X

ตรัง กระทบผู้ป่วยโควิดรายแรกชื่อ ข้อมูล ส่วนตัวหลุดสู่โซเซียล

ทีมสอบสวนโรค จังหวัดตรัง รายงานต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกของจังหวัดตรัง พบกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดแค่ 2 กลุ่มคือ คนใกล้ชิดที่บ้าน และทีมหมอพยาบาลที่ รพ.ตรังขณะไปพบแพทย์เท่านั้น เนื่องจากผู้ติดเชื้อรับผิดชอบต่อสังคมและป้องกันตนเองอย่างดี ขณะเดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ต ด้วยรถยนต์ส่วนตัว และกักตัวเองภายในขนำแยกส่วนตัวกับสามี ไม่ได้คลุกคลีกับบุคคลอื่น ขณะเดียวกันหนักใจผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลขณะทำงานที่จังหวัดภูเก็ต เนื่องจากไม่พอใจที่ชื่อตัวเองหลุดสู้สังคมภายนอก ทั้งนี้ กลุ่มที่มีการแชร์ชื่อ ที่อยู่ของผู้ป่วยรายดังกล่าว เกิดจากสื่อสังคมโชเชี่ยลไม่ใช่สื่อกระแสหลัก และเชื่อว่าเกิดจากชาวบ้านในพื้นที่ ไม่ใช่จากทีมสอบสวนโรค

เมื่อวันที่  23 มีนาคม 2563  ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายวิศิษฐ์  อนันต์วรปัญญา  ปลัดจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ร่วมกันของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง เรียกประชุมนายอำเภอหรือผู้แทนนายอำเภอจากทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดตรัง เพื่อรับทราบและสรุปสถานการณ์การระบาดล่าสุดของไวรัสโควิดในระดับประเทศ และระดับจังหวัด

โดยมีนายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒน์ปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง  แพทย์หญิงจิรวรรณ อารยะพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง และนายแพทย์ไกรสร โตทับเที่ยง รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลตรัง ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนโรค เข้าให้ข้อมูลด้วย โดยยืนยันผลพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายแรกของจังหวัดตรัง เป็นหญิง อายุประมาณ 22 ปี ชาวอ.เมือง เดินทางกลับจากการทำงานที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต โดยมีอาการป่วย เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตรังเมื่อวันศุกร์บ่าย (20 มี.ค.) จากนั้นทีมแพทย์ได้ตรวจร่างกายเบื้องต้นพบผลเป็นบวก และได้รับการยืนยันผลตรวจพบเชื้อเมื่อคืนวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผลการสอบสวนโรคพบว่า พบกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ในวงแคบๆ แค่ 2 กลุ่มคือ คนใกล้ชิดที่บ้าน โดยเฉพาะสามี และทีมหมอพยาบาลที่ รพ.ตรัง ขณะผู้ป่วยไปพบแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลก็มีขั้นตอนการปฏิบัติกับผู้เสี่ยงสัมผัสเชื้อกลุ่มนี้อยู่แล้ว  ทั้งนี้ เพราะผู้ติดเชื้อรายนี้รับผิดชอบต่อสังคมและป้องกันตนเองอย่างดี ขณะเดินทางกลับจากจังหวัดภูเก็ต โดยทราบว่าตัวเองอยู่ในพื้นที่เสี่ยงคือ จังหวัดภูเก็ต จึงป้องกันตนเองอย่างดี เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และมาถึงก็กักตัวเองภายในขนำแยกไปอยู่ส่วนตัวกับสามี ไม่ได้คลุกคลีกับบุคคลอื่น ทั้งนี้ เบื้องต้นผู้ป่วยให้ความร่วมมืออย่างดีกับทีมสอบสวนโรค แต่ต่อมาปรากฏชื่อที่อยู่ของตนเอง (ผู้ป่วย)หลุด ผ่านทางสื่อ ทำให้ผู้ป่วยกังวลและไม่ไว้วางใจที่จะให้ความร่วมหรือให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการทำงานที่จังหวัดภูเก็ตว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้างกับทีมสอบสวนโรคอีก  ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องรู้ข้อมูลว่าผู้ป่วยรายนี้ทำงานที่ไหน อย่างไร ใกล้ชิดกับใครกี่คน เพื่อจะได้แจ้งข้อมูลไปทางจังหวัดภูเก็ตให้เข้าไปทำงานต่อ เพื่อติดตามกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ที่จังหวัดภูเก็ตต่อไป  ทำให้ทีมแพทย์พยาบาลสอบสวนโรคหนักใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของผู้ป่วยตามมา  พร้อมวอนขอผ่านสื่อมวลชนที่ไปทำข่าว

            อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวสื่อกระแสหลักพบว่า สื่อกระแสหลักไม่ได้เปิดเผยชื่อ ที่อยู่ของผู้ป่วยรายนี้แต่อย่างใด แต่พบเป็นสื่อสังคมโชเชียล เช่น ไลน์ เฟสบุ๊ค รวมทั้งในสื่อโชเชียลดังกล่าวยังระบุและแชร์ข้อมูลแบบผิดๆด้วยว่า ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาด้วยรถทัวร์สายตรัง – ภูเก็ต จะต้องมีผู้สัมผัสใกล้ชิดหลายคน  และมาถึงจังหวัดตรังยังไปช๊อปปิ้งตามห้างสรรพสินค้าอีกด้วย  ซึ่งเป็นข่าวเท็จทั้งสิ้น  สร้างความแตกตื่นให้แก่ประชาชนทั่วไปที่ได้อ่านข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างมาก  ทั้งนี้ เชื่อว่าคนปล่อยชื่อ ที่อยู่ผู้ป่วย น่าจะเกิดจากชาวบ้านในพื้นที่ที่รู้จักครอบครัว หรือผู้ป่วย ไม่ใช่เกิดจากทีมสอบสวนโรคเช่นกัน

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน