พาณิชย์จังหวัดตรังเร่งตรวจสอบหน้ากากอนามัยที่เริ่มกระจายถึงตรัง แต่ยังไม่เพียงพอ โดยร้านจำหน่ายต้องบริหารจัดการวิธีการขาย เพื่อกระจายสินค้าให้ถึงมือประชาชนมากที่สุดป้องกันการซื้อตุน โดยจำกัดจำนวน และตรวจสอบคนซื้อ ขณะเดียวกันชาวบ้านร้องเรียนพบร้านขายยาบางร้านฉวยโอกาสขายเกินราคาชิ้นละ 20 – 25 บาท ด้านพาณิชย์จังหวัดตรังประชาสัมพันธ์หากประชาชนพบร้านใดมีการกักตุนสินค้า หรือขายเกินราคาขอให้แจ้งมาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
วันที่ 3 มีนาคม 2563 ประชาชนยังคงตระเวนหาซื้อหน้ากากอนามัย เพื่อไว้ใช้เองและจัดส่งไปให้ลูกหลานหรือญาติพี่น้องที่อยู่ในเมืองใหญ่ หลังจากไม่มั่นใจในสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 เนื่องจากในประเทศไทยยังคงทยอยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ประชาชนบางรายร้องเรียนว่ามีร้านขายยาบางแห่งที่ลักลอบขายเกินราคา แต่จำเป็นต้องซื้อในราคาแพงตกชิ้นละ 20-25 บาท เพราะขาดตลาด รวมทั้งร้านสะดวกซื้อต่างๆ เมื่อสินค้ามาถึงเพียงไม่กี่นาทีก็หมด ทำให้ประชาชนต้องตระเวนหาซื้อจากร้านธงฟ้าประชารัฐ ที่ขณะนี้สินค้าเริ่มทยอยเดินทางมาถึงแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัดตรัง นำโดยนางรพีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ พาณิชย์จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ พบว่าเมื่อทางร้านได้รับการจัดสรรสินค้ามาก็นำมาแยกทำเป็นแพ็กขายในราคาเป็นธรรม โดยขายในราคาชิ้นละ 2.50 บาทเท่ากันทุกร้าน แต่ทางร้านจะทำเป็นแพ็กจำหน่าย เช่น แพ็กละ 15 บาท บรรจุจำนวน 6 ชิ้น หรือบรรจุแพ็คละ 4 ชิ้น ราคา 10 บาท โดยทุกร้านปิดประกาศราคาขายชัดเจน และจำกัดการซื้อได้คนละ 1 แพ็กเท่านั้น ไม่มีการขายยกกล่อง โดยเฉพาะร้านค้าส่งขนาดใหญ่จะวางขายหน้าแคชเชียร์เท่านั้น จะไม่วางไว้ตามชั้นวางปกติ เพื่อต้องการตรวจสอบคนซื้อ ป้องกันบางคนใช้วิธีวนซื้อ
นายกิตติ พิทยาพิศาล ประธานบริษัท เมอร์รี่กรุ๊ป จำกัด ห้างซุปเปอร์เชียร์ค้าส่ง ซึ่งจำหน่ายร้านธงฟ้าราคาประหยัดด้วย ต.ทับเที่ยง อ.เมือง กล่าวว่า ประชาชนเดินทางมาหาซื้อหน้ากากอนามัยจำนวนมาก แต่มีไม่พอจำหน่าย และบางช่วงขาดตลาด และหากได้สินค้ามาแต่ละครั้งจะต้องบริหารจัดการให้ดี เพื่อกระจายสินค้าให้ถึงมือประชาชนมากที่สุด ป้องกันการวนซื้อ หรือการซื้อกักตุน โดยล่าสุดวันนี้ทางร้านได้รับมามาอีกจำนวน 1,000 ชิ้น ก็นำมาจัดแบ่งใส่ถุงทำเป็นแพ็กๆ ละ 4 ชิ้น ขายในราคาแพ็กละ 10 บาท ทั้งนี้ ตนเองให้พนักงานขายหยิบมาวางไว้หน้าเคารน์เตอร์แคชเชียร์ เพื่อให้ประชาชนมองเห็น และมีป้ายราคาประกาศชัดเจน ทั้งนี้ เหตุที่ไม่นำไปวางไว้ที่แผงจำหน่ายสินค้าเนื่องจากว่าพอประชาชนเห็นก็จะหยิบเอาคนละหลายแพ็ก หรือบางคนวนซื้อ ไม่สามารถกระจายสินค้าให้แก่ประชาชนได้ เพราะสินค้าที่มีขณะนี้เท่าไรก็ไม่เพียงพอ แต่ในส่วนของเจลล้างมือ ยังมีจำหน่าย แต่ก็มีประชาชนเดินทางมาหาซื้อจำนวนมาก บางคนซื้อยกลัง ซึ่งทางร้านยังสามารถสั่งซื้อเข้ามาได้เรื่อยๆ แต่หลังจากนี้ก็จะจำกัดการซื้อเช่นเดียวกัน
