ชัยภูมิ – ทั้งยังเป็นย่านกลางตัวเมืองห่างจากโรงพยาบบาลและหน้าที่ว่าการอำเภอ อีกเพียงกว่า 100 เมตร สองโจ๋ยังกล้าเหิมหนัก ควงอาวุธปืนคนละกระบอก ขี่จยย.ตามไล่ยิงล้างแค้นกลุ่มคู่อรินับสิบดังสนั่นเมือง จนมีชาวบ้านใกล้เคียงถูกลูกหลงถูกยิงเจ็บ 1 ราย ก่อนที่กล้องวงจรปิดจะจับภาพขณะก่อเหตุไว้ได้ ตร.เร่งไล่ล่าข้ามคืนยันรุ่ง!!
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 18 ก.ย.62 พ.ต.อ.สุธีพัฒน์ วชิรโชติสกุล ผกก.สภ.แก้งคร้อ สั่งเร่งระดมชุดสืบสวนสอบสวน และชุดป้องกันและปราบปราม สภ.แก้งคร้อ ออกเร่งคลี่คลายคดีหลังรับแจ้งเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนไล่ยิงคู่อรินับสิบคน มาตั้งแต่ช่วงกลางดึก 00.30 น.วันที่ 18 ก.ย.62 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าโรงพยาบาลแก้งคร้อ ริมถนนสาย 201 ชัยภูมิชุมแพ จับภาพขณะก่อเหตุไว้ได้ ขณะที่มี 2 วัยรุ่น ขับขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน และมีการพกอาวุธปืนสั้นคนละ 1 กระบอก ขับขี่ไล่ตามจอดวิ่งไล่ยิงคู่อริ ที่พากันวิ่งหนีตายกันแตกกระเจิงข้ามฝั่งถนนอีกฝั่งไปคนละทิศละทาง
ข่าวน่าสนใจ:
แต่คมกระสุนพลาดไปโดนชาวบ้านใกล้เคียง ขณะขับขี่รถ จยย.ผ่านมา ซึ่งวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้ง 2 คนครั้งนี้ยังมีการยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหลายนัดจนชาวบ้านใกล้เคียงพากันแตกตื่นไปทั่ว ก่อนที่ 2 วัยรุ่นจะขับรถ จยย.หลบหนีออกจากพื้นที่ มุ่งหน้าไปทาง ถนนสายแก้งคร้อ ผ่านไปทางอำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น
จนช่วงเช้าวันนี้ ชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.แก้งคร้อ นำโดย พ.ต.ท.บรม ศรีสงค์ รองผู้กำกับสืบสวน ลงพื้นที่ หาเบาะแสจากภาพหลักฐานในกล้องวงจรปิด จนพบว่าทั้ง 2 วัยรุ่นที่ก่อเหตุว่าเป็นใครแล้ว ก่อนเร่งนำกำลังเข้าจับกุม 2 วัยรุ่น ได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ
ก่อนที่จะควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ที่ประกอบด้วย นายนคเรศ หรือคิว ท่อนคำ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่ 9 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ และนายธีรภัทร หรือแฟรงค์ บัวแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ที่ 3 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมพาตัวไปยึดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนลูกโม่ ดัดแปลงขนาด .32 มม. ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนขนาดจุด .32 มม. จำนวน 11 นัด ปลอกกระสุนขนาดจุด .32 ที่ใช้ยิงก่อเหตุจำนวน 4 ปลอก และกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอยู่ในลูกโม่ปืนดังกล่าวอีก 5 ปลอก และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขับไปก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าสีดำ รุ่น MSX ทะเบียน กฉ 8542 ชัยภูมิ เพื่อยึดไว้เป็นหลักฐานอีก 1 คัน
ก่อนที่ในช่วงเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนประกอบคำสารภาพในจุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มตนเอง 2 คน ได้ไปเที่ยวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอแก้งคร้อ และไปพบกับกลุ่มคู่อริ นั่งรับประทานอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะมีปากเสียงกันผู้ต้องหาทั้ง 2 จึงขับรถออกมาจากร้านเพื่อไปเตรียมหาอาวุธปืนดังกล่าวมา
เพื่อตามหากลุ่มอริดังกล่าว ซึ่งมาตามมาที่ร้านอีกครั้งร้านอาหารดังกล่าวได้ปิดไปแล้วช่วงใกล้เที่ยงคืนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาจึงทั้ง 2 คน จึงได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ ตามตระเวณหากลุ่มคู่อริ จนมาถึงบริเวณริมถนนหน้าโรงพยาบาลแก้งคร้อ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จึงรีบขับรถ จยย.เข้าไปจอดประกบกลุ่มอริและได้ชักปืนออกมา วิ่งตามกระหน่ำยิงกลุ่มคู่อริไปหลายสิบนัดแบบไม่ยั้ง จนกลุ่มคู่อริพากันวิ่งหนีแตกกระเจิงไปกันหมด
