ชัยภูมิ – นักดื่มหนักช่วงสงกรานต์ เพื่อป้องปราบสร้างความเข้าใจต่อคนในชุมชนนักดื่มในแต่ละพื้นที่ให้มากขึ้น หากเมาไม่ควรออกมาขับขี่รถโดยเด็ดขาด หลังทุกภาคส่วนในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ปีนี้เสนอเตรียมความพร้อมเข้มร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงเข้มช่วยกันลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปีนี้ให้ลดลงให้ได้ เสริมมาตรการเข้มด่านตรวจหน่วยจับความเร็วก่อนถึงโค้งอันตรายที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากทุกปี รุกสร้างด่านชุมชนเข้มแข็ง ทั่วจังหวัดทั้งด่านหลักด่านรองกว่า 100 จุด เริ่มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านมาเที่ยวสงกรานต์ที่ด่านครอบครัวช่วยกันปลุกจิตสำนึกใครเมาไม่ควรปล่อยออกมาขับขี่ ด่านชุมชนช่วยเสริมตักเตือนอีกทางชั้นที่ 2 และด่านตีวงเหล้า ที่จะมีชุด จนท.ตร.เคลื่อนที่เร็วกว่า 33 หน่วยกระจายทุกอำเภอ ออกไปตรวจสอบการตั้งกลุ่มนักดื่มเสี่ยง เพื่อป้องปราบและหากมีอาการเมาสุราไม่ควรออกมาขับขี่รถโดยเด็ดขาด จำเป็นจะต้องใช้ด่านดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาด ซึ่งหวังว่าประชาชนทุกภาคส่วนจะให้ความสำคัญช่วยกันลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปีนี้ให้น้อยลงได้!
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 เม.ย.62 ที่ ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจผู้ธรจ.ชัยภูมิ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ นายกรกต ธำรงวงศ์สวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิพร้อมด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนมูลนิธิฯต่างๆในจ.ชัยภูมิ และพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ร่วมกันบันทึกข้อตกลง ( MOU ) ความร่วมมือภาคีเครือข่าย การอำนวยความสะดวกจราจรป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562
ข่าวน่าสนใจ:
และตัวแทนกรมขนส่งทางบก นางผุสดี ศรีสกุลไทย ขนส่งจ.ชัยภูมิ ร่วมมอบกล้องตรวจจับความเร็วให้กับตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ นำไปใช้งานเสริมมาตรการช่วยกันป้องกันแก้ไขปัญหาลดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ในปีนี้ที่จ.ชัยภูมิให้ลดน้อยลงให้มากขึ้นกว่าทุกปีด้วย
ก่อนที่นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ และนางผุสดี ศรีสกุลไทย ขนส่งจ.ชัยภูมิ จะเดินทางนำส่งมอบกล้องตรวจจับความเร็วไปประจำในจุดด่านตรวจ จุดบริการประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ที่มีการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด และมักเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตบ่อยครั้งก่อนที่จะถึงจุดเสี่ยงโค้งอันตราย หรือ โค้ง 100 ศพ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ทั้งหมด โดยเฉพาะในจุดหลักๆ บนถนนทางหลวงหมายเลข 201 สีคิ้ว-ชัยภูมิ ซึ่งเป็นถนนสายมิตรภาพเชื่อมจากจ.นครราชสีมา เป็นประตูสู่อีสานเชื่อมจากภาคกลาง กรุงเทพฯมาที่จ.นคราชสีมา และต่อมาที่จ.ชัยภูมิ
โดยนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทางจ.ชัยภูมิ ที่มีการติดตามประเมินผลในการที่จะหาแนวทางลงมาช่วยกันแก้ไขปัญหาการช่วยการลดอุบัติเหตุให้ต่อเนื่องมากขึ้น ซึ่งมีจุดอันตรายที่โค้งกุดละลม ต.หนองนาแซง และโค้งสามเกลอ ก่อนถึงทางโค้งอ.เนินสง่า เชื่อมต.บ้านค่าย องเมืองชัยภูมิ ที่มักมีผู้ขับขี่รถมาด้วยความเร็วก่อนถึงโค้ง และเกิดอุบัติเหตุหลุดโค้ง ลื่นมีรถตกถนนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากมาแล้วนับ 100 ศพ ที่ครั้งนี้ทางแขวงการทาง และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจ.ชัยภูมิ ขอเน้นย้ำฝากเตือนประชาชนที่สัญจรใช้เส้นทางผ่านไปมาในช่วงาสงกรานต์ปีนี้ ควรช่วยกันลดหรือชะลอความเร็วในจุดนี้ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งทางจ.ชัยภูมิ จุดมีด่านจุดเสริมเข้ามาตรวจจับความเร็วก่อนที่จะถึงจุดโค้งอันตรายภายในจ.ชัยภูมิ ปีนี้ในทุกพื้นที่อย่างเข้มมากขึ้นด้วย
รวมทั้งนอกจากนี้ในปีนี้ทางจ.ชัยภูมิ ที่ได้มีการทุกภาคส่วนมาร่วมลงนาม MOU บันทึกข้อตกลงเข้มช่วยกันลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปีนี้ให้ลดลงให้ได้ และจะมีการเสริมมาตรการเข้มด่านตรวจหน่วยจับความเร็วก่อนถึงโค้งอันตรายที่มีทุกจุดในจังหวัดด้วย และการปฏิบัติการเชิงรุกสร้างด่านชุมชนเข้มแข็ง ทั่วจังหวัดทั้งด่านหลักด่านรองที่มีรวมกว่า 100 จุด เริ่มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านมาเที่ยวสงกรานต์ที่จะต้องมีด่านครอบครัวที่อยู่ใครตัวประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เมื่อรู้ว่ามีใครเมาไม่ควรปล่อยออกมาขับขี่ ต่อมาก็จะด่านชุมชนช่วยเสริมตักเตือนอีกชั้นที่ 2 และด่านตีวงเหล้า เมื่อออกมาเที่ยวแล้ว และมีการรวมกลุ่มดื่มที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
“ที่จะมีชุด จนท.ตร.เคลื่อนที่เร็วอีกกว่า 33 หน่วยกระจายไปทุกอำเภอ ออกไปตรวจสอบการตั้งกลุ่มนักดื่ม เพื่อป้องปราบและหากมีอาการเมาสุราไม่ควรออกมาขับขี่รถโดยเด็ดขาด ที่ด้านสุดท้ายก็จำเป็นจะต้องใช้ด่านมาตรการเอาผิดทางกฎหมาย ที่ไม่ใช่แค่บอกว่าเมาแล้วออกมาขับ แต่เมาออกมาขับไม่ใช่แค่ใครจะบอกว่าล้มแล้วเจ็บคนเดียวได้ แต่เมาแล้วขับขี่ไปจนคนเสียชีวิต ก็เป็นการสร้างปัญหาสร้างอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์ของคนในสังคมตามาได้อีกจำนวนมาก จึงหวังว่าชาวบ้าน ประชาชนทุกภาคส่วนในจ.ชัยภูมิ จะช่วยกันให้ความสำคัญช่วยกันลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ปีนี้ให้น้อยลงมากขึ้นได้”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: