ชาวบ้านนับร้อยใน 3 ตำบล ของ อ.หาดสำราญ เดินทางให้กำลังใจนายอำเภอหาดสำราญ หลังถูกกลุ่มชาวบ้านที่ไม่พอใจกรณีนายอำเภอฯตัดต้นไม้ในที่สาธารณะประท้วงขับไล่
เมื่อเร็วๆนี้ ชาวบ้านใน ต.บ้าหวี ต.บ้าหวี และ ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง จำนวน ร่วม 100 คน เดินทางพร้อมนำช่อดอกไม้ และป้ายไวนิลเขียนข้อความให้กำลังใจนายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอหาดสำราญ เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา นายอำเภอหาดสำราญได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตัดต้นไม้ จำนวน 4 ต้น คือ ไม้เคี่ยม จำนวน 2 ต้น ต้นมะม่วง จำนวน 1 ต้น และต้นพันตัน 1 ต้น บริเวณ ในพื้นที่สาธารณะจนสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านบางกลุ่ม
โดยนายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอหาดสำราญ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ก.ค.นั้น ตนใช้อำนาจตามมาตรา 19 พ.ร.บ.ป้องกันภัยพลเรือนปี 2550 สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดต้นไม้จำนวนดังกล่าว เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ทรัพย์สินและชีวิตของประชาชน โดยเรื่องการตัดต้นไม้ดังกล่าว ตนไม่ได้ทำตามอำเภอใจแต่อย่างใด โดยเมื่อวันที่ ตั้งแต่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เมื่อครอบครัวของนางฉิ่ง ใจตรง และนางสมพร ใจตรง อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.3 ต.บ้าหวี อ.หาดสำราญ ซึ่งเป็นครอบครัวที่ได้รับความเดือนร้อนเพราะบ้านอยู่ใกล้กับต้นไม้ทั้ง 4 ต้น ได้ทำหนังสือถึงตนเพื่อขอให้ตัดต้นไว้เนื่องจากรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวต้นไม้ล้มทับบ้าน และตนในได้ทำหนังสือไปตามลำดับ จนนำมาสู่การตนไม้ในครั้งนี้ ซึ่งตลอด 6 เดือน ที่ผ่านมาตนได้ทำตามระเบียบทุกขั้นตอน และมีหลักฐานทุกอย่าง ซึ่งต้นไม้ทั้ง 4 ต้น ได้เก็บไว้ ที่ว่าการอำเภอหาดสำราญ สำหรับไม้เคี่ยม มอบหมายให้นายณหทัย สุนทรนนท์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ยื่นขออนุญาตทำไม้ ณ ศูนย์ป่าไม้จังหวัดตรังตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ตนในฐานะนายอำเภอมีความตั้งใจที่จะแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านทุกคน และตนเองจะตั้งใจทำงาน หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นตนเองก็พร้อมที่จะยอมรับหมด ตนในฐานะคนตรังโดยกำเนิดมีความตั้งใจกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และพัฒนา อ.หาดสำราญในด้านต่างๆ
ด้าน นางฉิ่ง ใจตรง อายุ 68 ปี กล่าวว่า ครอบครัวที่ได้รับความเดือนร้อนเพราะต้องอยู่กันอย่างหวาดกลัวทุกครั้งที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะเกรงว่าต้นไว้ที่อยู่ห่างจากบ้านตัวเองเพียง 5 เมตร จะล้มทับบ้าน ซึ่งบ้านของตนมีสมาชิกอยู่ 8 คน ตนในฐานะชาวบ้านจะตัดต้นไม้เองก็ทำไม่ได้ จึงตัดสินใจขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่บ้าน จนได้มีหนังสือถึงนายอำเภอหาดสำราญเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่ทางนายอำเภอเข้ามาตัดต้นไม้ออกตนเองรู้สึกโล่งใจ เพราะไม่ต้องต้นไม้ล้มทับบ้าน สำหรับคนที่วิพากษ์วิจารการตัดต้นไม้ครั้งนี้ ตนถือว่าทุกคนมีสิทธิคิดได้ แต่ถ้าไม่มีบ้านอยู่ในรัศมีที่เสี่ยงเหมือนครอบครัวของตน ไม่มีทางเข้าใจความเดือดร้อนอย่างที่ครอบครัวตนต้องพบ