โดยครั้งนี้ไม่มีคู่อริรายใดถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่คมกระสุนพลาดไปถูกชาวบ้านใกล้เคียงที่เกิดเหตุ คือ นางบุญส่ง ชาวสวน อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับบาดเจ็บ คมกระสุนเฉียดร่างบาดเจ็บเล็กน้อยทางญาติช่วยนำส่งรพ.แก้งคร้อ ที่อยู่ใกล้กันได้ทัน ที่โชคยังดีคมกระสุนไม่ไปถูกจุดสำคัญของร่างกายได้รับบาดเจ็บไม่มาก ในครั้งนี้โชคยังดีรอดตายมาได้ราวปาฏิหาริย์
ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย หลังก่อเหตุแล้ว ได้ยิงปืนขึ้นฟ้าอีกหลายนัดจนหน่ำใจ และนำอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก ไปโยนทิ้งในสระน้ำที่อยู่ไม่ไกลกันจากที่เกิดเหตุ ก่อนพากันกันหลบหนีไปหลบที่บ้านของตัวเอง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามแกะรอยจากภาพวงจรปิดมัดไว้เป็นหลักฐานชัดเจนขณะก่อเหตุ จนถูกจนท.ตร.ตามมาจับกุมตัวได้ที่บ้านพักตนเองดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.สุธีพัฒน์ วชิระโชติสกุล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุมาตั้งแต่ช่วงกลางดึก เมื่อช่วง 00.30 น.วันที่ 18 กันยายน 2562 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ ว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนยิงกันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณริมถนนสาย 201 แก้งคร้อ-ภูเขียว บริเวณช่วงหน้าโรงพยาบาลแก้งคร้อ หมู่ที่ 1 ตำบลช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเพียงกว่า 100 เมตรและห่างจาก สถานีตำรวจภูธร สภ.แก้งคร้อเพียง 300 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เร่งร่วมกันออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุตามรับแจ้ง จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุที่ใช้อาวุธปืนยิงคือ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จึงได้ร่วมกันออกติดตามผู้ต้องหาทั้งสองอย่างกระชั้นชิดและต่อเนื่องจนสามารถแกะรอยจากภาพกล้องวงจรปิดที่ทำให้รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนชัดเจน จนสามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็วไม่ทันข้ามวันในครั้งนี้ได้ ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จำนนด้วยหลักฐานและยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุลงมือยิงคู่อริตามที่ภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดเอง ส่วนอาวุธปืนสั้นอีกกระบอกหลังก่อนเหตุได้นำไปโยนทิ้งในสระน้ำใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งทางจนท..จะได้ประสานหน่วยประดาน้ำมาช่วยงมหาหลักฐานอาวุธปืนดังกล่าวขึ้นมาต่อไป
ส่วนสาเหตุการก่อเหตุครั้งนิ้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ไปเที่ยวร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตัวอำเภอแก้งคร้อ และไปพบกับกลุ่มคู่อริ นั่งรับประทานอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะมีปากเสียงกันขึ้น ก่อนที่ผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน จะพากับกลับไปนำอาวุธปืนมาตามไล่ยิงล้างแค้นกันดังกล่าวขึ้น ที่ถือว่าครั้งนี้เป็นการกระทำที่รุนแรงอุกอาจมาก เพราะมีชาวบ้านใกล้เคียงที่ผ่านมาถูกลูกหลงถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ส่วนกลุ่มวัยรุ่นอริไม่มีใครถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่โชคยังดีครั้งนี้ยังไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิตจำนวนมาก
ซึ่งจากนี้ไปก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ราย ดำเนินคดีในหลายข้อหาหนัก ทั้งพยายามฆ่า และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาตอย่างผิดกฎหมาย นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: