พรรครวมไทยสร้างชาติจ. นครราชสีมาเปิดประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติประจำจังหวัดนครราชสีมา สมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมทำไพรมารี่โหวด ผู้สมัครประจำจังหวัด
การเมืองเรื่องเลือกตั้งในเมืองโคราชคึกคัก พรรครวมไทยสร้างชาติ จ.นครราชสีมาเปิดประชุมแต่งตั้งตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติประจำจังหวัดนครราชสีมา สมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติ ณ โรงแรมเคอาร์ นครราชสีมา เพื่อพิจารณาแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดนครราชสีมา นครราชสีมา พร้อมทำไพรมารี่โหวด ผู้สมัครประจำจังหวัดรวม เขตเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2566 ได้มีการจัดประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ณ โรงแรม KR โคราช เวลา10.00 น. พรรครวมไทยสร้างชาติ จ.นครราชสีมามีว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ จ.นครราชสีมา เข้าร่วมประชุมและทำไพรมารีโหวตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ นายชรินทร์ จิตรตรีสินธ์เป็น ประธาน ตัวแทนเขต 1 ประจำจังหวัดนครราชสีมาโดยมีว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง4เขตดังนี้
1.นายอนันตท์ อาบสุวรรณ เขต 1
2.นายธนภัทร ของรัมย์ เขต 2
3.นายศักดา ศรีพรหม เขต 3
4.นายประยงค์ ดอกสันเทียะ เขต 4
5.นายธิติวุฒิ ตั้งก้องเกียรติ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ
มีสมาชิกเข้าร่วมประชุมทั้งหมดกว่า 70 คน นำคณะกรรมการบริหารพรรคฯพร้อมสมาชิกเข้าร่วมประชุมครบองค์ประชุม โดยมีระเบียบวาระสำคัญได้แก่พิจารณาแต่งตั้งตัวแทนพรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.นครราชสีมาประจำจังหวัดนครราชสีมา ในขณะเดียวกันก็ได้มีการทำไพรมารี่โหวด ผู้สมัครประจำจังหวัดนครราชสีมา รวม 4เขตเลือกตั้ง ประกอบไปด้วยเขตเลือกตั้งที่ 1-4 โดยสมาชิกต่างให้ความเห็นชอบยืนยันสถานะของผู้สมัครทั้งสี่ท่าน โดยมีเจ้าหน้าที่จาก กกต.จังหวัดนครราชสีมาที่เดินทางมาสังเกตุการณ์
สำหรับการจัดประชุมก็เพื่อรับฟังความคิดเห็นการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 47 และมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖o และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้พรรคการเมืองต้องรับฟังความคิดเห็นในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2566การพรรคทางเลือกใหม่ได้รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคการเมืองอย่างกว้างขวาง และให้สมาชิกพรรคการเมืองให้ความเห็นชอบให้ผู้สมัครทั้งสองเขตเลือกตั้งลงรับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ได้ตามกฎหมายทั้งนี้ ถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลคนที่มีบัตรลุงตู่จะมีรายได้แน่ ๆ เดือนละ 1,000 บาท และสามารถกู้ฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท ส่วนการผ่อนชำระกับธนาคารออมสินไม่ต้องกังวลว่าเป็นหนี้ศูนย์ เพราะรัฐจะโอนเงินผ่านธนาคารออมสินหักเป็นเงินต้นคืน 500 บาท อีก 500 บาทเข้าบัตรประชารัฐของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านไม่มีภาระหนี้เกิดขึ้นมาใหม่ เมื่อผ่านไป 20 เดือนก็ถือว่าใช้หนี้ได้ทั้งหมดจบกระบวนการทั้งต้นทั้งดอกจะเคลียร์ทั้งหมด หลังจากนั้นชาวบ้านจะกลับมาได้เงินในบัตรประชารัฐอีกเดือนละ 1,000 บาทเหมือนเดิมได้สิทธิ์กลับขึ้นมาใหม่เพราะเป็นไทย ซึ่งนโยบายนี้ได้รับการตอบรับจากประชาชนด้วยดี เพราะเขามีปัญหามากในขณะนี้คือหนี้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยร้อยละ 30-40 บาทต่อเดือน แต่ถ้ารัฐให้เขาได้เข้าถึงโอกาสของแหล่งเงินกู้เขาไม่ต้องเป็นเบี้ยล่างของพวกเงินกู้นอกระบบอีกต่อไป เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านมีปัญหาหนี้นอกระบบโดนรังควานจากพวกนายทุนหน้าเลือด
สำหรับกรณีผู้สูงอายุถ้าพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นรัฐบาลพลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะให้ผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไปคนละ 1,000 บาทเท่ากันทั้งหมดจนถึงแก่กรรม ไม่ต้องรอแบบขั้นบันได รอให้ถึงอายุ 80 ปีถึงจะได้ 800 บาท และเรื่องที่ชาวบ้านสะท้อนให้ฟังอย่างมากคือหนี้ของกองทุนหมู่บ้านที่รัฐบาลในอดีตทำไว้ ตนได้สอบถามในที่ประชุมใครเป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านบ้างปรากฏว่า 80% เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้านทั้งหมด ถามว่าอีก 5 ปีใครจะใช้หนี้หมดได้บ้าง ในที่ประชุมไม่มีใครยกมือสรุปคือ หนี้กองทุนหมู่บ้านในภาคอีสานทั้งหมดเป็นหนี้ที่ตายแล้ว และจะตายไปพร้อมกับคนกู้เพราะเขาไม่มีโอกาสเป็นไทยได้เลย
“สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ มีนโยบายชัดเจนในการที่จะดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยโดยเสนอ ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งโปรดพิจารณา พรรคทางเลือกใหม่ ในวันเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 14พฤษภาคม 2566”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: