ชัยภูมิ – วอนขอความเป็นธรรม! เผยถึงลูกจะชอบแข่งรถแต่ก็ไม่น่าจะทำกันรุนแรงถึงขนาดตามไล่ยิงกันจนเสียชีวิตขนาดนี้ และต้องมาเสียลูกเสาหลักของครอบครัว ซึ่งยันยืนลูกเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องกับใคร และเวลาจะออกไปแข่งรถแต่ละครั้งจะบอกแม่ก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้ลูกไม่ได้บอกเพียงออกไปหาเที่ยวตามประสาเด็กเท่านั้น แต่กลับมาถูกตามไล่ยิงผิดคน ด้านชาวบ้านผู้นำชุมชนในพื้นที่โชว์คลิปที่ถ่ายไว้ระหว่างเด็กตั้งกลุ่มแว้นซิ่งแข่งกันไว้ได้บ่อยครั้งก่อนเกิดเหตุ ยากที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกตรวจตามจับกุมได้ทัน หากเด็กก็ยังวนเวียนกลับออกมาแว้นได้อีกไม่หยุด หากผู้ปกครองคนในครอบครัวไม่ให้ความสำคัญช่วยกันดูแลเด็กและไม่ไปสนับสนุนการแข่งที่ไม่ถูกต้องตามถนนหลวง รับปัญหาเด็กในชุมชนมีการออกมาตั้งกลุ่มรถ จยย.แว้นแต่งซิ่งแข่งกันบนถนนในหลายพื้นที่มีมาในชุมชนมานานยากเกินแก้ ด้านผู้ว่า-ผู้การชัยภูมิ เสริมมาตรการเข้มสั่งล้อมคอกเด็กแว้นทุกพื้นที่ตั้งแต่สถาบันครอบครัวเอง คนในชุมชนหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด พร้อมดำเนินตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดทั้งยึดรถ ผู้ปกครองที่ปล่อยปะละเลยเด็กออกมาแว้นแข่งซิ่ง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก!!!
( 19 มิ.ย.62 ) ความคืบหน้าหลังเมื่อช่วงเวลา 01.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน 2562 ทั้งด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.สาธิต นิติธรธรรมกุล รอง สว.(สอบสวน)สภ.จัตุรัส หลังได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นถูกยิงเสียชีวิตกลางถนนหมายเลข 201 สายชัยภูมิ-สีคิ้ว (ขาเข้าเมืองชัยภูมิ)ช่วงหลัก กม.ที่ 105-106 ช่วงบ้านโคกแพงพวย ตำบลละหาน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
พร้อมสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาต่อเนื่อง หลังมีการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชาย 1 ราย นอนจมกองเลือด สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงลายขาสั้น ทราบต่อมาชื่อนายศราวุธ สอนกอก อายุ 25 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัวใหญ่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ถูกยิงเข้าบริเวณขมับขวา ทะลุท้ายทอยซ้ายนอนจมกองเลือดอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ดรีม สีส้ม-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของผู้เสียชีวิต และ รถจักยานยนต์ฮอนด้าเวพ 100 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ซึ่งเป็นของเพื่อนรุ่นน้องผู้เสียชีวิตอีกคน ที่ยืนรอจนท.ตร.ในที่เกิดเหตุ คือนายชนายุทธ นาทมูล อายุ 19 ปี อาศัยบ้านเลขที่142 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองบัวใหญ่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเองและรุ่นพี่ที่ถูกยิงเสียชีวิต กำลังขับขี่รถ จจย.เพื่อไปหาจะไปนั่งดื่มต่อในตัวเมืองชัยภูมิ แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้จอดรถจักรยานยนต์เพื่อที่จะรอรุ่นน้องที่ตามมาอีก แต่กลับมีกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มมาจอดรถจักรยานยนต์ถามว่าจะไปไหนและรอใคร ก่อนที่จะชักปืนยิงใส่กลุ่มจนนายศราวุธฯ ผู้เสียชีวิตทันที และส่วนตนเองได้ทั้งได้พยายามจะขับรถหนีคมกระสุนรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่กลุ่มคนที่ขี่ จยย.มาด้วยกัน 2 คน จยย.จะพากันขับรถหลบหนีไป
จนล่าสุดเวลา 11.30 น.วานนี้ที่18 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา ทั้งด้านนายณรงค์ วุ่นซิ่ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อม พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ หลังได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สภ.อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ เร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้วประกอบด้วย นายอภิเชษฐ์ ทาสิมมา อายุ 29 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นลูกจ้าง อบต.แห่งหนึ่ง เป็นมือยิง และ นายธนพล จันทร์น้ำใส อายุ 25 ปี เพื่อควบคุมตัวมาสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดเกิดเหตุไปแล้ว
ซึ่งเมื่อเหตุผลในการลงมือตามสังหารครั้งนี้ นายนายอภิเชษฐ์ วัย 29 ปี หนุ่มลูกจ้างอบต.มือยิง กล่าวว่าที่ตนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้เป็นเพราะมีกลุ่มรถจยย.ซิ่งหรือ กลุ่มเด็กแว้นมาใช้จุดหน้าบ้านตัวเองที่อยู่ห่างกันไม่กี่สิบเมตร เพื่อจับกลุ่มกันแข่งรถส่งเสียงดังเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะช่วงกลางดึกจนทำให้ตนไม่ได้หลับไม่ได้นอน อีกทั้งยังส่งเสียงรบกวนชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน และล่าสุดก่อนเกิดเหตุเองลูกก็ไม่สบายนอนไม่ได้ และได้ออกมาหาต่อว่ากลุ่มเด็กแว้นดังกล่าวหลายครั้งแล้ว จนครั้งนี้สุดที่จะทนก่อนที่จะดื่มย้อมใจไป 2 แก้ว ก่อนที่จะไปคว้าปืนสั้น ขนาด .38 ออกมาเรียกเพื่อนที่ทำงานและอยู่บ้านใกล้กันออกมาช่วยกันขับรถพากันไปตามหากลุ่มเด็กแว้นดังกล่าว ก่อนเจอกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่กำลังจอดรถ รอเพื่อนกลุ่มแว้นตามมาอีก จึงลงมือก่อเหตุยิงครั้งนี้ขึ้น
และล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ที่ 19 มิ.ย.62 บรรยากาศทางด้านครอบครัวหนุ่มที่ถูกยิงเสียชีวิตครั้งนี้ได้ พาญาติๆ ครอบครัว มีนายสมชาย สอนกอก อายุ 51 ปี บิดา นางบุปผา สอนกอก อายุ 53 ปี และมารดาผู้ตาย ได้นำพระสงฆ์มาทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณผู้เสียชีวิต กลับบ้าน เพื่อไปประกอบพิธีตั้งศพบำเพ็ญกุศลต่อที่บ้านตนเองที่บ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 5 บ้านหนองไผ่ล้อม ตำบลหนองบัวใหญ่ อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ
ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจต่อครอบครัว จนบิดาผู้ตายที่ยังรับต่อการจากไปของลูกชายครั้งนี้ไปได้ถึงกับเป็นลมล้มพับไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะพยายามลุกขึ้นมาทำพิธีต่อในครั้งนี้จนเสร็จได้
โดยด้านนางบุปผา สอนกอก อายุ 53 ปี มารดาผู้ตาย กล่าวว่า อยากจะขอความเป็นธรรมต่อสังคมในขณะนี้ด้วย ซึ่งลูกไม่ใช่เด็กแว้น แต่ชอบแข่งรถเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่น่าจะทำกันรุนแรงถึงขนาดตามไล่ยิงกันจนเสียชีวิตขนาดนี้ และต้องมาเสียลูกเสาหลักของครอบครัว ซึ่งยันยืนลูกเป็นคนดีไม่เคยมีเรื่องกับใคร และเวลาจะออกไปแข่งรถแต่ละครั้งจะบอกแม่ก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้ลูกไม่ได้บอกเพียงออกไปหาเที่ยวตามประสาเด็กเท่านั้น แต่กลับมาถูกตามไล่ยิงจนเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งครั้งนี้น่าจะเป็นการยิงผิดคน ซึ่งวันเกิดเหตุลูกไม่ได้ออกไปร่วมแข่งรถกับใคร
และส่วนตัวลูกชายเองยังเป็นคนนิสัยร่าเริง ชอบช่วยเหลือคนอื่นเป็นเด็กกตัญญู ถึงอยากให้สังคมเข้าใจและอย่าซ้ำเติมครอบครัวอีกเลยเพราะเสียลูกชายก็เจ็บปวดพอแล้วจึงขอวิงวอนต่อสังคมให้หยุดตอกย้ำบุตรชายว่าเป็นเด็กแว้นในครั้งนี้ด้วย ส่วนเรื่องคดีก็ขอให้เป็นเรื่องหน้าที่เจ้าหน้าที่ที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ขณะที่ในบรรยากาศหลังเกิดเหตุครั้งนี้ขึ้น ทั้งชาวบ้านผู้นำชุมชนในพื้นได้โชว์หลักฐานภาพถ่ายคลิปไว้ได้ในวันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นปัญหาการที่มักจะมีการออกมาจับกลุ่มเด็กแว้นแข่งซิ่งส่งเสียงดังในชุมชนเป็นประจำไว้ได้บ่อยครั้ง ซึ่งคนในพื้นที่หลายฝ่ายให้ความเห็นว่า ปัญหาเด็กแว้นในหลายพื้นที่ขณะนี้ยากที่จะออกตรวจตามจับกุมได้ทัน เพราะเด็กก็ยังวนเวียนกลับออกมาแว้นไม่หยุด หากผู้ปกครองคนในครอบครัวไม่ให้ความสำคัญช่วยกันแก้ปัญหาในเรื่องนี้ให้มากขึ้น และยังมีการไปสนับสนุนการแข่งจยย.แต่งซิ่งที่ไม่ถูกต้องตามถนนหลวง และยอมรับว่าปัญหาเด็กในชุมชนมีการออกมาตั้งกลุ่มรถ จยย.แว้นแข่งซิ่งกันบนถนนในหลายพื้นที่มีมาในชุมชนมานานยากเกินแก้มากในปัจจุบัน
ซึ่งด้านพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ล่าสุดทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้เตรียมมาตรการที่จะเข้ามาช่วยเร่งแก้ไขปัญหา เสริมมาตรการเข้มสั่งล้อมคอกเด็กแว้นทุกพื้นที่อย่างเข้มงวดให้มากขึ้นแล้ว โดยทั้งตำรวจทุกพื้นที่และฝ่ายปกครอง ทหาร ที่ต่อไปจะต้องเริ่มตั้งแต่ สถาบันครอบครัว ที่จะต้องให้ความสำคัญและอยู่ใกล้ตัวเด็กที่สุดเป็นอันดับแรก ต่อมาที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ที่จากนี้ไปจะต้องมีการดำเนินการตามกฏหมายขั้นเด็ดขาดทั้งยึดรถ และผู้ปกครองที่ปล่อยปะละเลยเด็ก ให้ออกมารวมตัวแว้นแข่งซิ่งกันจนเกิดความเดือดร้อนต่อสังคมโดยรวมก็ต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทั้งหมดด้วย ซึ่งไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: