ชัยภูมิ – หลังเขม่นกันระหว่างเล่นน้ำสงกรานต์ พากันก่อเหตุทำร้ายอีกฝ่ายได่รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวนำส่งรพ.ยังไม่หนำใจ พาพวกนับสิบตามาไล่มาทำร้ายไล่ตีไล่ต่อยกันอย่างอุกอาจต่อหน้าจนท.ตร.ถึงในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลแก้งคร้อ ซ้ำอีกจนเจ้าหน้าพยาบาลต้องพากันวิ่งหลบการถูกลูกหลงกันอลหม่าน!
( 14 เม.ย.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ หลังได้มีเฟชบุ๊ก Chaiyaphum City : ชัยภูมิ เมืองต้องห้ามพลาด และเพจคลิปดังเฟชบุ๊ก ได้แพร่ภาพกลุ่มวัยรุ่นยกพวกตีกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ในบริเวณนี้ก็ไม่กลัว อยู่ที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลแก้งคร้อ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ในวันสงกรานต์เมื่อช่วงค่ำวันที่ 13เม.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่งล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก้งคร้อ เตรียมรวบรวมหลักฐานตามภาพในคลิปเพื่อออกหมายเรียกหัวโจกและผู้เกี่ยวข้องที่รวมก่อเหตุในครั้งนี้ของกลุ่มชายวัยรุ่นกว่า 10 คน มาดำเนินคดีต่อไป หลังยกพวกรุมชกต่อยกันที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลแก้งคร้อ จนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องวิ่งหลบหนีหลบถูกลูกหลงกันอลหม่านทั้งโรงพยาบาล จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกกำลังเสริม เข้ามาระงับเหตุการณ์ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นจะแตกวงพากันวิ่งหลบหนีออกจากบริเวณโรงพยาบาลไป
โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.แก้งคร้อ ที่เร่งกระจายกำลังออกติดตามทราบว่ากลุ่มวันรุ่นทั้ง 2 กลุ่มนี้ ได้มีเรื่องทะเลาวิวาทกันขณะเล่นน้ำสงกรานต์ที่บริเวณถนนแก้งคร้อ-ชัยภูมิ ในเขตเทศบาลแก้งคร้อ โดยคู่กรณีได้รับบาดเจ็บ 1 คน ถูกนำตัวมารับการรักษาที่รพ. จากนั้นกลุ่มวันรุ่นคู่อริก็ยังไม่ยอมตามมาที่โรงพยาบาลอีก ดังปรากฎภาพในคลิปอย่างที่เห็น
ซึ่งล่าสุด พ.ต.อ.สุธีภัทร์ วชิรโชติกุล ผกก.สภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ออกหมายเรียกกลุ่มวัยรุ่นที่รวมก่อเหตุทั้งหมดแล้วรวมจำนวน 10 คน พร้อมจัดชุดตำรวจชุดสืบสวนได้ออกติดตามตัวหัวโจกและกลุ่มวัยรุ่นที่รวมก่อเหตุเป็นการด่วนและคาดว่าจะได้ตัวทั้งหมดในเร็วๆนี้
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะนั้นทางโรงพยาบาลกำลังให้การรักษากลุ่มวัยรุ่นจำนวน 1 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท ขณะเล่นน้ำสงกรานต์ บริเวณแก้งถนนชัยภูมิ-แก้งคร้อ ในเขตเทศบาลแก้งคร้อ ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่พยาบาลกำลังทำการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มขับขี่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์นับสิบคันตามมา ก่อนที่จะบุกเข้าไปรุมทำร้ายกลุ่มวัยรุ่นที่รักษาตัวก่อนหน้า ทำให้แพทย์ และพยาบาลที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างพากันวิ่งหลบการถูลูกหลงเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และล็อคประตูห้องเพราะเกรงจะได้รับอันตราย ในครั้งนี้ที่ถือว่าเป็นการก่อเหตุอุกอาจมาก ซึ่งจะได้เร่งควบคุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วตามกฏหมายต่อไป