นายกิตติ กล่าวอีกว่า ส่วนตัวแม้จะกังวลในสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้น รแต่เชื่อมั่นและยังมั่นใจฝีมือแพทย์ไทยว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ เพราะจะเห็นว่าแพทย์ไทยสามารถควบคุมตัวเลขได้ดี ยังอุ่นใจ โดยไทยติดอันดับต้นๆของโลกที่ได้รับการยอมรับที่และอเมริการยังชื่นชมแพทย์ไทย จึงเชื่อมั่นว่าจะต้องรับมือได้
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ชื่นชมชุมชนท่องเที่ยวร่วมใจเก็บขยะบนเกาะเหลาเหลียง
- ตรัง ผลผ่าพิสูจน์การตายพะยูน 2 ตัว ผอม หญ้าในท้องน้อย ป่วยตาย
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- ขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรง! อธิบดีกรมท่าฯ ร่อนนส.ด่วน! แจ้งบอกเลิกสัญญาทิ้งงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินตรัง 1.2 พันล.แล้ว…
ทางด้านนางรพีพรรณ ช้างเย็นฉ่ำ พาณิชย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า ประมาณเดือนเมษายน – พฤษภาคม ปริมาณความต้องการจะพุ่งขึ้นสูงมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยทุกฝ่ายคาดการณ์ว่าอาจจะไปถึงระยะต่อไป ตอนนี้ก็ได้หารือกับผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ว่าหากมีต้นทุน และมีแหล่งซื้อสามารถสั่งหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือมาไว้ที่จังหวัดตรังได้ ร้านใหญ่ก็จะสามารถช่วยชาวบ้านได้มาก เพราะร้านเล็กๆ อาจไม่มีต้นทุนที่จะซื้อมาสต๊อกสินค้า ในส่วนของพาณิชย์จังหวัดตรัง ก็ยังคงลงพื้นที่สำรวจ ติดตามปริมาณสินค้าที่มีอยู่ในตลาด และปริมาณความต้องการของตลาดในขณะนี้ว่าเพียงพอหรือไม่ มีการกักตุนสินค้าหรือขายเกินราคาหรือไม่ โดยจะรายงานอัพเดดข้อมูลความต้องการไปให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบตลอดเวลา เพราะเกรงจะไม่ทัน ทั้งนี้ มีการตั้งไลน์กลุ่มของผู้ประกอบการ จะถามความต้องการถ้ามาน้อยก็จะจัดสรรแบ่งกันไป แต่หากมีเพียงพอก็จะจัดส่งตามที่มีการสั่งซื้อ ปริมาณความต้องการขณะนี้พบว่าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมต้องการประมาณ 3 แสนชิ้น แต่ปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นมาก ส่วนการกำกับไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนและขายเกินราคาได้ประชาสัมพันธ์ผ่านทุกช่องทางรวมทั้งผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แต่หากประชาชนพบเห็นการขายเกินราคาขอให้แจ้งมาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศจับไปแล้วประมาณ 50 ราย ส่วนที่ขายออนไลน์ก็จับไปแล้ว 5 ราย ค่าปรับครั้งละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะนี้ในจังหวัดตรังยังไม่ได้รับการร้องเรียนเข้ามา แต่หากมีขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสมาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรังจะเข้าไปดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: