ชัยภูมิ – ซึ่งหลังถูกจนท.ล้อมจับตัวหลังก่อเหตุไว้ได้ ยังนั่งนิ่งนั่งเหม่อลอยไม่ยอมพูดกับใคร ตร.พบประวัติเหตุเป็นคนสติไม่สมประกอบครั้งนี้เนื่องเคยตกเป็นทาสยาจนสติฟั่นเฟือนมาแล้ว ก่อนที่จะมาเกิดอาการคลุ้มคลั่งไล่จับพระฆ่าบาดคอโหดในครั้งนี้!
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 17 เม.ย. 2561 พ.ต.อ.บัญชา ไพรินทร์ ผกก.สภ.หนองบัวโคก พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุทัศน์ ชัยสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน)สภ.หนองบัวโคก รับแจ้งเหตุ มีบุคคลกำลังคลุ้มคลั่งใช้มีดไล่ทำร้ายร่างกายพระภิกษุอยู่ภายในวัดป่าบ้านนา ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมแจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมจัตุรัส แพทย์โรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมดไปถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าพระดังกล่าวได้ถูกทำร้ายจนมรณภาพอยู่ข้างกุฏิภายในวัดดังกล่าวแล้ว ในสภาพคอถูกของมีคมเชือดลึกเข้าไปถึงหลอดลมจนคอหวิดขาด และ สภาพศพยังถูกรอยมีดแทงบริเวณหน้าอกตามร่างกายรวมอีก 8 แผล ทราบต่อมาชื่อพระวันชัย เพรชน่วม อายุ 63 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 33/992 หมู่ที่ 8 ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
สอบถามไปยังพระสนิท เอียงจัตุรัส เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ตนได้อยู่ในกุฏิวัด ได้ยินเสียงเอะอะ เสียงดัง มาจากกุฏิวัดฝั่งตรงข้าม จึงออกมาดู พบชายคุ้มคลั่งกำลังลากพระที่มรณะลงมาจากกุฏิ ก่อนกระหน่ำแทง และ ปาดคอ จนพระดังกล่าวมรณภาพ จึงได้แจ้งรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วย
ก่อนที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งช่วยกันออกตามหาตัวผู้ก่อเหตุฆ่าพระรายนี้ หลังทราบมาว่าชื่อนายลำดวน แยกจัตุรัส อายุ 55 ปี ที่หลังก่อเหตุหนีหลบเข้าไปอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 39/6 หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านขาม อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งอยู่บ้านในระแวกใกล้วัด เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังออกเข้าปิดล้อม เข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด ก่อนที่จะนำตัวมาสอบสวน แต่ผู้ประกอบเหตุไม่ยอมเปิดปากพูดกับทั้งเจ้าหน้าที่ และทั้งญาติของทางฝ่ายตนเองเลยแต่อย่างใด ว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นทำไมต้องฆ่าพระในครั้งนี้
ทั้งนี้ ทางด้านนางสุชิน เพรชน่วม อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นญาติโยมที่สนิทกับพระที่ถูกฆ่ามรณภาพ ได้บอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่า พระองค์ดังกล่าวเป็นพระที่เพิ่งย้ายมาจากวัดอื่นที่มาอยู่จำวัดอยู่ที่นี่ไม่นาน ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นพระที่ดี เก็บกวาดถูลานวัดอยู่อย่างสม่ำเสมอ และน่าจะมาจากสาเหตุผู้ที่ก่อเหตุรายนี้เป็นคนที่สติไม่ดี และน่าจะไม่เคยเห็นหน้าพระรูปดังกล่าวมาก่อน เพราะเพิ่งมาอยู่ใหม่ น่าจะเกิดอาการหลอนคลุ้มคลั่ง จนเป็นเหตุดังกล่าวที่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ฆ่าโหดพระครั้งนี้ได้
ด้าน พ.ต.อ.บัญชา ไพรินทร์ ผกก.สภ.หนองบัวโคก หลังรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมและส่งศพไปชันสูตรอีกครั้ง ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหารายนี้ไปสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งเพราะดำเนินคดีต่อไปเพราะขณะนี้ผู้ก่อเหตุรายนี้ยังนั่งนิ่งไม่ยอมพูดกับใครหรือยอมให้ปากคำให้การใดๆต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใดเลย ซึ่งเบื้องต้นผู้ก่อเหตุรายนี้เคยมีประวัติเรื่องเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้เสพยาเสพติดจนสติไม่ค่อยสมประกอบ และน่าจะมาเกิดอาการประสาทหลอนจนคุมสติไม่อยู่เกิดอาการคลุ้มคลั่งฆ่าโหดพระดังกล่าวครั้งนี้
