ชัยภูมิ – ชาวบ้านต่างแตกตื่นช่วยกันออกมาขนของหนีเร่งช่วยกันดับไฟวุ่นอลหม่านทั้งชุมชน!
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 4 เม.ย.61 ขณะที่นายทรงศิลป์ ชื่นเมืองปัก นายกอบต.ตำบลหนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 10 ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ป่าอย่างรุนแรงที่บริเวณป่ายูคาฯเป็นเวลากว้างกว่า 20 ไร่และไฟกำลังลุกลามเข้ามาใกล้บ้านเรือนคนชุมชนจำนวนมากกว่า 10 หลังคาเรือน ชาวบ้านได้ช่วยกันดับไฟแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้จึงขอให้ทางอบต.หนองไผ่ เร่งประสานช่วยเหลือนับสนุนรถดับเพลิงมาเข้าช่วยสกัดไฟป่าเป็นการด่วน
หลังรับแจ้งจึงได้มีคำสั่งให้จนท.หน่วยบรรเทาสาธารณะภัยของอบต.นำรถดับเพลิงจำนวน 2 คันและขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากอบต.ใกล้เคียงอีก2คันเร่งระดมมาช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟ ในที่เกิดเหตุที่กำลังลุกไหม้ใกล้เผาบ้านเรือนชาวบ้านอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง
ในขณะเดียวกันชาวบ้านต่างขนของของออกจากบ้านผู้เฒ่าผู้แก่หนีตายกันอย่างจ้าละหวั่นและบางส่วนคนหนุ่มสาวในชุมชน ได้ช่วยกันนำน้ำหิ้วใส่ถังช่วยกันสาดสกัดไฟที่กำลังจะลามเข้าบ้านอย่างอลหม่านวุ่นไปทั้งวชุมชนอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง ไฟป่าครั้งนี้จึงสามารถควบคุมให้ไฟสงบลงไว้ได้ อย่างหวุดหวิดที่ยังโชคดีที่ไม่มีบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายในครั้งนี้ไปด้วย
จากการสอบถามนางทองจันทร์ จารีย์ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่132 ม.10 ตำบลหนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านซึ่งเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ที่เกือบโดนไฟไหม้บ้านครั้งนี้ซึ่งรอดมาได้อย่างหวุดหวิด กล่าวว่าขณะที่ตนเองกับสามีกำลังจะรับประทานอาหารเที่ยงจู่ๆก็ได้กลิ่นควันไฟลอยมาทางด้านหลังบ้านพร้อมกับได้ยินเสียงชาวบ้านเอะอะโวยวายร้องตะโกนว่าไฟไหม้ๆตนกับสามีจึงรีบวิ่งออกไปดูก็พบว่าไฟกำลังจะลามเข้ามาในตัวบ้านชาวบ้านหลายคนที่ตั้งอยู่ใกล้กันครั้งนี้กว่า 10 หลังคาเรือน
จึงช่วยตักน้ำในโอ่งช่วยกันสาดสกัด และใช้ไม้กวาดช่วยกันเข้าไปตีห้ไฟดับ แต่ก็สกัดไม่อยู่จนได้แจ้งไปขอความช่วยเหลือจาก อบต.และรถดับเพลิงดังกล่าวมาช่วยไม่ให้ไฟไหม้บ้านในครั้งนี้ไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิด
ด้านนายอุดม ธรรมอินราช อายุ 70 ปี บ้านเลขที่120หมู่ที่10ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เล่าอีกว่าบ้านตนเองก็เกือบโดนไฟเผาซึ่งช่วงไฟไหม้ก็อยู่กับยาย(ภรรยา)เพียง2คน ไฟลามมาอย่างรวดเร็วใกล้ถึงตัวบ้านจึงใช้สายยางฉีดน้ำสกัดไว้ซึ่งโชคยังดีที่เจ้าหน้าที่มาช่วยดับเพลิงได้ทัน
และสาเหตุไฟไหม้ป่าในครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือชาวที่ไปเผาหญ้า หรือกองไฟทิ้งไว้ในป่ายูคาใกล้หมู่บ้านแล้วไฟเกิดลุกลามมา แต่ก็ไม่ทราบวัตถุประสงค์ว่าไปเผาไฟป่าครั้งนี้เพื่ออะไร ซึ่งเสี่ยงอันตรายมากเพราะป่าแห่งนี้อยู่ใกล้ชุมชนบ้านเรือนชาวบ้านอยู่กันหลายหลังคาเรือน จึงอยากฝากวิงวอนอย่าจุดไฟเผาป่าในช่วงนี้เลยเพราะอากาศร้อนมีหญ้าแห้งจำนวนมากอาจควบคุมไฟได้ยากและอาจจะเกิดความเสียหายรุนแรงกับชุมชนอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: