ชัยภูมิ – ยิงสนั่นเมืองเดือด..
เมื่อเวลา 19.50 น. วันที่ 22 ม.ค.61 พ.ต.ท.ณัฐพล กิ่งโชค รอง ผกก.(สอบสวน) รักษาการผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับรายงานจากศูนย์วิทยุ191 สภ.เมืองชัยภูมิ ว่ามีผู้ถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนจมกองเลือด อยู่หน้าร้านคูณสามชัยภูมิซึ่งเป็นร้านค้าอุปกรณ์พลาสติกเกี่ยวกับเครื่องครัว ตั้งอยู่บริเวณริมถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว ข้างปั๊มน้ำมันปตท.ขาเข้าตัวจังหวัดชัยภูมิ จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิออกตรวจสอบให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนกับผุ้ได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยนำส่งรพ.ชัยภูมิ ก่อนที่พลเมืองดีได้ช่วยนำตัวผู้ถูกยิงส่งโรงพยาบาลรามชัยภูมิใกล้เคียงที่เกิดเหตุเป็นการด่วนไว้ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
ในที่เกิดเหตุพบชาวบ้านต่างยืนมุงดูเหตุการณ์ ใกล้กันในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะแค็ป ยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บร 9207 กาญจนบุรี ส่วนท้ายบรรทุกเครื่องพลาสติกจำนวนมากใกล้กันยังพบรอยกองเลือดและข้าวของกระจัดกระจายบนพื้นถนน ห่างไปมุมเสาร้านพบ ปืนลูกโม่ขนาด .38 ของ S&W ขนาด 4 นิ้ว วางตกในบริเวณที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามนางพรรณี จันทร์ลังกา อายุ 45 ปี พนักงานในร้านคูณสามชัยภูมิ เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนและพนักงานคนอื่นกำลังช่วยกันขนของช่วยเฮียสังข์ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ )ขึ้นบนรถยนต์กระบะเพื่อที่จะนำไปส่งที่ร้านคูณสามในสาขาจังหวัดสุรินทร์ แต่ไม่รู้ว่า นายบอย น้องเขยใหม่ที่พึ่งแต่งงานกับน้องสาวเฮียสังข์ได้ไม่นานมานี้ เดินเข้ามาใช้ปืนยืนยิงไปที่ตัวเฮียสังข์ที่กำลังยืนจัดของอยู่บนท้ายกระบะจำนวนหลายนัดจนเฮียตกลงมาจากรถนอนนิ่งอยู่ต่างคนก็ต่างวิ่งหนีหลบไปคนละทาง ก่อนที่น้องสาวเฮียจะวิ่งเข้ามาห้าม และพากันนำตัวเฮียส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ด้านพ.ต.ท.พรเทพ พันธุ์ฤกษ์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้รับแจ้งและได้นำชุดสืบสวนลงพื้นที่พร้อมชุดพิสูตรหลักฐาน เพื่อเก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะควบคุมตัวนายดิเรก มะลิวิลย์ อายุ 33 ปี หรือบอย ผู้ต้องหาซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยผู้ถกยิง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ 18/3 ม.5 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่
เบื้องต้นจากการสอบสวน นายบอย ได้อ้างว่าก่อนที่ตนเองเพิ่งแต่งงานกับน.ส.บี นามสมมุติ ที่เป็นอดีตลูกสจ.ดังเขตอ.เมืองชัยภูมิ ที่เพิ่งเสียชีวิตด้วยอาการเจ็บป่วยได้ไม่นานมานี้เพราะรักชอบมานาน โดยหลังจากแต่งงานก็เข้ามาช่วยธุรกิจของครอบครัวของภรรยาขายของพลาสติกและวิ่งส่งของในทุกวัน แต่กลับถูกพี่ชายหรือพี่ของภรรยาอดีตสจ.ดัง มักพูดดูถูกหยามน้ำใจในเรื่องลูกผู้ชายมาตลอด และดูเหมือนพี่ชายภรรยาคิดจะครองมรดกทั้งหมดเพียงคนเดียว แม้กระทั่งปืน.38ที่ก่อเหตุก็เป็นของพ่อตาอดีตสจ.ที่เพิ่งป่วยเสียชีวิตไป ก็ยังจะมาขอตามคืนจากภรรยาไปอีก จึงตัดสินใจใช้ปืนของพ่อตาอดีตสจ.ที่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดกของภรรยายิงพี่เขยดังกล่าวในครั้งนี้
ก่อนที่จะทางเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์และญาติโดยละเอียดอีกครั้ง ถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้เพิ่มเติมต่อไป และได้นำตัวนายดิเรก มะลิวิลย์ อายุ33 ปี (บอย) ผู้ต้องหารายนี้ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ซึ่งส่าสุดด้านอาการพี่เขยที่ถูกยิง คือนายสังข์ทอง กระจ่างฤทธิ์ อายุ 46 ขณะนี้อาการสาหัสเพราะถูกคมลูกกระสุนปืนยิ่งเข้าที่ชายโครงทั้ง2ข้างและท้องอีกรวม3นัด แพทย์ยังคงเร่งยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถและต้องคอยดูแลใกล้ชิดจากแพทย์ตลอด 24 ชม.ในห้องไอซียูอาการยังน่าห่วงไม่ได้สติเป็นตายเท่ากัน
