วันที่13 สิงหาคม 2563 ณ หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดประชุมชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาโดยอาจารย์ ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ประธานนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมฯ)กล่าวโฟนอิน พบกับ พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน เจ้าของฉายา” นายพลคนกล้า ” สถานีโทรทัศน์ ช่อง13 สยามไทย
ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าการเสวนาปัญหาและผลกระทบกรณี โครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณ ปี 2555 (สนามฟุตซอล ) โดยนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร และคณะ ได้มอบเอกสารให้แก่ผู้ร่วมประชุม ในนามชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสรรค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม
ต่อมาได้แสดงพิธีให้สัตย์ปฏิญานต่อแผ่นดิน โดยนายสุรัตน์ มุ่งอิงกลางได้ เชิญอาจารย์ปู่ ดร. ปียะพัชร์ เดชจรรยา และผู้มีเกียรติ ขึ้นเวทีและ ประกอบพิธีอัญเชิญปวงเทพเทวา ครูอาจารย์ ชุมนุมเทวดาอาจารย์ และผู้มีเกียรติ โปรยทรายศักดิ์สิทธิและได้เชิญอาจารย์ (ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ลั่นฆ้องชัย ปี่พาทย์ ประโคม เพลงมหาฤกษ์ผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมร้องเพลงครูในดวงใจ
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม ผอ.โรงเรียนแห่หนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาซึ่งได้โดนคดีฟุตซอล ที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้แล้วพูดด้วยน้ำตานองเต็มตาสองดวงต่อหน้าผู้ที่มาประชุม กล่าวว่าตนนั้นได้ออกจากราชการแล้ว วอนสื่อช่วยพี่ด้วย
แถลงการณ์จากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเสนอผ่าน ท่านวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาด้วยชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรม และสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป มีความห่วงใยประเทศชาติด้วยเกรงว่าจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในสังคม ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ซึ่งสาเหตุมาจาก
ข้อที่ 1 บุคลากรทางการศึกษา คุณครูในจังหวัดนครราชสีมา ได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 7 คน และกำลังจะมีคำสั่งไล่ออกอีกจำนวน 55 ราย ในกรณีสนามฟุตซอลที่เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี
ข้อที่ 2 บุคลากรทางการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ชี้มูลความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษานั้นได้กระทำอย่างไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยมีอคติ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 เป็นการกระทำแบบเหมาเข่ง เหมือนทำตามความต้องการของใคร คนใดคนหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบข้อบังคับใด ๆ ของสังคม อันเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน อย่างสุดแสนที่จะทนได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากของสังคมไทย
ข้อที่ 3 บุคลากรทางการศึกษาที่เดือดร้อนมิได้ร้องขอสิ่งที่เกินไปกว่าสิทธิอันพึงมีของพวกขาคือ “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ว่า “มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้”
ข้อที่ 4 ทางชมรมฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะลุกลามใหญ่โต จะเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เสียภาษีในสังคมได้โปรดพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง, ผู้รับเหมา, คุณครู และอื่นๆเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้จงได้
ข้อที่ 5 พวกข้าพเจ้า จะขอต่อสู้เคลื่อนไหวในทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคมไทย ขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่านี่เป็นคำสั่งที่อัปยศขององค์กร ป.ป.ช. ที่มีต่อบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต
ข้อที่ 6 ตามบทบัญญัติรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215 ได้บัญญัติไว้ว่า องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้น ให้มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจขององค์กรอิสระต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ ในประวัติศาสตร์แห่การรวมพลังต่อสู้อย่างทระนงองอาจ ในอดีตที่ผ่านมาของบุคลากรทางการศึกษาของไทย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วอย่างมากมาย พวกข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าหากปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างทันการณ์ คนไทยอาจได้เห็นปรากฎการณ์เช่นนั้นอีกด้วยความเคารพปรารถนาดีจากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป (ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา) เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ (นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร)ประธานชมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: