ชัยภูมิ – หลังลูกหนี้ที่เป็น ผญบ.คนหนึ่งรายนี้มาหาที่บ้านอ้างขาดเงินที่จำเป็นต้องใช้ด่วน ซึ่งต้องการเงินจำนวน 8 หมื่นนี้ไปทำธุระแค่ 3 วัน ก็จะรีบนำมาตืนให้ทันที แต่เวลาผ่านไปกว่า 4 ปี กลับยังไม่ยอมหาเงินมาคืนให้ได้ จนปัจจุบันทั้งสามีเกิดโรคเครียดหนักเส้นเลือดในสมองแตกจนเสียชีวิต ทั้งตัวป้าวัย 59 ปี ต้องขาดเสาหลักเดือดร้อนหนักต้องเลี้ยงลูกสาวพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เพียงลำพัง ด้าน ผญบ.รายนี้ ออกมายอมรับว่ายืมเงินมาจริง แต่ธุรกิจขาดทุนยับต้องเป็นหนี้สินอีกจำนวนมาก จนปัจจุบันไม่สามารถไปหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ให้ได้ และไม่มีเจตนาจะเบี้ยวแต่อย่างใดแต่ไม่มีเงินไปใช้หนี้ให้ได้จริงๆ และพร้อมรับผิดชอบเตรียมที่จะประกาศขายที่ดินทรัพย์สินที่มีทั้งหมดเพื่อหาเงินไปใช้หนี้กับอีกหลายรายให้ได้ต่อไป!!
( 10 ก.ค.62 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ นางพลอย ทองโคตร อายุ 59 ปี ชาวตำบลท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ออกมาฝากวิงวอนผ่านสื่อมวลชนขอความเป็นธรรมว่า เมื่อประมาณช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา ได้มี ผญบ.บ้านคนหนึ่ง เข้ามาทำทีสร้างความสนิทสนมและคุ้นเคยกับครอบครัวตนเอง จนต่อมาไปมาขอยืมเงินที่บ้านจำนวน 80,000 บาท ซึ่ง ผญบ.คนดังกล่าวบอกว่าจะขอยืมเงินไปทำธุระด่วน และจะรีบนำมาคืนไม่เกิน 3 วัน
แต่จากนั้นมา ผญบ.คนนี้ กลับเงียบหายไปไม่ยอมนำเงินมาคืนให้ตามที่ตกลงกันไว้ ช่วงแรกๆ แต่แรกที่ผ่านมาตนและสามีก็ไปสอบถามติดตามเพื่อขอให้ ผญบ. คนดังกล่าวช่วยเร่งนำเงินจำนวน 80,000 บาทมาคืนแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงบอกเดียววันนั้นวันนี้จะนำมาคืนให้แน่มาตลอด
จนทำให้ตนเองโดยเฉพาะสามีเริ่มเกิดความเครียดหนัก เพราะเงินก้อนนี้เป็นเงินทุนของครอบครัว ถ้าขาดเงินทุนในการนำไปทำไร่มันสำปะหลังและใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งก็ยังต้องมีภาระเลี้ยงลูกสาวที่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีกคน และต่อมาจนถึงช่วงกลางปี 61 ที่ผ่านมา สามีตนเองคือ นายบุญร่วม ทองโครต อายุ 59 ปี ได้ล้มป่วยจนเสียชีวิตด้วยโรคเครียดจัดต่อเรื่องที่เกิดขึ้นจนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต
และหลังจากสามีเสียชีวิตลง ตนเองจึงขาดเสาหลักขาดผู้นำครอบครัว และต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวซึ่งพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่มีรายได้ที่แน่นอน และพยายามหาอาชีพหาเงินมาเลี้ยงลูกพิการพอมีรายได้เล็กๆ น้อยจากการออกไปเก็บเศษฟืนไม้กิ่งไม้ที่ชาวบ้านทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ มาเผาถ่านบรรจุถุงนำไปขายประทังชีวิต ซึ่งตอนนี้ตนเองมีความลำบากมาก จนไม่รู้จะไปพึ่งใครได้แล้ว จึงอยากวิงวอนไปถึง ผญบ.รายนี้ว่าตนเองไม่คิดที่จะประจานใครให้รับความอับอาย แต่ตนเองนั้นมีความลำบากเดือดร้อนมากจริงๆ ในขณะนี้ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็เป็นเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่และที่ตัดสินใจให้ยืมไป ก็เห็นว่าผู้ใหญ่รายนี้เองเดือดร้อน และที่ตนเองออกมาร้องวิงวอนผ่านสื่อในครั้งนี้เพียงเพื่อ อยากให้ได้เงินของตนเองจำนวน 80,000 บาท ที่เคยยืมไปคืนมาเท่านั้น
ซึ่งทางผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ผญบ.รายนี้ เปิดเผยว่า ยอมรับเรื่องที่ตนเองไปยืมเงินจำนวน 80,000 บาทจากนางพลอยกับสามีที่เสียชีวิตไปแล้วเป็นเรื่องจริง แต่ตนเองก็ได้นำไปคืนแล้ว 15,000 บาทและยืนยันว่าไม่เคยคิดที่จะโกงหรือเบี้ยวหนี้แต่อย่างใดซึ่งตนเองก็ได้เจรจากับนางพลอยมาตลอด 4 ปี
โดยตนเองนั้นนอกจากจะเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว ตนยังมีอาชีพรับซื้อสินค้าด้านเกษตรพืชไร่ต่างๆ มีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท แต่ต่อมาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำสินค้าที่ซื้อในราคาสูงแต่ขายได้ในราคาต่ำกว่าทุน ทำให้ตนเองขาดสภาพคล่องหมุนเงินไม่ทัน ซึ่งยังยอมรับอีกว่าตนเองยังเป็นหนี้อีกจำนวนหลายราย แต่ตนเองก็ได้ไกล่เกลี่ยกับเจ้าหนี้ทุกคนและขอเวลาในการขายที่ดินที่มีอยู่เพื่อนำมาใช้หนี้ หรือเจ้าหนี้คนไหนที่ต้องการที่ดินตนเองก็ยินดีจะขายให้ เพื่อที่จะได้นำไปใช้หนี้คนที่เคยยืมมาทั้งหมดต่อไป ซึ่งไม่มีเจตนาไม่เบี้ยวแต่อย่างใด แต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำธุรกิจขาดทุนจนไม่เหลืออะไร และไม่มีเงินที่นำไปคืนใช้หนี้ให้ใครได้จริงๆ ในช่วงนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: