ชัยภูมิ – ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ยังหลบหนีไปได้อีกราย ตร.เร่งจัดชุดไล่ล่าต่อเนื่อง เบื้องต้นยึดของกลางมาได้กว่า 2 พันเม็ด พร้อมสมุดบัญชีธนาคารเตรียมยึดทรัพย์สินที่ได้มาจาการค้ายาบ้าอีกเพียบ!!!
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 28 ก.พ.61 พ.ต.อ.วงศ์ศักดิ์ วงษ์สามี ผกก.สภ.เทพสถิต ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.อิศรา บัวนารถ รอง ผกก.สส. พร้อมด้วยพ.ต.ท.สุราษ แก้ววังปา สว.สส.สภ.เทพสถิต ได้ระดมสนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ออกตรวจค้นกลุ่มต้องสงสัยเป็นเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่อ.เทพสถิต
จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมยึดของกลางทั้งยาบ้าและยาไอซ์ จำนวนมากกว่า 2,000 เม็ด หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักรอบนำบ้ามาจำหน่ายอยู่ในหมู่บ้านซับมงคล ม.8 ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิจึงระดมสนธิกำลังเข้าร่วมตรวจสอบและกับกุมได้ครั้งนี้
ที่บริเวณบ้านเลขที่ 235 บ้านซับมงคล ม.8 ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ หลังจนท.ได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพบกับผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 100 สีแดงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับสวนทางผ่านมาและมีท่าทางมีพิรุธ
ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายกฤษฎา(กฤษ) เฮงเจริญวุฒิวงษ์ ซึ่งมีนายฤทธิเกียรติ (วาย) โพธารินทร์ นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน 2 คน ทางจนท.พบว่าทั้ง 2 คน เคยมีประวัติถูกจนท สภ.เทพสถิตจับกุมในคดียาเสพติดจึงได้เรียกส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้นแต่ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน กลับได้เร่งเครื่องขับรถจยย.หลบหนี จนท.ฯได้เร่งติดตาม ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน จึงได้รีบจอดรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในบริเวณป่าหน้าบ้านของนายกฤษฎา จนท.ฯจึงวิ่งสกัดไล่จับนายฤทธิเกียรติ (วาย) โพธารินทร์ได้ตัวในเบื้องต้นแล้ว ส่วนนายกฤษฎา ยังหลบหนีไปได้ และอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวของจนท.อย่างกระชั้นชิด และขยายผล
ในเวลาต่อมา จนท.จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อตรวจค้นที่บ้านของนายกฤษฎา ขณะเข้าตรวจค้นพบนางสุภาพร (น้ำผึ้ง) เปรมปรี อายุ 32 ปี ภรรยาของนายกกฤษฎาเดินอยู่บริเวณหน้าบ้านแต่แสดงอาการพิรุธพยายามจะวิ่งหลบหนีอีก
ทางด้านพ.ต.ท.สุราษ แก้ววังปา สว.สส. สภ.เทพสถิต พร้อมกำลังจนท.ตร.และฝ่ายปกครอง จึงควบคุมตัวสอบสวนจนกระทั่งทางนางสุภาพรฯ ยอมรับสารภาพว่าที่บ้านมีการจำหน่ายยาเสพติดจริงและได้นำ จนท.ชุดจับกุม เข้าตรวจค้นจุดที่ซุกซ่อนยาบ้าภายในห้องนอนและบริเวณบ้าน
ได้ค้นพบ ยาบ้าเม็ดสีส้ม อมแดง กลมแบน ประทับอักษรภาษาอังกฤษ WY อยู่ด้านหนึ่งของเม็ดยา แบ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสเล็กชนิดรูดเปิดปิดปาก จำนวน 1 ถุงเล็ก ตรวจนับได้จำนวนทั้งหมด ๓๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องพลาสติกใสวางอยู่บนที่นอนของน.ส.สุภาพรฯ
และได้ตรวจค้นที่นอกบ้านพบยาบ้าลักษณะ กลมแบน ประทับอักษรภาษาอังกฤษ WY อยู่ด้านหนึ่งของเม็ดยา แบ่งบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำชนิดรูดเปิดปิดปาก จำนวน 2 ถุง และถุงพลาสติกสีน้ำเงินชนิดรูดเปิดปิดปาก อีกจำนวน 8 ถุงเล็ก รวมจำนวน10 ถุง ตรวจนับเป็นยาบ้าได้อีก จำนวน 1,980 เม็ด และยาบ้าลักษณะเดียวกันแต่เป็นสีเขียว จำนวน 20 เม็ด รวมสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้าครั้งนี้ได้จำนวน2,030 เม็ด บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษ ซุกซ่อนอยู่ใต้แผ่นไม้ข้างห้องน้ำหลังบ้านดังกล่าว
และยังยึดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีโว สีเทา จำนวน 1 เครื่อง ของนายกฤษฎา เฮงเจริญวุฒิวงค์ ตรวจยึดได้จากน.ส.สุภาพรฯ พร้อมโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ซัมซุง สีดำ ซึ่งเป็นของน.ส.สุภาพรฯตรวจยึดได้จากตัวน.ส.สุภาพรฯจำนวน 1 เครื่องพร้อมสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามบิน (โลตัส ชัยภูมิ) ชื่อบัญชี นายกฤษฎา เฮงเจริญวุฒิวงค์ หมายเลขบัญชี 036-3-95874-5 สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาสะพานเหลือง ชื่อบัญชี น.ส.สุภาพร เปรมปรีดา หมายเลขบัญชี 008-1-14744-2 1เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าพระลาน ชื่อบัญชี น.ส.สุภาพร เปรมปรีดา หมายเลขบัญชี 133-0-42551-1 จึงขอตรวจยึดมาตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ต่อไป
และจากการสืบสวนขยายผลพบว่า ยาบ้าทั้งหมดเป็นของสามีของนางสุภาพร ซึ่งนางสุภาพรยอมรับว่า ตนเองรับยาบ้ามาจากเอเย่นจากต่างจังหวัดอีกทอด
ซึ่งครั้งนี้หลังได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่จับกุมมาได้ มาตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นยังพบว่านางสุภาพรมีฉี่สีม่วง จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดประเภท1ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพสารเสพติดซึ่งนางสุภาพรให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกราย ทางจนท.ตร.จะได้เร่งระดมกำลังติดตามตัวเพื่อจับกุมตัวนายกฤษฎา(กฤษ) เฮงเจริญวุฒิวงษ์ อายุ 25 ปี ตัวการค้ายาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
