ชัยภูมิ –นักเรียนโรงเรียนวังใหม่พัฒนาอ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ต่อยอดโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ทำสวนเมล่อนในโรงเรียนเป็นต้นแบบสู่ชุมชน เพื่อสร้างรายได้ให้กับเด็กระหว่างเรียนต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 3 และขยายผลช่วยสร้างรายได้มีอาชีพเสริมให้กับคนในชุมชนใช้เป็นแหล่งเรียนรู้
( 13 มี.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ คณะครูนักเรียน นำโดย นายทินกร ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวังใหม่พัฒนา ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เปิดเผยหลังทางโรงเรียนได้ดำเนินงานตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 (สพป.) โดยจัดให้มีกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยมอบหมายให้กลุ่มครูและนักเรียนนำแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พ่อหลวง ร.9 มาฝึกสอนการปลูกทำสวนเมล่อนให้เด็กนักเรียนให้รู้จักการปฏิบัติงานจริง มาต่อเนื่องจนปัจจุบันได้ต่อยอดกันมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมให้กับนักเรียนระหว่างเรียนในครั้งนี้ได้อย่างเกินคาดด้วย
ด้านนายศรันยู อุ่นโคตร ซึ่งเป็นครูประจำวิชาวิทยาศาสตร์ที่ช่วยเข้ามาดูแลโครงการนี้ กล่าวว่า ตนเองได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ ให้วางแผนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการกลุ่มสาระวิชาต่างๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ โดยเน้นนำหลักปรัชญาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ในหลวง ร.9 มาต่อยอด
ตนเองจึงได้ศึกษาประสานหน่วยงานต่างๆ จนได้เข้าร่วมโครงการการปลูกเมล่อนในโรงเรือน ที่สามารถดำเนินการในพื้นที่โรงเรียนได้ และนำความรู้มาทดลองพร้อมไปกับการเรียนการสอนให้กับนักเรียน ตามกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2560 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ เป็นการปลูกเมล่อนที่ได้ผลเกิดคาด เป็นรุ่นที่ 3 และสิ่งที่เป็นผลพลอยได้ตามมายังสามารถสร้างรายได้ให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ และมีผู้จองผลผลิตเมล่อนของโรงเรียน ตั้งแต่ยังไม่ออกผล เป็นจำนวนมาก ทำให้นักเรียนมีความสนใจและใส่ใจนำไปเผยแพร่สู่ชุมชน และสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดีอีกทางตามมาอีกเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ด้วย
โดยจุดเด่นของเมล่อนของโรงเรียนวังใหม่พัฒนา ที่มีผู้สนใจจองเป็นจำนวนมากก็คือ รสชาติที่มีความหวาน กรอบ หอมอร่อยพิเศษกว่าที่อื่นๆ โดยมีการนำ เทคนิคการดูแลให้อาหารทางระบบน้ำหยด ที่นักเรียนได้เรียนรู้ช่วยกันได้นำถังไปวางไว้ที่สูง ผสมอาหารปุ๋ยเข้าไปในถังที่เราเตรียมไว้ ถึงเวลาให้อาหาร รดน้ำ เด็กนักเรียนก็เปิดวาล์วน้ำ ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าใดๆ ทำให้ประหยัดต้นทุนการใช้พลังงาน พร้อมทั้งเป็นการสร้างรายได้ให้นักเรียนระหว่างเรียนในครั้งนี้เกินความคาดหมายอีกจำนวนมากตามมาในครั้งนี้ด้วย
