทร์ อยากจะขอชี้แจงความเข้าใจต่อประชาชนในพื้นที่ในครั้งนี้ด้วยว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวในการสนับสนุนเขยผู้สมัครรายนี้ในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างเด็ดขาดด้วย เพราะหวั่นชาวบ้านในพื้นที่จะพากันเข้าใจผิดในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าตระกูลตนเองไปช่วยสนับสนุนผู้สมัครรายนี้ได้อีกด้วย
( 10 ก.พ.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ บรรยากาศโค้งแรกชิง ส.ส.6 ที่นั่ง ใน 6 เขตเลือกตั้งของจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ที่จะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ของวันที่ 24 มี.ค.62 พร้อมกันทั่วประเทศ บรรยากาศทั่วไปของการติดป้ายหาเสียงและใช้รถแห่หาเสียง ในทุกพื้นที่ของเขตเลือกตั้งจังหวัดชัยภูมิ ตามถนนสายต่างๆและชุมชนต่างๆเริ่มมีการออกติดตั้งป้ายหาเสียงของว่าที่ผู้สมัครแต่ละพรรคกันต่อเนื่อง
ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ เผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้สมัครออกมาเดินสายเดินเคาะประตูบ้านมากเท่าที่ควร ซึ่งก็น่าจะอยู่ระหว่างการเร่งทำป้ายมาติดตั้งเปิดตัว และใช้รถเครื่องเสียงแห่ประกาศเปิดตัว ของตนเองก่อนในช่วงนี้เป็นจำนวนมากเท่านั้น ซึ่งยังไม่พบผู้สมัครตัวเป็นๆเดินสายมาพบชาวบ้านในพื้นที่เลยในขณะนี้ ซึ่งก็มีคนที่จะเลือกและพรรคที่จะเลือกอยู่ในดวงใจบ้างแล้ว แต่จะตัดสินใจเลือกหรือไม่อีกครั้ง ต้องรอดูว่าเขาจะมาพบมาพูดเสนอนโยบายที่ชัดเจนอย่างไรต่อไปอีกครั้งด้วย ก่อนที่จะได้ตัดสินใจก่อนอีกครั้ง
โดยนางปภัสรา จันทร์มี แม่ค้าร้านก๋วยเตี๋ยวดังคูณทรัพย์ และตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ส่วนหนึ่งที่มีสิทธิ์เลือกตั้งในจ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้สิ่งที่อยากได้จากรัฐบาลใหม่ และนายกรัฐมนตรี คนใหม่ คือการเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง โดยเฉพาะเรื่องปัญหาราคาผลพืชการเกษตร ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับชาวอีสานและจ.ชัยภูมิ ที่ส่วนใหญ่มีอาชีพทางการเกษตรมายาวนานที่ยังไม่เห็นรัฐบาลใดที่ผ่านมา แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ชัดเจนได้
รวมทั้งในเรื่องของการสานต่อนโยบายที่สำคัญในขณะนี้ เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ใน 6 เขจเลือกตั้งของจ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลใหม่ หรือนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ใครที่จะมาเป็นขอให้สานต่อเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไปด้วย ไม่ว่าใครพรรคใดจะชนะการเลือกตั้งขอเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อยากให้สานรับต่อไปดำเนินการให้ต่อเนื่องต่อไปด้วย
ซึ่งเริ่มทำให้กระแสคะแนนนิยมหลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รับนั่งในรายชื่อเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีให้กับพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ยิ่งเริ่มทำให้ประชาชนในพื้นที่ส่วนหนึ่งในทั้ง 6 เขตเลือกตั้ง ผลสำรวจในโค้งแรกนี้ ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังตอบรับให้กับผู้สมัครในนาม พปชร.ถูกใจเรื่องนโยบายสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 4 เขตเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะในเขต 2,3,4,และเขต 5 ประชาชนในพื้นที่เริ่มตอบรับในเรื่องนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นนโยบายหลักของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงกว่าเขตอื่นๆอีกจำนวนมาก
จนล่าสุดในนามแกนนำหลักของพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ที่มีพ.ท.อรุณ ชาลีรินทร์ อดีตนักการเมืองดังในพื้นที่อ.จตุรัส เขตเลือกตั้งที่ 2 ในปัจจุบัน ที่ก่อนหน้านี้ถูกมองว่าแทงกั๊กจัดส่งผู้สมัครส.ส.ควบ 2 พรรคในคราวเดียวกัน ทั้งที่เป็นแกนนำหลักผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ และยังส่งลูกเขยในนามพรรคเพื่อไทยด้วยอีกคนนั้น
ซึ่งครั้งนี้จึงอยากฝากชี้แจงต่อประชาชนในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 ด้วยว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องเพราะในตอนแรกมีการพูดคุยกับเขยรายนี้แล้ว แต่ก็แหกคอกไม่ฟัง หลังที่ตนเองส่งบุตรชาย นายเชิงชาติ ชาลีรินทร์ ลงสมัครในนานพรรคพลังประชารัฐ เขต 2 ที่ทางเครือญาติทุกคนพร้อมสนับสนุนพปชร.อย่างเต็มที่เพียงพรรคเดียวเท่านั้น
แต่ครั้งนี้เขยรายนี้กลับแหกคอกลืมบุญคุณที่เคยมีมาที่มาใช้ฐานเสียงของตระชาลีรินทร์ ของตนเองไปลงสมัคร ส.อบจ.พื้นที่ จนประสบผลสำเร็จมาแล้ว แต่ครั้งนี้กลับมาทำไปได้ แหกคอกหันไปลงสมัครในนามพรรคอื่นเพื่อมาแข่งกับพี่เขยตัวเองกันเองอีก ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ค่อนข้างที่จะรับไม่ได้ และอยากแจงให้ประชาชนที่ทราบด้วยว่า ซึ่งจากนี้ไปอาจจะเกิดความเข้าใจผิดว่าตระกูลเราสนับสนุนเขยรายนี้อีก ซึ่งการเลือกคตั้งครั้งนี้ทางตระกูลชาลีรินทร์ จะไม่เกี่ยวข้องกับการลงสมัครของเขยรายนี้เด็ดขาดด้วย และจะขอสนับสนุบเพียงพรรคเดียวคือพลังประชารัฐ และพร้อมจะสนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อร่วมเสนอพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวเท่านั้นจากนี้ไปด้วย จึงเริ่มทำให้กระแสการตอบรับในพื้นที่ความนิยมจากพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่เขต 2 ครั้งนี้สร้างความฮือฮาไปทั่วเขต 2 กันจำนวนมากอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ที่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่น่าจับตาว่า จะดุเดือดแค่ไหนอย่ากระพริบตา
ซึ่งครั้งนี้เองก็ถือว่าดุเดือดมากที่สุดเท่าที่เคยมีการเลือกตั้งมาว่ามีผู้สมัครสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยมีมาซึ่งมีผู้สมัครสูงมากกว่า 226 คน จาก 40 พรรคการเมือง ที่จะมีส.ส.ได้เพียง 6 ที่นั่ง ใน 6 เขตเลือกตั้งเท่านั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: