วันที่ 2 กันยายน พ.ศ2564มื่อเวลา14.00นณ.. สำนักงาน ปปช ประจำจังหวัดนครราชสีมา 346 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้นายวุฒิชัย อุตราชพนักงานไต่ส่วน ไปรับหนังสือเรื่อง ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อกระบนการยุติธรรมต่อประซาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ในกรณีเจ้าหน้าที่รัฐร่ำรวยผิดปกติและไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้กับ ป.ป.ช.โดยตรงทำให้รัฐเสียหายและเป็น ธรรมเสมอภาคต่อปวงชนชาวไทยจากนายธนภัทร ชองรัมย์ผู้ยี่นหนังสือในครั้งนี้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้าพเจ้านายธนภัทร ซองรัมย์ เบอร์ติดต่อ 094-256-6969 เครือข่ายภาคประซาชนนครราชสีมา ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ 2560 เพิ่มเติมในมาตรา 50(2) มาตรา 63 มาตรา 68 มาตรา 234 และมาตรา 257 และมาตราอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องตามรัฐธรรมนูญรวมถึง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต 2561
ข้อ1 เสนอให้ ป.ป.ช.ปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมาย
ข้อ2 แก้ไขข้อกฎหมายให้เจ้าหน้าที่รัฐยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. โดยตรงทุก1ปี
ข้อ3 ในการแก้ปรับปรุงข้อกฎหมายเพื่อกระบวนการยุติธรรมของประชาชนอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค
ข้อ4 เพื่อการบองการปราบปรามการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐและอาจก่อให้เกิดการเสียหายต่อภาครัฐ
นายธนภัทร ชองรัมย์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าหลักและเหตุผลที่ต้องแก้ไขเพื่อลดความล้ำ ตามที่ในข่าวดังอดีตผกก.บางกลุ่มเงินเดือนเพียง 4 หมื่นแต่ร่ำรวยเป็น 1,000 ล้าน หรือเจ้าหน้าที่รัฐบางคนกรณีไปล่อซื้อน้ำส้มกับแม่ค้าเพื่อแลกผลประโยชน์หรือรางวัลนำจับและข้าราชการระดับบริหารบางโรงเรียน บางคนก็ร่ำรวยผิดปกติซึ่งกฎหมายเดิมไม่ทันการกว่าปปช.จะชี้มูลใช้เวลานานทำให้มีการถ่ายเททรัพย์สินออกนอกระบบหรือการฟอกเงิน ดังเพื่อความเป็นธรรมต่อประชาชนลดความเหลื่อมล้ำ ยิ่งปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้ากระทบเดือดร้อน ตนได้รับร้องเรียนจากพ่อค้าถูกสรรพากรประเมินเกณฑ์การเสียภาษีจากกรณีร้านคนล่ะครึ่ง ซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายดังนั้นกฎหมายปฎิรูปตามมาตรา 257 เกี่ยวกับการทุจริตและกระบวนการยุติธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องยื่นทุกปีต่อปปช.เพื่อความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมเช่นกันอีกด้วย
